วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558

7 ทางเลือกเสรีของท่าน ในกาลสิ้นยุคพลังงานเก่า



หอพระคัมภีร์จิตจักรวาล สื่อถ่ายทอดโดย ป.วิสุทธิปัญญา: 7 ทางเลือกเสรีของท่าน ในกาลสิ้นยุคพลังงานเก่า: เมื่อโลกถึงกาลสิ้นยุคแล้ว ในคาบของการปิดยุค  56 วัน หรือ 8 ราตรี ผู้ที่นำพาจิตวิญญาณตนเอง หลุดพ้นไม่ได้ เมื่อตายแล้วจะไปไหน.... ... 1. ส่งเสริมสนับสนุนให้ทุกคนเข้าใจและเข้าถึงพระธรรมคำสอนของพระศาสดา แห่งศาสนาที่แต่ละคนนับถืออยู่นั้น โดยไม่เชิญชวนให้ท่านเปลี่ยนศาสนาโดยเด็ดขาด 2. เราถือว่าศาสนาทุกศาสนาล้วนยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่อยู่แล้ว พวกเราจึงไม่ได้มีความคิดที่จะตั้งศาสนาใหม่หรือลัทธิใหม่ใดๆ ทั้งสิ้น 3. เรา เชื่อว่าศาสนาทุกศาสนาล้วนเป็นสากล เพราะพระธรรมคำสอนของพระศาสดาทุกพระองค์ล้วนสอนมนุษย์ให้เป็นคนดี มีความรักต่อกัน สอนให้รู้จักใช้เหตุผล สอนให้ไม่โง่และงมงาย และสอนไม่ให้ก้าวล่วงผู้อื่น (มีศีล) เหมือนกันเลย แต่ที่เราต้องเรียนรู้คำสอนรวมกันทั้งสามศาสนา เพราะพวกเราบางคนนับถือคนละศาสนากัน จึงได้นำเอาพระธรรมของแต่ละศาสดามาเติมเต็ม หรือบูรณาการให้เข้าใจกันลึกซึ้งยิ่งขึ้นนั่นเอง เราจึงจำเป็นต้องใช้คำศัพท์เฉพาะที่พระศาสดาพระองค์นั้นๆ ทรงตรัสไว้ เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระศาสดาพระองค์นั้นๆเป็นสำคัญด้วย มิได้มีเจตนาจะเอามาต้มยำทำแกง ตะแบงคำ อย่างที่บางคนร้อนตัวร้อนใจแต่อย่างใด และการที่เราไม่คิดบัญญัติคำใหม่ขึ้นมาแทนคำนั้นๆ ก็เพราะต้องการยืนยันว่า เรามิได้ต้องการสร้างลัทธิใหม่หรือตั้งศาสนาใหม่ หรือต้องการทำลายศาสนาดีๆ ที่มีอยู่อย่างที่บางคนคิดแต่อย่างใดทั้งสิ้น (เรื่องนี้สมาชิกของเราทุกคน ยืนยันได้ว่าจริงอย่างที่เรากล่าวมาใช่มั้ย?) หากใครจะสร้างลัทธิใหม่ศาสนาใหม่จริงๆแล้วยังดันไปลอกเลียนคำศัพท์คำสอนของ พระศาสดาพระองค์อื่นๆ นั้น แค่คิดก็น่าอายแล้ว และคงไม่มีใครโง่ไปเชื่อตามแน่ๆ เพราะทุกท่านล้วนมีภูมิปัญญาทั้งนั้น 4. สิ่ง สุดท้ายที่อยากกราบเรียนท่านผู้เจริญทั้งหลายไว้ ณ ที่นี้ก็คือ พระผู้ทรงเป็นองค์ความรู้ของเรา คือ องค์จิตจักรวาลนั้น พวกเราเรียกพระองค์ท่านว่า พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ ซึ่งมิได้เกี่ยวข้องกับลัทธิไหนศาสนาใดทั้งสิ้น พระองค์ทรงเป็นเพียงองค์ความรู้ของพวกเรา ที่ช่วยเมตตาสื่อสอนให้พวกเราได้รู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ และทรงสอนให้พวกเราได้คิด คิดได้ และคิดเป็น เพื่อทำความเข้าใจในข้อธรรมะของพระศาสดาแต่ละพระองค์ให้กระจ่างมากขึ้นแทน ที่จะงมงาย และยึดติดอยู่กับสัญลักษณ์หรือพิธีกรรม โดยที่พระองค์มิใช่ศาสดาใหม่ของโลกที่จะมาทำลายศาสนาไหนๆ ทั้งสิ้น เพราะพระองค์ทรงเป็นที่สุดแห่งที่สุดอยู่แล้ว 5. พวกเราทุกคนเชื่อว่า พระศาสดาพระองค์ต่อไปก็คือ พระศาสดาศากยมุณีศรีอริยเมตไตรย์ เท่านั้นครับ 6. พวกเรายินดีต้อนรับศาสนิกชนคนประพฤติธรรมทุกคน ที่พร้อมจะยกระดับสติปัญญา พัฒนาจิตสำนึกร่วมกัน ไม่ว่าท่านจะรับถือศาสนาใดอยู่ก็ตาม เพื่อจะช่วยกันปฏิบัติตามปริศนาธรรมของพระพุทธองค์ที่ว่า "เมตตาธรรมค้ำจุนโลก เราคือโลก โลกคือเรา" อย่างเป็นรูปธรรมกันจริงๆ เสียที แทนที่จะมีดีแต่ที่ปากเท่านั้น 7. จง อย่าระแวงพวกเราเลยเพราะจะเกิดทุกข์ใจโดยเปล่าดาย ติดตามพฤติกรรมพวกเราไปเรื่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ท่านจะรู้จักเรามากขึ้น และอาจเป็นอีกคนหนึ่งที่สักวันท่านจะรักพวกเราเหมือนที่เรารักท่านอยู่เช่น กัน

