วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

อดีตชาติ กับ อนาคตชาติ






ตอบคำถาม: สาธิกานวด

Question:
เรียนท่านอาจารย์ครับ
ท่านอาจารย์เคยอธิบายเรื่องของมายากาลเวลา 
โดยมีปัจจุบันเป็นจุดเชื่อมอดีตและอนาคต
และการเดินทางของกาลเวลาเป็นเส้นตรง
อดีตเป็นเรื่องราวที่ผ่านไปแล้ว

จะแก้ไขก็ด้วยปัจจุบันขณะ
รหัสในอดีตก็จะเป็นโมฆะไป
ส่วนอนาคต เป็นโอกาสที่จะให้เรา
ได้แก้ไขข้อผิดพลาดอีกครั้ง....

ขอเรียนถามว่า
เรื่องราวการย้อนเวลาไปเพื่อแก้ไขอดีต
เหมือนอย่างที่คนหลายๆคนในโลกนี้เขาคิดกันนั้น
มีความเป็นไปได้หรือไม่
ทั้งทางมิติกายภาพและมิติพลังงาน
ถ้าได้ ได้แบบไหน ?
ถ้าไม่ได้ ไม่ได้อย่างไร ?
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

Answer:
1.กาลเวลาในมิติโลกทางกายภาพเท่านั้น
ที่เรากล่าวต่อท่านทั้งหลายว่ามันเป็นเส้นตรง
โดยมีปัจจุบันขณะเป็นศูนย์กลางระหว่าง
เวลาในอดีตกาลที่ผ่านมาแล้ว
กับเวลาในกาลอนาคตที่มันยังมาไม่ถึง

2.กาลเวลาทางกายภาพ
มันเกิดขึ้นทันทีเมื่อมี "ช่องถ่าง"
ระหว่างปัจจุบันกับอดีต
ถ้าช่องถ่างกว้างมากกาลเวลาก็จะมากตาม
ถ้าช่องถ่างน้อยกาลเวลาก็จะน้อยตาม

จึงอาจกล่าวเป็นภาษาวิชาการได้ว่า
จำนวนหน่วยของกาลเวลามากหรือน้อย
มันจะแปรตามระยะห่างของช่องถ่าง
ระหว่างปัจจุบันกับอดีตนั่นเอง

3.ด้วยเหตุนี้เอง
เราจึงกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า
สมการเวลาในมิติโลกทางกายภา
มันจะอยู่ในรูปของเส้นตรง
โดยมีอดีตเป็นจุดเริ่มต้น
มีปัจจุบันขณะเป็นจุดที่ท่านดำรงอยู่
มีอนาคตเป็นจุดที่ท่านกำลังจะไปให้ถึง

4.เราจึงจะกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า
ไม่มีสรรพสิ่งใดที่เป็นรูปธรรมในมิติทางกายภาพ
ที่สามารถเดินทางเคลื่อนที่เท่าความเร็วแสงได้
โดยความเร็วแสงเท่ากับ 186,000 ไมล์/วินาที

เมื่อสรรพสิ่งในมิติทางกายภาพ
เดินทางช้ากว่าความเร็วของแสง
ก็ทำให้เกิดช่องถ่างแห่งกาลเวลาขึ้นมาได้
จึงยังผลให้จุดปัจจุบันเป็นจุดเชื่อมต่อ
ระหว่างอดีตกับอนาคตตามที่ท่านกล่าวมา

แต่เนื่องจากดวงจิตธรรมญาณของมนุษย์นั้น
เป็นรูปธรรมทางพลังงานที่มีคุณสมบัติพิเศษ
คือสามารถเดินทางได้ด้วยความเร็วใกล้แสง!!!
สมการเวลาจึงต่างออกไปมิได้เป็นเส้นตรงแล้ว
เนื่องจากช่องถ่างระหว่าง
อดีตกับปัจจุบันและอนาคตมันไม่มีแล้ว

5.ดังนั้น
กาลเวลาทางจิตวิญญาณจึงมีค่าเท่ากับ "หนึ่ง"
เพราะอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
มันซ้อนทับกันอยู่ตรงจุดที่เป็นปัจจุบันขณะนั่นแหละ
เวลาทางจิตวิญญาณจึงคิดแบบจิตมนุษย์ไม่ได้

