วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

บทเรียนแห่งความกลัวตาย





คนเราถ้าเชื่อแล้วว่า
เหตุร้ายหรือภัยพิบัติมันจะมาถึงตัวจริงๆ
เขาก็จะจะกลัวตายทันที
เมื่อกลัวตายแล้ว
ไม่มีใครที่จะไม่อพยพหลบภัยหรอก
ด้วยข้ออ้างที่ว่าไม่รู้จะอพยพไปอยู่ไหน
ขณะที่หัวใจยังกลัวตายอยู่
ที่เราพยายามนำข่าวภัยพิบัติร้ายๆ
ที่เกิดจริงแล้วมาให้ดู
ก็เพื่อช่วยให้คนที่เคยต่อต้านเรา ไม่เชื่อเรา
ได้หันมาขบคิดพิจารณาและรับฟังเราง่ายขึ้น
เพราะมีตัวอย่างให้ดูจริงๆแล้ว
กล่าวง่ายๆคือ พยายามทำให้พวกเขา "เชื่อเรา"
ว่าพระบิดากำลังชำระโลกกับมนุษย์จริงๆ
มหันตภัยพิบัติกำลังจะมาเยือน
เพื่อให้เขารับฟังคำเตือนของเรา
ด้วยจิตใจที่อ่อนโยน
มิใช่งมงายกับการต่อต้านเรา ก้าวล่วงเราตะพึด
เหมือนทำตัวรอคอยความตาย
ทั้งๆที่ตัวเองก็กลัวตาย
เรารู้ดีว่า.....ตราบใดที่
พวกท่านยังไม่เชื่อข่าวสารด้านภัยพิบัติ
ข่าวสารเรื่องแผ่นดินหายตามแผนที่
ที่เราถือมาฝากด้วยการบันทึกขีดเขียนไว้แล้ว
การกลัวตายของท่านย่อมไม่มีวันจะเกิดขึ้นได้
ตราบใดที่ไม่มีใครกลัวตายจากมหันตภัยที่เราเตือน
โลกนี้ก็จะไม่มีใครเปลี่ยนแปลงตนเอง
เพราะท่านทั้งหลายไม่เชื่อเรา
จึงไม่มีใครกลัวตาย
จึงไม่มีใครเปลี่ยนแปลง
การอพยพหลบภัย
การเตรียมตนเองและจิตวิญญาณ
เพื่อการผจญภัยที่จะมาถึง
มันจึงไม่มีวันจะเกิดขึ้นดังกล่าวนั้น
นอกจากนั้น
การอพยพหลับภัยพิบัติที่เรากล่าวถึงนี้
เป็นเรื่องส่วนบุคคลของประชาชน
ที่จะมีสิทธิแสวงหาที่อยู่ใหม่
ที่ตนคิดว่าปลอดภัยกว่าที่เดิมได้เอง
ตามความพร้อมของตน
โดยไม่ต้องรอฟังคำสั่งหรือการอนุญาต
จากภาครัฐก่อนว่าให้อพยพโยกย้ายได้
ถ้าไม่อนุญาตห้ามโยกย้ายเด็ดขาด
แม้เจ้าของบ้านหลังนั้นเห็นว่าไม่ปลอดภัย
การจะย้ายไม่ย้าย จะย้ายเมื่อไหร่
จะย้ายไปอยู่ที่ไหน
การจะเตรียมตนเองให้พร้อมหรือไม่
มันอยู่ที่ดุลยพินิจทางปัญญาเฉพาะบุคคลว่า
เชื่อมั่นในข้อมูลข่าวสารจากองค์จิตจักรวาล
ที่พระองค์สื่อผ่านมาทางเรากันรึเปล่า
แต่ละท่านมีความพร้อมกันแค่ไหนเท่านั้นเอง
ทุกวันนี้ "คำสอน" ให้ชำระจิตในห้องเรียนนี้
มันจึงดูเหมือนจะนำเสนอน้อยกว่า
การนำเสนอข่าวสารด้านภัยพิบัติ
จึงน้อยกว่าสอนพวกท่านให้ฉลาดอ่านโลก
แล้วใครล่ะ...ที่ทำให้เรา
มีคำสอนให้ท่านชำระจิตใจให้ใสสวย
ค่อนข้างน้อยอย่างทุกวันนี้
จงอย่าเพิ่งเบื่อข่าวสารเรื่องภัยพิบัติก็แล้วกัน
ทีวีทั่วไปเขาไม่ค่อยมีให้ท่านดูแล้วล่ะนะ
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
25-1-2017

