วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

ถอดรหัส "พุทธวจนะ"





"พุทธวจนะ"

# เพราะละราคะได้
อารมณ์สำหรับวิญญาณก็ขาดลง
ที่ตั้งของวิญญาณก็ไม่มี

วิญญาณอันไม่มีที่ตั้งนั้นก็ไม่งอกงาม
จึงหลุดพ้นไปเพราะไม่ถูกปรุงแต่ง

เพราะหลุดพ้นไปก็ตั้งมั่น
เพราะตั้งมั่นก็ยินดีในตนเอง
เพราะยินดีในตนเองก็ไม่หวั่นไหว
เมื่อไม่หวั่นไหวก็ปรินิพพานเฉพาะตน#

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
พุทธวจนะบทนี้ทรงหมายความว่ากระไรบ้าง

1.ประโยคที่ว่า.................

"เพราะละราคะได้
อารมณ์สำหรับวิญญาณก็ขาดลง
ที่ตั้งของวิญญาณก็ไม่มี"

พระองค์ทรงหมายความว่า
ถ้าผู้ใดสามารถ "ละวาง"
ความรู้สึกชอบ-ไม่ชอบซึ่งเป็นราคะกิเลส
ใน รูป รส กลิ่น เสียง และกายสัมผัส
ได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว
การสั่นสะเทือนให้เกิด"เวทนา"ก็ย่อมไม่มี

เมื่อไม่มี "เวทนา" เกิดขึ้น
เหตุให้จิตสั่นสะเทือนทางอารมณ์
จนเกิดเป็น "พลังงานจิต"
ในรูปของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้านลบ
ซึ่งเป็นผลกรรมในมิติทางพลังงาน
ที่พระพุทธองค์ทรงใช้คำว่า "วิญญาณ"
มันก็จะไม่ถูกผู้นั้นผลิตสร้างขึ้นมาได้
ตามที่พระพุทธองค์ทรงกล่าวเอาไว้ว่า

"อารมณ์สำหรับวิญญาณก็ขาดลง
ที่ตั้งของวิญญาณก็ไม่มี"

ทรงหมายถึงว่า....
ถ้าใครดับเวทนาได้แล้ว
เหตุแห่งการเกิดขันธ์ที่ 5
อันหมายถึง "ที่ตั้ง" ของวิญญาณ
ก็ย่อมจะไม่มีด้วยเช่นกัน

2.ประโยคที่พระพุทธองค์
ทรงกล่าวต่อเนื่องไว้อีกก็คือ

"วิญญาณอันไม่มีที่ตั้งนั้นก็ไม่งอกงาม
จึงหลุดพ้นไปเพราะไม่ถูกปรุงแต่ง"

พระองค์ทรงหมายความว่า

ถ้าผู้ใดสามารถดับเวทนาคือราคะกิเลสได้
ผู้นั้นก็จะสามารถดับตัณหา
ซึ่งเป็นที่มาแห่งอารมณ์ได้
และที่ดับทั้งหมดได้ หรือ"หลุดพ้นไป"
ก็เพราะจิตไม่มีการปรุงแต่ง
เมื่อได้รับรู้ "อะไรอะไร" นั่นเอง

3.ประโยคที่ทรงกล่าวว่า....

"เพราะหลุดพ้นไปก็ตั้งมั่น
เพราะตั้งมั่นก็ยินดีในตนเอง
เพราะยินดีในตนเองก็ไม่หวั่นไหว
เมื่อไม่หวั่นไหวก็ปรินิพพานเฉพาะตน"

ทรงหมายความว่า....