ที่พวกท่านกล่าวถึงอดีตชาติ
ภพชาติปัจจุบันและอนาคตชาติกันนั้น
เพราะท่านทั้งหลายมองในมิติโลกทางกายภาพ
โดยเอาภพชาติปัจจุบันแห่งการเกิดเป็นมนุษย์
เป็นจุดศูนย์กลางในการคิดพิจารณานั่นเอง

6.ที่เรากล่าวว่าดวงจิตธรรมญาณ
เป็นรูปธรรมทางพลังงานซึ่งเป็นสรรพสิ่งพิเศษ
ที่สามารถเดินทางด้วยความเร็วใกล้แสงได้

#เพราะเรารู้ว่าดวงจิตวิญญาณทั้งหลาย
#มีความเร็วในการเดินทางเคลื่อนที่
#เท่ากับความเร็วของแสง
#ที่เปลี่ยนค่าเป็น #2เท่าในทุกๆวินาที

ดังนั้น
ทันทีที่จิตวิญญาณของท่านละออกจากร่าง
ตัวตนแก่นแท้ของท่านก็จะเปลี่ยนมิติแห่งกาลเวลา
จากที่เคยเป็นสมการเส้นตรง
มาเป็นกาลเวลาเท่ากับ 1 ทันที

หมายความว่า
ไม่ว่าระยะทางจะห่างไกลแสนไกลแค่ไหน
ดวงจิตวิญญาณของท่านก็จะไปถึงได้
ภายในเวลาเท่ากับ 1 เดียวเท่านั้นเอง
แปลว่าระยะทางใกล้ไกลเพียงใ
ก็จะไม่เป็นปัญหาสำหรับจิตวิญญาณมนุษย์เลย

7.เมื่อความจริงมันเป็นอย่างนี้
จึงยังผลให้กาลเวลา
ทั้งที่เป็นอดีตชาติและอนาคตชาติ
ของรูปธรรมจิตวิญญาณ
ผู้เป็นแก่นแท้ของมนุษย์
มาซ้อนทับกันอยู่กับจุดที่เป็นปัจจุบันชาติ
ขณะที่มนุษย์คนนั้นยังมีชีวิตอยู่อย่างเหมาะเจาะ

ด้วยเหตุนี้เอง
มนุษย์ทุกคนจึงไม่ควรเสียชาติเกิด
โดยต้องฉลาดใช้โอกาสในภพชาติปัจจุบัน
ไม่ก่อกรรมใหม่และแก้ไขกรรมเก่า
ด้วยการครองมหาสติและมีปณิธานแห่งนิพพาน
เพื่อสอบให้ผ่านทุกบททดสอบจิตสามนึก

ถ้าท่านทำสำเร็จ คือ สอบผ่านได้ในชาตินี้
ผลกรรมนั้นๆในอดีตชาติมันก็จะเป็นโมฆะทันที
และแน่นอนว่าการสอบผ่านบททดสอบของท่าน
มันยังเป็นการเปลี่ยนอนาคตชาติของท่านเอง
ไปในเวลาเดียวกันอีกต่างหากด้วย

ที่เรากล่าวมา...มันเป็นความจริงที่จริงแท้
และแน่นอนอีกว่า
หากท่านเข้าใจและเข้าถึงสัจธรรมที่ว่านี้
ท่านเองและมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้
สามารถจะนิพพานหรือ "หลุดพ้น" ได้ในภพชาตินี้
ทันทีที่จบสิ้นอายุขัย

8.เราไม่เข้าใจว่าจะทำเรื่องง่ายๆให้มันยากไปทำไม
กับการพยายามที่จะย้อนเวลาไปหาอดีต
เพื่อหมายจะกลับไปแก้ไขกรรมเก่าของตน
ทั้งๆที่ไม่ว่ากรรมจะเก่าเก๋ากึ๊กแค่ไหน
ท่านก็สามารถที่จะจัดการมันได้อย่างเบ็ดเสร็จ
ในภพชาติปัจจุบันนี้กันอยู่แล้ว

เรื่องย้อนเวลาไปหาอดีต
ทั้งกายภาพและพลังงาน
ที่มนุษย์หัวหมอพยายามคิดกั
เพื่อจะจัดการ "แก้กรรมเก่า" ของตนนั้น
พระบิดาไม่มีวันจะเปิดประตูแห่งโอกาสให้หรอก

เชื่อเราสิว่า...มันเป็นไปไม่ได้
เพราะพระบิดามิทรงอนุญาตไงล่ะท่าน

วิถีจิตจักรวาล
จักนำท่านถึงนิพพานง่ายกว่าที่คิด

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
15-05-2017