โลกหมุนรอบตัวเองได้ต้องใช้จิตสำนึกมนุษย์




หอพระคัมภีร์จิตจักรวาล สื่อถ่ายทอดโดย ป.วิสุทธิปัญญา: โลกหมุนรอบตัวเองได้ต้องใช้จิตสำนึกมนุษย์: ความรักช่วยให้โลกหมุนได้อย่างไร มนุษย์กับโลกเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไร ความรักจากจิตสำนึกโดยรวมของมนุษย์ เป็นคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่...

สติปัญญา ของจิตวิญญาณ




*เราจะกล่าวความจริงเบื้องต้น
ต่อท่านทั้งหลาย
ถึงลักษณะการใช้สมองซีกขวาเอาไว้ว่า

มันจะต้องสั่นสะเทือนด้วยจิตกับสมองซีกซ้าย
เพื่อการนึกคิดให้ได้ผลลัพธ์หรือผลึกการคิดก่อน
จากนั้นจึงนำคำตอบหรือองค์ความรู้ที่ได้
มาพิจารณาด้วยสมองซีกขวา
ในระบบ "กดปุ่ม" ต่อไป

ปัญหามีอยู่ว่า...
ท่านจะต้องเรียนรู้ต่อไปว่า
จะหาปุ่มที่จะกด
แล้วกดให้ตรงปุ่มนั่นได้หรือไม่
หากค้นหาได้แล้ว
จะกดเป็นกดได้หรือเปล่า

เพราะการไม่ฝึกคิด ไม่ฝึกใช้สมอง
โดยปล่อยไปตามนิสัยสันดานเดิมมาตั้งแต่เกิดนั้น
จึงได้มีผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนแล้ว
ที่จบสิ้นอายุขัยไปจากภพชาตินั้นๆ
ที่ยังมิอาจเข้าถึงความมหัศจรรย์
ของสมองซีกขวาของเขาเลย....

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา
8-07-2015

คัมภีร์แห่งธรรมจักร



คัมภีร์แห่งธรรมจักร:
............................
1.จิตวิญญาณของทุกท่านในทุกภพชาติ
ที่ได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็น "คน" นั้น

จักต้องเรียนรู้ที่จะ "คนตนเอง" ให้เป็น "มนุษย์"
จักต้องเรียนรู้ที่จะ "คนตนเองให้เข้ากันได้ดี" กับผู้อื่น
จักต้องเรียนรู้ที่จะ "คนตนเองให้เป็นหนึ่งเดียว" กับโลก

จักต้องเรียนรู้ที่จะ "คน" ตนเองให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
กับผู้อื่น กับโลก และกับจักรวาลอันไพศาลนี้

