วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558

คุณสมบัติ ของผู้หลุดพ้นบนเส้นทางนักสู้เพื่อการรู้แจ้ง




เราบอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
การที่ท่านได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็น "คนสองมิติ"
ที่เรียกว่า "มนุษย์" นี้แสนประเสริฐนัก

เมื่อท่านทำหน้าที่ตามพันธะสัญญา 6
ตามที่ได้ให้สัจจะไว้ต่อองค์จิตจักรวาล
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ผู้ทรงอนุญาตให้ท่านมายังโลกเสรีนี้สำเร็จแล้ว
ดวงจิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของท่าน
ก็สามารถจะเดินทางกลับ
บ้านเกิดยังแดนสุญญตาที่ท่านได้จากมาแสนนาน
ซึ่งอยู่ภายนอกระบบเอกภพอันไพศาลนี้ได้

ขณะที่พี่ๆน้องๆของท่านอีกกลุ่มหนึ่ง
ซึ่งดวงจิตวิญญาณของเขา
เดินทางข้ามมิติมาทำหน้าที่บนโลกเสรีนี้
ก่อนยุคที่พวกท่านจะมา
โดยเข้ามาทำหน้าที่แบบเดียวกันกับท่านนั้น

พวกเขาจะไม่สามารถย้อนกลับคืน
บ้านเกิดเมืองนอนของจิตวิญญาณ
เหมือนอย่างพวกท่านที่เป็นมนุษย์ได้
แม้ว่าพวกเขาจะคิดถึงบ้านสักปานใดก็ตาม
ซึ่งท่านทั้งหลายเรียกพวกเขาว่า
"สัตว์ประจำโลก" นั่นเอง

นี่ก็ลุถึงปลายยุคพลังงานเก่า
หมดเวลาที่พวกท่านขันอาสาพระบิดา
เข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าวบนดาวโลกดวงนี้แล้ว
พวกท่านจักต้องเร่งจัดการกับตนเอง
เพื่อนำพาแก่นแท้ของท่านย้อนคืนสู่เหย้ากันให้ได้

โดยท่านต้องระลึกไว้เสมอว่า....
ถ้าแก่นแท้ของท่านจะกลับคืนสู่เหย้าได้ในชาตินี้
ท่านจักต้องปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันที่เหลืออยู่
ให้เคร่งครัดจริงจังดังต่อไปนี้

1.ต้องยกระดับแรงสั่นสะเทือนของ "จิตหยาบ"
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับ"ใจ"
คือ จิตวิญญาณของท่านเอง

ให้สำเร็จโดยเร็ววันที่สุดให้จงได้
เพราะเวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว
จะมัวแต่เพลิดเพลินเดินสะเปะสะปะไม่ได้แล้ว

2.ต้องลด "น้ำหนักมวล" หรือ น้ำหนักตัว
ของจิตวิญญาณซึ่งเป็นรูปธรรมทางพลังงาน
อันเป็นตัวตนแก่นแท้ของท่านเอง
ที่จะต้องเดินทางกลับบ้าน
หรือเป็นผู้หลุดพ้นออกไปจากเอกภพนี้
เพื่อให้มีน้ำหนักตัวเท่ากับตอนที่
เดินทางเข้ามาสู่การเกิดเป็นมนุษย์
ในภพชาติแรก คือ 30 มิลลิกรัม

ให้สำเร็จโดยเร็ววันที่สุดให้จงได้
เพราะเวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว
จะมัวแต่เพลิดเพลินเดินสะเปะสะปะไม่ได้แล้ว

3.ต้องพัฒนาทักษะการใช้จิตปัญญา
อันเป็นความเฉลียวฉลาดของสมองสองซีก

ให้มีความสามารถในการเรียนรู้โลก
ให้มีความสามารถในการคิดสร้างสรรค์
ให้มีความสามารถในการตัดสินใจ
ให้มีความสามารถในการใช้แรงบันดาลใจ
เพื่อผ่านบททดสอบจิตสำนึกรายวัน
ในทุกบททดสอบทุกรูปแบบ
เพื่อเป็นคนพ้นกรรม
เพื่อเป็นผู้สิ้นสุดยุติกรรมทั้งปวง
ในการดับการมีสังสารวัฏให้หมดสิ้น

ให้สำเร็จโดยเร็ววันที่สุดให้จงได้
เพราะเวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว
จะมัวแต่เพลิดเพลินเดินสะเปะสะปะไม่ได้แล้ว

นี่แน่ะ....ท่านทั้งหลาย
เราจะขอกระซิบท่านดังๆว่า
ถ้าปรารถนาการหลุดพ้นอย่างแท้จริงแล้ว
ท่านทำตามที่เราชี้ทางไว้ทั้ง 3 ประการนั้นสิ
ถึงประตูนิพพาน คือ "ด่านนภาลัย" แน่ๆ
รีบทำเดี๋ยวนี้เลย...จะรั้งรออะไรอยู่อีกล่ะ

