วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ทรงใช้ให้เรากลับมา กล่าวพระโอวาท ในนามแห่งพระองค์








สมาชิกครอบครัวจิตจักรวาลแห่งเราทั้งหลาย
รวมทั้งท่านผู้ผ่านเข้ามาเยือนหน้านี้ทุกคน

เป้าประสงค์หลักของเฟสบุ้ค "Visudhi Punya"
ซึ่งเป็นศูนย์รวมของศาสนิกชนคนประพฤติธรรม
มีดังต่อไปนี้

1.ทำหน้าที่ถ่ายทอดสื่อพระโอวาท
จากพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ในพระนาม "องค์จิตจักรวาล"
ในปลายยุคพลังงานเก่า
เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่
ในระบบจิตสู่จิตแนวดิ่ง (Vertical Telepathy)

2.ทำหน้าที่ชี้สัจธรรมดับความงมงาย
เพื่อสรรสร้างสังคมอุดมปัญญา
สำหรับทุกศาสนิกชนคนประพฤติธรรม
ผู้ปรารถนานำพาจิตวิญญาณสู่การหลุดพ้นในชาตินี้
ด้วยมรรควิถีแห่งจิตจักรวาล
ในบริบทแห่งฆราวาสประพฤติธรรม
ผู้เป็นนักสู้เพื่อการรู้แจ้ง

3.ทำหน้าที่แจ้งข่าวสารจากจิตจักรวาล
เกี่ยวกับปฏิบัติการชำระโลก ครั้งที่ 4
เพื่อเปลี่ยนโลกสู่ยุคพลังงานใหม่ (New Age)
ที่จะต้องมีพลังอำนาจมากกว่าเดิม 2 เท่า

โดยมนุษย์โลกจักต้องถูกเปลี่ยนแปลงจิตสำนึก
และดาวเคราะห์โลกจะถูกจัดระบบองค์กรใหม่
ให้มีความสมดุลในระดับที่สูงกว่ายุคพลังงานเก่า
ทั้งในมิติทางกายภาพและมิติทางพลังงาน
ซึ่งปฏิบัติการนี้จะทำให้แผ่นดินโลกบางส่วนหายไป
กับผู้ที่ยังใช้จิตไร้สำนึกดำเนินชีวิตจะไม่ถูกคัดไว้

4.ทำหน้าที่นำหลักฐานการเกิดภัยพิบัติจากทั่วโลก
มาแสดงไว้ตรงนี้เพื่อสั่นสะเทือนจิตสำนึกของสมาชิกฯ
ให้ยอมรับความจริงและใช้สร้างกฤตสติเตรียมตน
เพื่อการผจญภัยในวันที่ตนเองต้องเผชิญ
เหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์แบบนั้นบ้างในวันข้างหน้า

โดยที่เราจะนำเอาภัยพิบัติที่เกิดแล้วในแต่ละวัน
มายืนยันคำกล่าวข่าวสารของเราว่า "โลกนี้กำลังมีภัย"
พร้อมอธิบายเบื้องหลังแห่งการเกิดพิบัติภัยนั้นๆว่า
ทำไมจึงเกิด เกิดเพราะอะไร มีนัยอะไรน่ารู้บ้าง

ดังนั้น
ถ้าข่าวสารด้านภัยพิบัติของเรา
นำมาแสดงอ้างอิงได้รวดเร็วกว่าเพ็จภัยพิบัติของใคร
และละเอียดในสถานการณ์ภัยพิบัติ
เกินกว่าท่านจะเข้าถึงตามทันได้
เราก็จำต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แต่จงรับรู้ด้วยว่าเรามิได้ปรารถนาจะใช้พื้นที่ตรงนี้
แข่งขันกับใครในการแจ้งข่าวภัยพิบัติ
เพราะเราทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณ
ตามที่ขันอาสาองค์จิตจักรวาลลงมาเท่านั้น
มิใช่หน้าที่ทางโลก