ถ้าผู้ใดสามารถดับราคะกิเลสเวทนาได้
จนยังผลให้ดับอารมณ์หยาบๆรายวันได้ด้วย
มันคือ "การหลุดพ้น" ไปจาก
การก่อ "ผลกรรม" ได้อย่างสิ้นเชิง
สภาวะจิตของผู้นั้นก็จักหนักแน่นมั่นคง

เพราะสภาวะจิตหนักแน่นมั่นคงนี่แหละ
มันจะนำไปสู่ความมี "ปีติยินดี" ของจิต
เมื่อจิตมีปิติยินดีหรือมีความสุขสงบแล้ว
คนผู้นั้นก็จักเป็นมนุษย์ที่สมดุล
เมื่อคนผู้นั้นสามารถรักษาสมดุลของจิต
เอาไว้ได้ตลอดเวลาแล้ว
ก็จักดับการเกิดดับของเวทนาและอารมณ์
ได้อย่างสิ้นเชิงในบั้นปลาย

นี่คือสภาวะของ "นิพพานก่อนตาย"
ของคนผู้นั้นโดยแท้

4.ทั้งหมดที่เรากล่าวมา
เป็นการถอดรหัสนัยความหมาย
แห่งพุทธวจนะอีกบทหนึ่งที่ทรงตรัสไว้
เมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีมาแล้วให้ท่านรู้

ชาวจิตจักรวาลทั้งหลายล้วนรู้ดีว่า
เราได้สื่อพระโอวาทจากพระบิดา
มาสอนพวกท่านในเรื่องพวกนี้
ตั้งสามสิบปีที่ผ่านมาแล้ว

เพียงแต่มิค่อยมีผู้ใดใส่ใจในคำสื่อสอน
เพราะมัวยึดติดอยู่กับตัวตนพระศาสดา
เพราะมัวแต่ยึดติดตัวอักษรในพระคัมภีร์
ทั้งๆที่ยังเข้าใจไม่แจ่มแจ้งกันอยู่เลย

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
29-1-2016

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560

รับอรุณวันอาทิตย์ ด้วยดวงจิตที่สดใส




รับอรุณวันอาทิตย์
ด้วยดวงจิตสดใสโดยทั่วกันนะ
*******************************

พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
จงกำหนดจิตตั้งเป้าหมายไว้ว่า

วันนี้ท่านจะอยู่อย่างสงบ
ทำธุระแต่ในเรื่องของตัวเอง
จะไม่แส่เสือกสอดแทรกเรื่องของผู้อื่น
และจะนึกคิดทำทุกสิ่ง
ด้วยจิตสามนึกด้านบวกของตัวเอง
จะไม่สั่งการหรือไม่ใช้วานให้ผู้อื่นทำแทน

ดำรงชีวิตวันนี้ให้ได้...
โดยไม่ก้าวล่วงใครและไม่รบกวนใครเลย

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
29-1-2017

ตัวเลือกทนทุกข์




พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ท่านไม่ควรเลือกที่จะทนทุกข์
เพราะถูกลงโทษทัณฑ์จากการทำชั่ว

แต่ท่านควรเลือกที่จะทนทุกข์
จากการพยายามทำความดีงามมากกว่า
เพราะมันจักเป็นความดีความชอบของท่าน
อันเป็นที่พอพระทัยของพระบิดา

พระองค์จะทรงค้ำจุนชีวิตท่านไว้
จะมิทรงยอมให้สั่นคลอน
ในยามใดที่ท่านรู้สึกอ่อนล้า
เพราะทรงรักบุตรมนุษย์ผู้ใฝ่ดีทุกคน
โดยเฉพาะคนที่รับรู้ความทุกข์ยากของเรา
ในกิจการของชาวประมง
ผู้ทำหน้าที่คัดปลาออกจากน้ำ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
28-1-2017