บันได 3ขั้น มหันตภัยแห่งหายนะ




พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
สำหรับมนุษย์แห่งโลกเสรีในยุคนี้นั้น
*สิ่งแรกสุดที่จะต้องแก้ไขเยียวยา
ก็คือ "จิตสามนึก"
อันหมายถึง #นึกออก #นึกเอา และ #นึกเอง
โดยจักต้องมีนิสัยการนึก
เป็น #นึกด้านบวก เท่านั้น
*สิ่งที่สองที่จะต้องฝึกฝน
ก็คือ "การใช้ปัญญาเพื่อคิด"
อันหมายถึง #การฉลาดที่จะคิด
โดยฉลาด "เรียนรู้"
และ ฉลาด "นำความรู้มาใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง"
*สิ่งที่สามที่จะต้องพัฒนาไว้เสมอ
ก็คือ "ทักษะชีวิต"
ถ้ามนุษย์โลกยังบกพร่อง
ใน 3 สิ่งที่กล่าวนี้โดยที่
ยังไม่รู้ตัวอยู่
ยังหลงตัวเองอยู่
ยังอดคติต่อ "เรา" อยู่
ยังจดจำพระบิดาแห่งจิตวิญญาณไม่ได้อยู่
คำเตือนของเราแบบ "เตือนแล้วเตือนเล่า"
ก็จะยังไม่มีผู้ใดหยิบมา "ฉุกคิด" ได้หรอก
จนกว่าจะถูกพระบิดาเฆี่ยนด้วยหวายลงมา
ยังพิกัดใดพิกัดหนึ่ง สัก โครม! สองโครม!
โครมแรก....Human Lost
โครมสอง....Land Lost
โครมสาม....Human & Lands Lost.
เมื่อยามโดนหวายเฆี่ยน
หากจะฉุกคิด ได้คิด และคิดได้
มันก็คงจะสายเกินไปเสียแล้วล่ะนะ
ทำอะไรไม่ทันแล้วล่ะ
ทุกสิ่งที่เรากล่าวมาในโพสท์นี้
เราก็ยังไม่รู้ว่าใครได้อ่านแล้ว
จะตัดสินใจกันอย่างไร
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
26-1-2017

ลำดับของความเสียง




เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ในอดีตที่ผ่านมา
ที่ดินริมทะเลและที่ดินบนเกาะในทะเล
มีสนนราคาแพงมาก
คนรวยทรัพย์แบบเศรษฐี
กับผู้มีอิทธิพลทางโลกเท่านั้น
จึงจะสามารถครอบครองเป็นเจ้าของได้
สามารถปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนได้
สังคมพวกท่านจัดให้พวกเขาเหล่านี้
เป็นกลุ่มคนที่มีโชคพาวาสนาสูง
แต่เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ในแผนปฏิบัติการชำระโลก ครั้งที่ 4
เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่นี้
คนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่บริเวณชายทะเล
คนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่บนเกาะกลางทะเล
คนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ
ลำคลอง หนองบึง ทั้งหลาย
จะเป็นผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงภัย
เสี่ยงตายมากที่สุด
คนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่
บริเวณที่ราบกับที่ราบลุ่ม
จะเป็นผู้เสี่ยงภัย เสี่ยงตายรองลงมา
คนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่
ในกลางดงพงป่าและบนภูดอย
จะเป็นผู้เสี่ยงภัย เสี่ยงตายน้อยที่สุด
นี่คือความจริงที่จริงแท้และแน่นอนเป็นที่สุด
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
26-1-2017