นอกจากนั้นเนื้อหาสาระของข่าวภัยพิบัตินั้น
เราจะเน้นที่ภาพเหตุการณ์จริงให้ท่านได้เห็น
เพื่อกล่าวความจริงหรือสัจธรรมต่อท่านเท่านั้น
เราจะไม่เน้นที่มาของแหล่งข่าวนั้นๆ
เพื่อให้ท่านไปสืบค้นต่อเนื่องต่อไปอีก
เพราะมันมิใช่หน้าที่ของเรา
แต่เรามีสำนึกขอบคุณแหล่งข่าวทั้งหลายอยู่แล้ว

ส่วนใหญ่เราจะได้รับคลิปภาพข่าวภัยพิบัติ
มาจากพี่ๆน้องๆชมรมจิตจักรวาลศึกษาแห่งโลก
ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในทุกทวีปทั่วโลกเสรีนี้
อีกทั้งเรายังมีเพื่อนๆของ Visudhi Punya
ราวๆ 2,291 คน ไม่นับที่รอเรารับเป็นเพื่อนอยู่อีกด้วย
พร้อมทั้งยังมีสำนักข่าวระดับชาติอีกหลายสำนัก
ที่เขามีสำนึกดีพร้อมสนับสนุนข่าวสารแก่พวกท่าน
และตัวเราเองก็สำนึกขอบคุณ
สำนักข่าวทุกแหล่งด้วยจิตคารวะเสมอมาอยู่แล้ว

อีกทั้งเราก็จะไม่เน้นลงไปในรายละเอียดว่า
ภัยพิบัติที่เรานำมาเสนอนั้น
มันเกิดที่หมู่บ้าน ตำบล อำเภอใด
เรามักจะระบุนามประเทศนั้นแบบกว้างๆ
เพราะไม่ว่าภัยพิบัติจะเกิดตรงไหนพิกัดใด
มันก็ล้วนเกิดขึ้นในระบบโลกนี้ทั้งนั้น

อีกเพราะเรามิได้ขายข่าวด้านภัยพิบัติ
เราจึงไม่เน้นที่รายละเอียดของพิกัดตำแหน่งที่เกิด
แต่เราเน้นให้เปล่าในความจริงเบื้องหลังภัยพิบัตินั้น
ซึ่งท่านทั้งหลายไม่รู้ว่าไม่รู้แต่เราเห็นสมควรว่าต้องรู้

5.หน้าที่ของเราเฉพาะกรณีภัยพิบัติ คือ
ใช้หน้าเฟสบุ้คนี้เพื่อ....

ยืนยันว่าเรากล่าวพระโอวาทในพระนามพระบิดาจริง
ยืนยันว่าโลกกำลังเกิดภัยพิบัติรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจริง
ยืนยันว่าโลกวิกฤตเพราะจิตสำนึกมนุษย์ป่วยจริง
ยืนยันว่าภัยพิบัติโลกมีช่างเท็คนิกอยู่เบื้องหลังจริง
ยืนยันว่าพื้นที่สีแดงในแผนที่จิตจักรวาลเป็นความจริง
ยืนยันว่าคาบสุดท้ายของการเกิดภัยพิบัตินั้น
โลกจะมืดทั้งโลกนาน 56 วันโลก หรือ 8 ราตรีฟ้าจริง

เราจึงขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายไว้อีกครั้ง
ในพระนามแห่งองค์จิตจักรวาล
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณของ่ทานทั้งหลาย

กราบพระบาทขอบพระทัยพระบิดาที่ทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
27-06-2016

จงทำดีเพราะรู้ว่าดี จงมีความปีติยินดีในความดีที่กระทำนั้นก็พอแล้ว







เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

จงอย่าทำความดีงามใดๆเพื่ออวดคนอื่นๆ
จงอย่าทำความดีงามใดๆเพื่อหวังเอาหน้า
จงอย่าทำความดีงามใดๆเพื่อหวังคำสรรเสริญ
จงอย่าทำความดีงามใดๆเพื่อหวังสิ่งตอบแทน

