วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

จงทำความหลงผิดให้กระจ่าง อย่าแอบอ้างว่าพระพุทธเจ้าสอนสั่ง






จงทำความหลงผิดให้กระจ่าง
อย่าแอบอ้างว่าพระพุทธเจ้าสอนสั่ง
ทั้งๆที่มโนกันไปเอง....
***********************************
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
คำกล่าวของพระพุทธเจ้าที่ว่า

"ถ้าหาคนที่มีศีลเสมอกันหรือสูงกว่า
เดินไปด้วยกันไม่ได้...
พระพุทธองค์ทรงให้เลือก
"เดินไปคนเดียว"
เพราะเลือกคบคนอย่างไร
เราก็จะเป็นอย่างนั้น"

เป็นการยกเอามาอ้างแบบบิดเบือน
เพราะพระพุทธองค์มิได้ทรงกล่าวสอน
เช่นว่านั้นเลย....
สาธุคุณทั้งหลายเอ๋ย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

1.คำกล่าวที่ถูกต้อง
ที่พระพุทธเจ้าทรงกล่าวไว้จริงๆนั้น
มีความว่าดั่งนี้ต่างหากล่ะ

"ถ้าเธอหาคนที่มีศีลเสมอกันหรือสูงกว่า
เดินไปด้วยกันไม่ได้......ชั่วชีวิตนี้
เธอคงต้องเดินไปคนเดียวแล้วล่ะนะ"

2.เราใคร่ถามท่านทั้งหลายว่า
ความในเครื่องหมายคำพูดในข้อ 1.นั้น
มีตรงไหนที่ทรงตรัสสั่งสอนว่า
ให้เลือกที่จะเดินไปคนเดียว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
????????????????

3.ท่านไม่รู้หรือว่า
คนที่ต้องเดินคนเดียวบนโลกนี้
ทั้งๆที่มีคนรอบข้างตั้งมากมายนั้น
มีสาเหตุจาก 2 ประการเท่านั้นเอง คือ

*ประการแรก
เพราะไม่มีใครต้องการจะเดินด้วย
หมายถึง ไม่มีใครคบ

*ประการที่สอง
เพราะไม่ต้องการจะเดินกับใครเลย
หมายถึง มองคนอื่นไม่มีคุณค่าแก่การคบหา

4.ท่านรู้หรือไม่ว่า.....ปกติแล้ว
การมองหาคนที่มีศีลเสมอกันไม่เจอนั้น
หมายถึงท่านมองเห็นแต่คนที่
มีศีลต่ำกว่าและสูงกว่าท่านเท่านั้นเอง
ใช่มั้ย?

5.แต่มนุษย์คนนี้นั้น......
นอกจากจะมองหาคนที่มีดีเสมอกับตนไม่เจอแล้ว
ยังมองหาคนที่มีศีลสูงกว่าตน
หรือมองหาคนที่เขาเป็นคนดีกว่าตนไม่พบอีกด้วย
แสดงว่า....นายคนนี้หลงตัวเองชัดๆ!!!

ที่เรากล่าวว่านายคนนี้หลงตัวเอง
เพราะเขาคิดว่าตนเองดีที่สุด
มีศีลสูงสุดเกินกว่ามนุษย์ทั้งโลกเลย
เขาจึงมองไม่เห็นคนที่มีศีลเสมอกันกับตน
เขาจึงมองไม่เห็นคนที่มีศีลสูงกว่าตน
กรรมเวรแท้ๆ....หนอ

6.ด้วยเหตุนี้เอง
พระพุทธองค์จึงทรงตรัสกับนายคนนี้
ซึ่งเราขออนุญาติพระพุทธองค์กล่าวแทน
เป็นภาษาชาวบ้านว่า.....

"ถ้าเธอหาคนดีเท่าเธอและดีกว่าเธอ
คบหาสมาคมด้วยไม่ได้
งั้นเธอก็เดินไปคนเดียวก็แล้วกัน
เพราะเธอมองคนอื่นๆว่าเขามีศีลธรรม
ต่ำกว่าเธอทั้งนั้นเลย"

7.ศาสนิกทั้งหลายจักต้องระวัง
การเสพธรรมะของท่านเอาไว้ด้วย

พระคำและพระธรรมจากโอษฐ์พระศาสดา
ที่ตกทอดผ่านความจำของผู้คน
ติดต่อกันมานานนับพันๆปีแล้วนั้น
ยังมีอีกมากมายหลายบทหลายตอน
ซึ่งตกอยู่ในลักษณะที่เรายกมากล่าวนี้

นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่เราต้องกลับมา
กลับมาชำระพระโอวาทพระบิดา
ซึ่งถูกบิดเบือนไปจากที่เราเคยกล่าวไว้
นานสองพันกว่าปีมาแล้ว...