2.การคนตนเองให้เป็นมนุษย์หมายถึง
การที่ท่านสามารถใช้กลไกอายตนะภายนอก
เช่น ตา หู จมูก ลิ้นหรือปาก มือ และเท้า
เพื่อการสัมผัสรู้ดูเห็นสิ่งต่างๆรายรอบตัว

แล้วนำเอาผลแห่งการสัมผัสนั่น
มาสั่นสะเทือนจิตใจที่ข้างใน
เพื่อให้เกิดเป็นความรักเพื่อให้

มาสั่นสะเทือนจิตใจที่ข้างใน
เพื่อให้เกิดเป็นความสุขสงบ
แล้วใช้สภาวะจิตที่สุขสงบนั้น
ไปสั่นสะเทือนทางปัญญาของสมองสองซีก
เพื่อสร้างกระบวนการคิดต่อไป

ก่อนที่จะตัดสินใจแสดงออกหรือกระทำ
พฤติกรรมที่เหมาะสมดีงาม
ต่อเพื่อนร่วมโลกได้ทุกสิ่ง

3.ถ้าท่านสามารถเข้าถึงความจริงที่จริงแท้
ในสองประการที่กล่าวมานั้นได้ก็เท่ากับว่า
ท่านเข้าถึงการคนตนเองให้เป็นมนุษย์
หรือท่าน "หมุนธรรมจักร" สำเร็จแล้ว

แต่ถ้าท่านมิอาจเข้าถึงได้ในสองประการที่กล่าวมา
โดยจิตเกิดการสั่นสะเทือนเป็นลบขึ้นมาแทน
จนยังผลให้เกิดความไม่สงบที่ในจิต
จนไม่สามารถเข้าถึงความรักและความคิด
ที่ถูกต้องเหมาะสมและดีงามต่อผู้ใดได้
นี่เท่ากับว่าท่าน "หมุนกรรมจักร" แทนเสียแล้ว

4.ถ้าหากท่านสามารถหมุนธรรมจักรได้
ปฏิบัติการนี้จะยังผลให้
เกิดพลังงานด้านบวกขึ้นมาได้
ซึ่งเป็นคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
ที่ทุกคนทุกสรรพสิ่งและดาวโลกล้วนต้องการ

แต่ถ้าท่านหมุนกรรมจักร
ปฏิบัติการนี้ก็จะยังผลให้
เกิดพลังงานด้านลบขึ้นมาแทน
ซึ่งเป็นคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านลบ
ที่ทุกคนทุกสรรพสิ่งและดาวโลกไม่ต้องการ

5.พลังงานด้านบวก
จากการสั่นสะเทือนทางจิตปัญญา
เป็นพลังงานสร้างสรรค์
นั่นคือ บุญกุศล

พลังงานด้านลบ
จากการสั่นสะเทือนทางจิตปัญญา
จักเป็นพลังงานขยะ
นั่นคือ บาปกรรม

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา
10-07-2015

สาเหตุของเวรกรรม




เวรกรรม หมายถึง
ผลกรรมใดๆที่เกิดขึ้นในมิติทางพลังงาน
จากการที่ท่านกระทำไม่ถูกต้อง
ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น

มีเพียงเจ้าของมันเท่านั้น
จึงจะสามารถทำให้ผลกรรมทางพลังงานนี้
เป็นกลางทางไฟฟ้า (Neutral) ได้
ด้วยการย้อนกลับมาสู่การเกิดเป็นมนุษย์ใหม่
เพื่อพบเจอเงื่อนไขสถานการณ์แบบเดิมๆนั้นอีกครั้ง
แล้วตัดสินใจใหม่ให้ถูกต้อง
ด้วยความรัก ด้วยปัญญา
และด้วยองค์ธรรมจากพระบิดา
นี่คือกระบวนการล้างกรรม.....ล่ะนะ

ด้วยเหตุนี้เอง
ผลกรรมของใคร
คนนั้นจึงต้องรับผิดชอบ

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา
17-07-2015

ตัวชี้วัดแห่งคุณสมบัติอันยิ่งยวด




ดาวเคราะห์โลกกำลังถูกชำระ
เพื่อปรับสมดุลใหม่
ตามสมการสามมิติ 6-6-6

เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกนี้สู่ยุคพลังงานใหม่
ด้วยพลังงานบริสุทธิ์จากจิตวิญญาณของผู้มาใหม่
ผู้ก้าวมาจากดินแดนแห่งฟ้าสีครามอันแสนไกล