หลุมพรางของความอยาก






พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
ท่านจงอย่าตกหลุมพรางของความอยาก
เพราะความอยากส่วนใหญ่
เป็นที่มาแห่งความโลภทุกสิ่งอย่าง
เป็นที่มาแห่งความโง่เขลาเบาปัญญา
เป็นที่มาแห่งความพินาศทั้งปวง
ท่านจักต้องรู้ว่าความโลภ
ที่นำมาซึ่งความร่ำรวยและฟุ่มเฟือยนั้น
แท้จริงแล้วชีวิตอันสมบูรณ์พูนสุขของท่าน
มันมิได้ขึ้นอยู่กับสิ่งฟุ่มเฟือยเหล่านั้นเลย
คนที่มั่งมีหรือว่าคนที่พอมีมั่ง
ต้องเกิดแก่เจ็บป่วยและตายเหมือนกัน
ต้องสัมผัสกับความสมหวังผิดหวังเหมือนกัน
ต้องเผชิญกับทุกข์และสุขเหมือนกัน
ต้องเรียนรู้ความอดทน อดกลั้น
กับการให้อภัยเหมือนกัน
ต้องรู้จักความยาก-ง่ายเหมือนกัน
ต้องรู้จักกับการสูญเสียและการได้มา
เพื่อรู้คุณค่าแห่งการเป็นมนุษย์เหมือนกัน
ท่านยังจะไปเหนื่อยกายเหนื่อยใจ
ให้กับความโลภทำไมกัน
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
28-1-2017

วาจาของท่านจะศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร




พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
วาจาของท่านจะศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร
องค์จิตจักรวาลมิทรงใยดีหรอก
ถ้าลิ้นที่ท่านใช้กล่าว "สรรเสริญ" พระบิดา
กับลิ้นที่ใช้ "แช่งด่า กล่าวคำหยาบคาย
กล่าวร้ายและกล่าวเท็จ" ต่อเพื่อนมนุษย์
ซึ่งล้วนเป็นบุตรแห่งพระองค์
มันมาจากลิ้นเดียวกัน
ดังนั้น
ถ้าหากท่านต้องการมีปากหอม
และมีร่างกายที่ไร้มลทิน
ก็จงดูแลลิ้นให้สะอาดไว้
อย่าให้มันแปดเปื้อนสิ่งชั่วร้าย
อย่าให้มันอยู่ไม่สุข
เพราะมันจะนำความพินาศมาสู่ตนเอง
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
28-1-2017

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2560

รอคอยการมาของลูกแกะ





พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย

กว่าข้าวที่หุงจะสุกจนได้ที่ได้ทานนั้น
แม้ตัวท่านจะหิวโหยแค่ไหน
ท่านก็ต้อง "อดทน" ที่จะรอคอยกัน
ไม่ว่ามันจะนานสักเท่าใด

สาเหตุที่ท่านสามารถ #อดทน
รอข้าวที่หุงจนสุกได้ที่ จนกว่าจะได้ทานนั้น
ก็เป็นเพราะเหตุว่า

1.มั่นใจว่าข้าวที่กำลังหุงนั้นสุกแน่
2.มั่นใจว่าต้องได้ทานข้าวที่กำลังหุงนั้นแน่
3.มั่นใจว่าท่านรอเวลาให้ข้าวสุกนั้นได้แน่

4.มั่นใจว่าใครๆเขาก็ต้องรอ
ให้ข้าวสุกก่อนทานกันทั้งนั้น
การรอคอยของท่านจึงไม่แปลกอะไร

5.มั่นใจว่าท่านเองต้องทนความหิว
เพื่อรอให้ข้าวสุกจนกว่าจะทานได้แน่ๆ
โดยท่านจะไม่เป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อน

ดังนั้น
การที่ท่านจะทำอะไรสักสิ่งในชีวิต
เพื่อยังประโยชน์สุขต่อตัวท่านเองและผู้อื่นนั้น
ท่านจำเป็นจะต้องหยิบเอา
"ความอดทน" ที่จะรอคอยผลสำเร็จ
ในสิ่งที่ท่านลงมือทำนั้นมาใช้ให้เป็น

โดยการอดทนรอที่ว่านี้
มิใช่เฝ้าแต่นั่งรอนอนรออยู่เฉยๆ
แต่ท่านต้องลงมือหุงข้าวด้วย