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
4-12-2015

ทุกสิ่งขึ้นกับจิตสำนึกปัจจุบัน






ATTN: Surapa Ruangpanyapot
Question:
การที่คน/มนุษย์จะฉุกคิด/
จะตระหนักรู้ จะมีโอกาสมาฟังคำสอนของท่านอาจารย์
และได้ปฏิบัติธรรมตามคำสอนนั้น
ถูกกำหนดมาด้วยหรือเปล่าค่ะ...???...

Answer:
1.ใครจะฉุกคิดได้หรือไม่ได้
เมื่อรับฟังพระโอวาทแล้วนั้น
เป็นความฉลาดทางจิตปัญญา
ของคนผู้นั้นเอง
มิได้มีการกำหนดแผนมาล่วงหน้าหรอกว่า
ใครจะฉุกคิดได้หรือไม่ได้

2.ใครจะตระหนักรู้ได้หรือไม่
จะตระหนักรู้ได้มากน้อยแค่ไหน
ก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกในปัจจุบัน
ของแต่ละคนกันอีกนั่นแหละ

ใครสามารถที่จะสำนึกได้ช้าเร็วกว่าใคร
เมื่อได้รับฟังคำสื่อสอนจากพระบิดาแล้วนั้น
มันก็ขึ้นอยู่กับความเอาไหนไม่เอาไหน
ของใครแต่ละคนนั้่นด้วย

3.ใครจะมีโอกาสมาฟังพระโอวาทพระบิดา
ที่ทรงสื่อผ่านมาทางเราหรือไม่นั้น
มันขึ้นอยู่กับการที่แต่ละคนจะใช้โอกาสนี้หรือไม่
เพราะการที่พระบิดาให้เรามาสื่อสอนพวกท่าน
ก็นับว่าเป็นการเปิดโอกาสให้แก่ทุกๆคน
บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
อย่างทัดเทียมกันอยู่แล้ว

คนที่บอกว่าไม่ว่างมาฟังพระโอวาท
ทั้งๆที่รู้กำหนดวันเวลาสื่ออยู่อย่างแม่นยำ
อ้างว่าต้องไปทำโน่นนั่นนี่หรือทำนองนั้น
โดยเห็นว่าเรื่องอื่นสำคัญกว่า
จึงทิ้งโอกาสรับฟังพระโอวาท
ไปทำอย่างอื่นแทน
แล้วมาอ้างว่าอยากมาฟังเหมือนกันแต่ไม่ว่างนั้น

เราจึงใคร่ถามท่านทั้งหลายว่า

ทีหิวข้าว....ทำไมจึงว่างไปกิน?
ทีปวดท้องอึ๊...ทำไมจึงว่างเข้าส้วม?
ทีเจ็บไข้ได้ป่วย....ทำไมจึงว่างไปหาหมอ?

4.ดังนั้น เราจึงขอยืนยันต่อท่านทั้งหลายว่า
ไม่มีใครหรือผู้ใดจะสามารถกำหนดมาล่วงหน้า
ตามที่กล่าวมาทั้ง 3 ประการข้างต้นนั้นได้
เพราะการที่พระบิดาทรงใช้ให้เรามา
ทำหน้าที่สื่อพระโอวาทต่อท่านทั้งหลาย
และแจ้งข่าวสารการชำระโลก

จนแม้กระทั่งจะพิพากษาว่า
ใครเป็นผู้รอดหรือใครเป็นปลาที่จะถูกคัดทิ้ง
ก็คนผู้นั้นเองแหละ
ที่จะเป็นผู้เลือกทางดำเนินของตนเอง

5.ผู้ที่เชื่อฟังเราแล้วเฝ้าติดตามฟังพระโอวาท
จะปฏิบัติตนจนหลุดพ้นได้หรือไม่ได้
จะเป็นสัดส่วนเท่าใดกับผู้ไม่รอด

ก็ล้วนขึ้นอยู่กับคนๆนั้นในภพชาตินี้เช่นกันว่า
จะใส่ใจในคำสอนแค่ไหน
จะมุ่งมั่นหมั่นปฏิบัติกันสักเพียงใด
จะฉลาดเรียนรู้กันหรือไม่ เป็นต้น

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
11-1-2016

จะเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์โลกเสรีนี้บ้าง






จะเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์โลกเสรีนี้บ้าง
ถ้าเราจะสมมติว่า....