ถ้าถึงขั้นนี้แล้วยังมีคำถามเราอีกว่า
แล้วจะบรรลุใน 3 ข้อนี้ได้อย่างไร
ก็ขอให้ท่านรีบละสายตาไปอ่านที่สไลด์
ที่เราแนบไว้นั่นสิ...อ่านให้ครบ
ทำความเข้าใจให้ชัดแจ้งว่า
วิธีปฏิบัติใน 5 ข้อตามที่ระบุไว้นั่น
เราเคยสื่อสอนพวกท่านมาบ่อยแล้วว่า
ท่านต้องปฏิบัติมันอย่างไรกันบ้าง

กราบพระบิดาทรงประทานพรให้
บุตรผู้ใฝ่ดีทั้งหลาย
บุตรผู้มากด้วยบุญญาบารมีทั้งหลาย
บุตรผู้มีปณิธานแห่งนิพพานแท้จริงทั้งหลาย

ขอให้พวกเขาได้มีโอกาส
เข้ามาอ่านพระคำเหล่านี้แล้วมีนัยน์ตาเห็นธรรม
เพื่อสำนึกรู้ให้ได้ว่ามรรควิถีแห่งจิตจักรวาลนี้
เป็นวิถีแห่งการหลุดพ้นสำหรับชาวบ้าน
ที่ปฏิบัติง่ายเพราะไม่ฝืนธรรมชาติ ไม่พางมงาย
สอนให้ทุกท่านพึ่งจิตปัญญาบารมีที่ในตน
แทนการพึ่งพาคนอื่นด้วยการเฝ้าแต่อธิษฐาน
ด้วยการเฝ้าแต่ร้องขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
จนจิตปัญญามืดบอดเหมือนที่่ผ่านมาอยู่อีกต่อไป

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
11-12-2012

การยกระดับจิตหยาบให้เป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณ





เส้นทางสู่การหลุดพ้นนั้น
คูณสมบัติแรกที่ท่านทั้งหลายจักต้องเติมเต็ม
ในการเป็นคนสองมิติของตนเองก็คือ

การยกระดับจิตหยาบหรือจิตมนุษย์
ให้สั่นสะเทือนจนเป็นหนึ่งเดียวกันกับแก่นแท้
หรือจิตวิญญาณของตัวท่านเองให้จงได้
โดยให้มันสั่นสะเทือนเป็นหนึ่งเดียวตลอดไป

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
การที่พระบิดาทรงกำหนดให้พวกท่าน
กล่าวถึงแก่นแท้
ในการเป็นมนุษย์ของท่านเองว่า "จิตใจ"
ก็เพราะสาเหตุว่าท่านเป็นคน 2 มิติ

มิติแรกเป็นมิติทางกายภาพ
เป็นด้านของ "จิตหยาบ" กับ "กายสังขาร"

มิติที่สองเป็นมิติทางพลังงาน
เป็นด้านของแก่นแท้ คือ "จิตวิญญาณ" หรือ "ใจ"

เพราะเหตุว่ากายสังขารของท่าน
ถูกผลิตสร้างขึ้นไว้รองรับจิตวิญญาณผู้มาเกิด
ด้วยโลหิตในครรภ์ของมารดา
พระบิดาจึงทรงต้องกำหนดให้
กายสังขารของท่าน
ซึ่งพระองค์ทรงเรียกว่า "เครื่องยนต์แห่งกรรม"
มีจิตหยาบหรือจิตมนุษย์
เป็นผู้ควบคุมและปฏิบัติการแทน

เมื่อจิตหยาบเป็นผู้ทำหน้าที่แทนใคร
จิตหยาบก็ต้องทำตามความต้องการของผู้นั้น
จะทำอะไรๆตามใจตนเองโดยพละการไม่ได้

ซึ่งในที่นี้ผู้มอบอำนาจให้จิตหยาบ
ทำหน้าที่แทนตนเองก็คือ
จิตวิญญาณหรือเรียกกันสั้นๆว่า "ใจ" นั่นเอง

ดังนั้น
จิตหยาบหรือจิตมนุษย์ของท่าน
จึงต้องรู้ว่า "ใจ" ของท่าน
เขาต้องการให้ท่านทำอะไรแทนเขาบ้าง

นี่แหละ....เราจึงต้องกลับมาตามสัญญา
มาเพื่อการปิดยุคพลังงานเก่า
มาเพื่อเอาข่าวสารการชำระโลกมาฝากท่าน
มาเพื่อการเฉลยความจริงอีกเรื่องหนึ่งว่า

ถ้าจะพาแก่นแท้ของท่าน
นิพพานในชาตินี้ได้
จิตกับใจของท่าน
ต้องสั่นสะเทือนเป็นหนึ่งเดียวกันให้สำเร็จ
ซึ่งท่านจักต้องฝึกฝนตนเอง
จากบททดสอบต่างๆในชีวิตประจำวัน
ทั้งด้านดีๆและด้านร้ายที่ท่านไม่พึงประสงค์

วิธีการปฏิบัติทำอย่างไร
เราได้เปิดเผยไว้ในสไลด์นี้แล้ว

จงอย่าเหลวไหลหลบหลับล้อเล่นอยู่อีกเลย
จิตของท่านต้องการเวลาฝึกฝนนานเอาการอยู่
เวลาโลกกับนาฬิกาชีวิตของท่าน
มันเดินเร็วขึ้นทุกที
เหลือน้อยลงทุกวันแล้ว

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
11-12-2015