ท่านจะมิได้รับบำเหน็จรางวัลใดๆจากพระบิดา
เพราะท่านได้รับบำเหน็จรางวัลตามที่หวังนั้นไปแล้ว

บำเหน็จรางวัลที่ท่านหวังจากการกระทำกรรมดีนั้น
เป็นผลของการกระทำในมิติโลกทางกายภาพ
ที่ตัวท่านเป็นผู้กำหนดมันขึ้นมาเอง
ด้วยจิตหยาบและจิตวิญญาณของท่าน
โดยจิตทั้งสองจะสั่นสะเทือนร่วมกันในสองมิติ
เพื่อให้บำเหน็จรางวัลนั้นแก่การกระทำของตัวเอง

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
การกระทำความดีงามแล้วร้องขอสิ่งตอบแทนดั่งนี้
เป็นการประพฤติดีปฏิบัติชอบที่ไม่ถูกต้อง
เพราะท่านได้ก้าวล่วงกระบวนการของ "พระเจ้า"
ด้วยการแทรกแซงภารกิจแห่งองค์จิตจักรวาล

จนยังความ "เสียหาย" ต่อสมดุลแห่งจักรวาล
จนสร้างความ "เสียประโยชน์" ทั้งหมดทั้งมวล
ต่อจิตวิญญาณของตัวท่านเอง
เสมือนหนึ่งท่าน "ปฏิเสธ" บำเหน็จจากพระองค์โดยแท้

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

ท่านจักต้องรู้ว่าการสั่นสะเทือนทางจิตสาม (สำ) นึก
จนเกิดเป็นอารมณ์รู้สึกนึกคิดต้องการที่จะทำดีใดๆ
แล้วถูกขับเคลื่อนออกมาทางกายกรรม-วจีกรรมนั้น

ถ้าจิตมนุษย์ของท่านไปใส่รหัสผลลัพธ์ที่ต้องการไว้
จิตวิญญาณของท่านโดย "จิตใต้สำนึก"
ก็จะสั่นสะเทือนไปตามความต้องการของจิตสำนึก
เพื่อใช้ "พลังทางจิตวิญญาณ" ไปเหนี่ยวรั้งดึงดูด
สิ่งที่ท่านวาดหวังมาเป็น "บำเหน็จ" แก่ท่านเสมอ
ซึ่งมีทั้งได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างปะปนกันไป

แต่ถ้าท่าน "สั่นสะเทือน" จิตสำนึกของท่าน
เพื่อการแสดงออกหรือกระทำความดีงามใดๆในชีวิต
โดยไม่ใส่รหัสความต้องการในบำเหน็จเอาไว้
"จิตใต้สำนึก" ก็จะสั่นสะเทือนไปตาม "จิตสำนึก"
เพื่อให้เกิดการกระทำในมิติของจักรวาล
คู่ขนานไปกับการสั่นสะเทือนในมิติโลกได้อย่างเสรี

สายธารแห่งคลื่นพลังงานจากจิตใต้สำนึกที่ดีงามนั้น
ก็จะถูกเหวี่ยงออกมาจากแก่นแท้สู่ภายนอก
แล้วเคลื่อนตัวผ่านสนามพลังงานที่อยู่รายรอบ
เพื่อเดินทางไกลไปกราบถวายรายงานต่อพระบิดา
ซึ่งทรงประทับอยู่ ณ จุดศูนย์กลางจักรวาลสากล

พระองค์ก็จะทรงพิจารณาความดีความชอบของท่าน
เพื่อประทานบำเหน็จรางวัลอันเหมาะสมมาให้เอง
โดยที่ตัวท่านไม่จำเป็นจะต้องร้องขอเลย