ดาวเคราะห์โลกเสรีนี้
พร้อมกับมนุษย์และทุกสรรพสิ่งในระบบโลก
กำลังถูกชำระเพื่อปรับสมดุลใหม่ทั้งระบบ
ทั้งในมิติทางกายภาพและพลังงาน

โลกจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ผิดธรรมชาติ
รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ขยายพื้นที่ภัยพิบัติกว้างขวางออกไปเรื่อยๆ

ภูมิอากาศและภูมิประเทศจะเปลี่ยนไป
จะเกิดภัยร้ายที่ทำให้มีคนตายคราวละมากๆ
โดยเฉพาะเหตุจากพายุหมุน มหาอุทกภัย
พายุหิมะ พายุทราย พายุแม่เหล็ก
กับเชื้อโรคร้ายแพร่ระบาด
จนไม่รู้ว่าใครจะช่วยใคร
จนไม่มีชาติไหนว่างพอจะทำสงครามกับชาติอื่น
เพราะต้องหยัดยืนทำสงครามกับภัยธรรมชาติ

อำนาจแม่เหล็กโลกจะเสียสมดุล
โลกจะหมุนแบบแกว่งหรือส่าย
เพราะฤทธิ์แผ่นดินไหวแรงๆ
เพราะภูเขาไฟใหม่เก่า ปะทุบ่อย ปะทุแรง
แถมจะมีบางประเทศที่ภูเขาไฟจะปะทุขึ้นมาใหม่

ขณะที่สถานการณ์ปริมาณก๊าซออกซิเจน
ในระบบโลกที่มนุษย์และสัตว์ต้องใช้หายใจ
จะลดลงสู่จุดวิกฤต (Critical Point) อย่างแนบเนียน
โดยไม่มีใครทันตั้งตัว....
ปริมาณก๊าซพิษในบรรยากาศจะเพิ่มขึ้น
จนไม่สามารถแก้ไขเยียวยาได้

หมู่นกจะหลงฟ้าตกลงมาตาย
ปลาและสัตว์น้ำมากมาย
จะหลงน้ำมาเกยตื้นให้เห็นบ่อยขึ้น

แผ่นดินชายฝั่งทะเลจะสูญหาย
จะปรากฏแผ่นดินยุบแยกตัวและสั่นไหวไปทั่วโลก
น้ำจะท่วมฟ้า ปลาจะกินดาวเป็นแห่งๆ
เหตุเพราะแผ่นดินนั้นจะถูกน้ำท่วม
ทั้งถาวรและชั่วคราว

โลกจะขาดแคลนน้ำและอาหารมากขึ้น
มนุษย์จะต้องทำสงครามกับโรคร้าย
ขณะที่คนในชาติเดียวกันจะลุกขึ้นมาฆ่ากันเอง
เพราะถูกซาตานเสี้ยมเพื่อหวังประโยชน์
จนโกลาหลไปทั่วทวีป

จิตสำนึกกับพฤติกรรมมนุษย์จะตกต่ำ
สำนึกแห่งคุณธรรมจะลดลง
คนจะทำชั่วโดยไม่รู้ตัวว่าชั่วกันมากขึ้น
คนดีจะอยู่ยาก คนไม่ฉลาดจะอยู่อย่างลำบาก
ผู้คนจะใจดำ ใจร้าย นิยมความรุนแรง
ขาดความสามารถในการใช้สติปัญญา
มีปัญหาทางอารมณ์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

มนุษย์ส่วนใหญ่จะขาดวินัยในการดำเนินชีวิต
ไม่มีวินัยในการอยู่ร่วมกัน
ไม่มีวินัยในการกิน อยู่ หลับ นอน
ไม่มีวินัยในการคิด ฟัง พูด
เหตุเพราะเอาตนเองเป็นใหญ่
เอาความมักง่ายเป็นเกณฑ์

เราขอสมมติไว้เพียงเท่านี้ก่อน
ขอท่านทั้งหลายตรองกันเล่นๆดูว่า
ถ้าคนทั้งโลกหรือเพียงส่วนหนึ่งเชื่อเรา
เพราะยอมรับว่าน่าจะเป็นไปได้จริงๆแล้ว

พวกเขาที่เชื่อกับพวกที่ไม่เชื่อ
แต่ละขั้วเขาจะทำอย่างไรกันบ้าง
กับสถานการณ์เหล่านี้....

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
12-1-2016