วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ทางช้างเผือก (ธารสายน้ำนม)









เราเคยกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายไว้แล้วว่า
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านในทุกวันนี้
มีความประสงค์สูงสุดที่จิตหยาบของท่านต้องรู้
นั่นคือปรารถนาจะ "กลับบ้าน" ที่ตนจากมา
ซึ่งแก่นแท้ของท่านจะกลับบ้านได้ไม่ได้
ก็ขึ้นกับจิตหยาบของท่านเท่านั้น

โดยที่จิตวิญญาณของท่านจะกลับบ้านได้
ก็ต้องมีคุณสมบัติเป็นสุญตา
คือว่างไปจากผลกรรมทั้งปวง
ไม่มีภาระหน้าที่ใดๆที่จะต้องย้อนกลับมาเกิดใหม่อีก

องค์จิตจักรวาลพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ได้ทรงสร้างประตูมิติสำหรับจิตวิญญาณของมนุษย์
ใช้เดินทางผ่านเข้ามาสู่การเกิดในระบบโลก
และใช้เป็นเส้นทางกลับบ้านแดนสุญตาไว้
ตรงปลายปีกทั้งสองข้างของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก
ซึ่งประตูมิตินี้จะเชื่อมต่อกันระหว่าง
สนามพลังงานของเอกภพกับสนามพลังงานสากล
ที่เรียกว่าแดนสุญตาซึ่งจิตวิญญาณท่านจากมานั่นเอง

"ทางช้างเผือก" เป็นเสมือนหนึ่ง
เส้นผ่านศูนย์กลางของเอกภพ
ที่มีขนาดใหญ่สุดในประดา 12,500 ล้านกาแล็กซี่

โดยทรงกำหนดให้มีขนาดความยาว
เท่ากับ 9,999 ยกกำลังสองช่องถ่าง
ระยะห่างแต่ละช่องถ่างมีระยะทางเท่าๆกัน
คือ แปดล้านหนึ่งหมื่นล้านไมล์

ทั้งทรงกำหนดสร้างดาราประดับฟ้า
ที่เป็นดาวมวลแข็งเอาไว้ในช่องถ่างหนึ่ง
แล้วคั่นไว้ด้วยดวงอาทิตย์ที่เล็กกว่า
ดวงอาทิตย์ของโลก 12 เท่า จำนวน 40 ดวง
จัดวางไว้แบบสลับฟันปลาในช่องถ่างถัดไป
โดยทรงกำหนดสร้างไว้แบบช่องเว้นช่อง

นอกจากนั้นตรงช่องที่ 99
นับจากปลายด้านหนึ่งของทางช้างเผือก
พระบิดาทรงกำหนดสร้างระบบสุริยะขึ้นไว้ระบบหนึ่ง
ซึ่งดาวโลกเสรีนี้เป็น 1 ใน 9 ดวงของระบบ

ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งของทางช้างเผือก
ตรงช่องถ่างที่ 696 ทรงสร้างระบบสุริยะไว้อีกระบบหนึ่ง
โดยมีดาวบริวารทั้งหมด 5 ดวง
และดวงอาทิตย์ของระบบนี้ใหญ่กว่าของโลก 20 เท่า
ทั้งสองระบบสุริยะบนกาแล็กซี่เดียวกันนี้
ดาวเคราะห์บางดวงต่างก็มี
สิ่งมีชีวิตลักษณะมนุษย์ดำรงอยู่เช่นเดียวกัน

ดังนั้น
เราจึงขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ดวงจิตวิญญาณของท่านที่ต้องการหลุดพ้นนั้น
ล้วนจะต้องเดินทางไปตามธารสีน้ำนม
หรือที่เรียกว่าทางช้างเผือกนี่แหละ
เพราะการเดินทางไปยังต้นธารแห่งน้ำนมนั้น
มันคือการเดินทางไปหาผู้ให้กำเนิดตนเองโดยแท้

แต่ท่านจะนำพาจิตวิญญาณของท่านกลับบ้านได้
ก็ต่อเมื่อได้ชำระผลกรรมจนหมดสิ้นแล้วเท่านั้น
โดยที่ดวงจิตวิญญาณของท่าน
ต้องสามารถดีดตนเองหนีแรงดึงดูดของโลก
กาแล็กซี่ทางช้างเผือกและเอกภพออกไปให้ได้
ด้วยพลังอำนาจทางจิตวิญญาณที่ท่านสั่งสมไว้
ในทุกภพชาติที่ได้รับโอกาสมาเกิดเป็นมนุษย์

ด้วยเหตุนี้เอง
เมื่อจิตวิญญาณของท่านสามารถนิพพานได้
จึงหมายถึงการสูญหายไปจากระบบเอกภพ
ซึ่งจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านเคยดำรงอยู่
เพราะสามารถดีดตนเองออกไปภายนอกเอกภพได้

สนามพลังงานภายนอกระบบเอกภพนี่แหละ
คือบ้านเกิดเมืองนอนของจิตวิญญาณของท่าน
ซึ่งตัวตนภาคแรกที่สูงส่งของท่าน
ที่เป็นจิตจักรวาลดวงเล็ก
กับองค์จิตจักรวาลผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ซึ่งทรงรอคอยการคืนกลับบ้านของพวกท่าน
ตามพันธะสัญญาเดิมมาตั้งนานแล้วล่ะ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
26-05-2016

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"



จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น