ขณะที่จิตวิญญาณมนุษย์ทั้งมวลจักถูกพิพากษา
เสมือนดั่งปลาที่ต้องถูกคัดทิ้งแลคัดไว้
ด้วยตัวชี้วัดแห่งคุณสมบัติอันยิ่งยวด
รวม 5 ประการ ดังต่อไปนี้

1.มีจิตใสใจสวย
2.ฉลาดด้วยปัญญาญาณ
3.มุ่งปณิธานแห่งการหลุดพ้น
4.เป็นคนเหนือกรรม
5.รู้ทำสามเหลี่ยมกับพระบิดา

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา
17-07-2015

สายอริยะ สำหรับนักสู้เพื่อการรู้แจ้ง




วิธีง่ายๆบนเส้นทางสายอริยะ
สำหรับนักสู้เพื่อการรู้แจ้ง
ที่ปรารถนาการเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
เพียงแค่ท่านสั่นสะเทือนจิตปัญญาตนเอง
ด้วยการกระทำผ่าน "มหาสติ"
อันเป็นธรรมชาติสมาธิในทุกขณะจิต
เพื่อการดำเนินชีวิตประจำวันร่วมกันกับผู้อื่นเท่านั้น
แรงสั่นสะเทือนทางจิตปัญญาอันเกิดจากมหาสติ
มันจะสั่นสะเทือนเป็นคลื่นแผ่ขยายกระจายไปรอบทิศ
โดยมีตัวท่านเสมือนหนึ่งเป็นจุดศูนย์กลางแห่งจักรวาล
โอม...มหาสติ
ป.วิสุทธิปัญญา
29-07-2015

นิสัยการคิดของมนุษย์




นิสัยการคิดของมนุษย์มี 6 จำพวก

แล้วท่านล่ะ...
จัดอยู่ในจำพวกไหนกันนะ

ป.วิสุทธิปัญญา
30-07-2015

เครื่องยังชีพของดวงจิตธรรมญาณ



ถ้าร่างกายต้องการอาหารและน้ำดื่มเพื่อการยังชีพ
จิตวิญญาณของท่านก็ต้องการพระโอวาท
เป็นเครื่องยังชีพด้วยเช่นเดียวกัน

มนุษย์จึงต้องรู้ว่าอาหารใด
ที่ตนควรบริโภคหรือไม่ควรบริโภคบ้าง
และตนควรบริโภคอาหารนั้นๆกันอย่างไร
จึงจะทำให้ตนเองอยู่ดีมีสุข
แข็งแรงและมีอายุยืนยาว

จิตวิญญาณของท่านก็เช่นกัน
ย่อมมีความต้องการที่จะได้รับการดูแล
จากจิตหยาบหรือจิตมนุษย์ของท่านด้วย
ซึ่งสิ่งที่แก่นแท้ของท่านปรารถนาเป็นที่สุด
คือ การได้รับฟังพระโอวาท
ที่ทรงพระเมตตาสื่อผ่านเรามาในทุกวโรกาส

พระโอวาทจักกระตุ้นจิตวิญญาณของท่าน
ให้เกิดการสั่นสะเทือนด้านบวกขึ้นมาได้
ด้วยแรงสั่นสะเทือนสูงสุดที่มนุษย์คนไหนๆ
ก็มิอาจเป็นเงื่อนไขให้ท่านได้เลย

ถูกต้องแล้ว....
มันคือคลื่นความรักบริสุทธิ์จากแก่นแท้
ที่สามารถจะทำให้อำนาจด้านลบทุกอย่างเป็นกลางได้

นี่แหละ...
คืออำนาจในตนเองของท่านในส่วนเพิ่ม
ซึ่งท้านสามารถเข้าถึงมันด้วยตนเองได้เสมอ
โดยเฉพาะในยุคสุดท้ายนี้
ในยุคที่เรากลับมาตามสัจจะวาจาที่ให้ไว้
เพราะมีมนุษย์อยู่ตรงไหน
เราก็จักสื่อถ่ายทอดพระโอวาท ณ ตรงนั้นเสมอ

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา
3-08-2015