เพราะทุกสรรพสิ่งในจักรวาลอันไพศาลนี้
รวมทั้งมนุษย์ทุกคนบนโลกเสรีนี้ด้วย
ล้วนถูกกำหนดติดตั้งให้มีการเชื่อมโยงเอาไว้
กับจุดศูนย์กลางของจักรวาลสากล
อันเป็นจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของทุกสรรพสิ่ง
ซึ่งตัวเราถวายพระนามแก่พระองค์ว่า "พระเจ้า" นั่นเอง

ดังนั้น
ท่านทั้งหลายจึงต้องรู้เอาไว้ว่า
ถ้าท่านทำความดีงามใดๆแล้วร้องขอสิ่งตอบแทน
มันก็คือการกำหนด "บำเหน็จ" ที่ตนต้องการ
ให้จิตวิญญาณของท่านใช้ "พลังจิตใต้สำนึก"
ไปเที่ยวน้อมนำสิ่งนั้นๆมาให้ท่านเอง
ซึ่งเป็นการแทรกแซงกระบวนการของพระเจ้า

การทำดีเพื่อหวังเอาหน้า หวังให้ผู้คนสรรเสริญ
การทำทานแล้วอธิษฐานขอสิ่งตอบแทนทุกครั้งที่ทำ
ท่านจะมิอาจรับบำเหน็จจากพระหัตถ์ของพระเจ้าได้
เพราะท่านสั่งการให้จิตวิญญาณตนเอง
ใช้พลังจิตใต้สำนึกตอบสนองความต้องการให้แล้ว
พลังจิตใต้สำนึกจึงสูญเปลืองไปอย่างไม่สมค่า

เพียงแค่ท่านได้หน้าได้ตาได้คำสรรเสริญเยินยอ
เพียงแค่ท่านได้ประโยชน์โภชน์ผลตอบแทน
ตามที่คิดต้องการหรือตามที่อธิษฐานร้องขอ
ก็ล้วนแต่เป็นการให้ "บำเหน็จ" แก่ตนเอง
จากการทำความดีงามทุกครั้งในภพชาติปัจจุบัน
อันเป็นประโยชน์ต่อกายสังขารที่รอวันตายเท่านั้น

จงระลึกเอาไว้เสมอว่าในมิติโลกของท่านนั้น
หากท่านกระทำความดีงามเมื่อไหร่
ท่านก็จะได้รับสิ่งดีงามตอบแทนอยู่แล้ว
ไม่ช้าก็เร็ว ไม่มากก็น้อย
แล้วท่านจะกำหนดบำเหน็จรางวัลให้ตนเองอีกทำไม

เมื่อทำดีทำทานทุกครั้ง
ท่านก็ได้รับสิ่งดีตอบแทนกันอยู่แล้ว
ใยจึงมิยอมให้จิตวิญญาณของท่าน
ใช้พลังจิตใต้สำนึกไปกราบพระบาทพระบิดา
เพื่อรับประทานบำเหน็จจากพระหัตถ์ของพระองค์
มาเติมเต็มพลังอำนาจทางวิญญาณของท่านไว้
เพื่อใช้เป็น "เสบียงพลัง" ที่จะนำพาแก่นแท้
สู่การหลุดพ้นหรือนิพพานในชาตินี้ล่ะ

เราบอกความจริงแก่ท่านแล้วว่า
จงอย่าแทรกแซงพระภารกิจแห่งพระเจ้า
อย่าทำความดีงามเพื่ออวดคนอื่น
จงทำดีเพราะรู้ว่าดี
จงมีความปีติยินดีในความดีที่กระทำนั้นก็พอแล้ว

เรายังมีเรื่อง "จิตใต้สำนึก" มากล่าวต่อท่านอีก
ท่านใดปรารถนาเรียนรู้ต่อเนื่อง
ก็จงให้เกียรติเรา "ชูมือ" อันสง่าของท่านอีกครั้ง!!!

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
27-06-2016