โดยท่านต้องซาวข้าวเป็น
ท่านต้องหุงข้าวเป็น
ท่านต้องติดไฟเผาฟืนเพื่อหุงข้าวเป็น
ท่านต้องดงข้าวเป็น และอื่นๆ

ซึ่งท่านจะต้องเฝ้าดูแลหม้อหุงข้าว
ในขณะที่อยู่บนเตาไฟนั้นอย่างใกล้ชิด
เพื่อดูแลมิให้ข้าวไหม้ มิให้ข้าวแฉะ เป็นต้น

ดูอย่างชาวนาที่ปลูกข้าว
เขาก็ต้องอดทนรอคอยวันเก็บเกี่ยวข้าว
ที่เขาเพาะปลูกเอาไว้อย่างได้ผลเช่นกัน

วันเวลาแต่ละวันที่ผ่านไปในชีวิตนี่แหละ
มันจะเป็นตัวชี้วัดว่าท่านมีความอดทนมั้ย
มีความอดทนมากน้อยเพียงใด

เช่น อดทนต่อการรอคอยเป็นมั้ย
อดทนต่อการกระทำไม่ถูกต้อง
ของผู้อื่นได้มั้ย

อดทนต่อความผิดพลาดล้มเหลวที่เกิดขึ้น
เพื่อการแก้ไขใหม่ทำใหม่
จนกว่าจะสำเร็จได้หรือไม่ เป็นต้น

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ขอท่านจงหยิบเอาศาสตร์แห่งการ "อดทน"
จากกรณีอดทนรอที่จะทานข้าว
ซึ่งกำลังหุงอยู่นั้นให้มันสุกได้ที่เสียก่อน
ด้วยการนำความมั่นใจ 5 ประการนั้นไปใช้

จงระลึกไว้เถิดว่า
การรอคอยลูกแกะที่หลงทางกลับเข้าคอกน่ะ
เราก็ต้องใ้ช้ความอดทนด้วยเช่นกัน

เราอดทนรอได้เพราะมั่นใจในพระบิดา
เราอดทนรอได้เพราะศรัทธาในสิ่งที่เราทำ

เราอดทนรอได้เพราะเรามั่นใจว่า
ลูกแกะของเราต้องกลับมาหาเรา
ผู้เป็นเจ้าของแน่นอน
ที่สำคัญคือ
เรามิได้รั้งรออยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรเลย

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
28-1-2017

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2560

ขยะที่ต้องชำระ ในปฏิบัติการชำระโลก







พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

เกาะแก่งทั้งหลายในท้องทะเลและมหาสมุทร
เป็นแผ่นดินประกอบหินที่มีน้ำทะเลล้อมรอบ
ซึ่งเกิดจากการสั่งสมของตะกอน
สืบเนื่องกันมาเป็นเวลายาวนานหลายหมื่นปี

เกาะแก่งทั้งหลายที่กล่าวนี
จึงเป็นดั่ง "ขยะ" บนโลกเสรี
ที่จักต้องถูกชำระทิ้ง
ในปฏิบัติการชำระโลก ครั้งที่ 4 นี้

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
ประดาเกาะน้อยใหญ่ทั้งหลาย
ที่กระจัดกระจายกันอยู่ในท้องทะเลนั้น
เป็นเหตุแห่งการเพิ่มค่าของแรงเสียดทาน
ระหว่างผิวพื้นทะเลกับบรรยากาศโลก

จึงยังผลให้โลกเหวี่ยงหมุนรอบตัวเอง
ไม่สม่ำเสมอ ไม่สมดุล ไม่คงที่
ทำให้แกนหมุนรอบตัวเองของดาวโลก
เกิดอาการแกว่งส่าย
จนทำให้ระยะเวลากลางวันกลางคืน
ในแต่ละวันยาวนานไม่เท่ากัน

ด้วยพลังความรักจากจิตมนุษย์นี่เอง
ที่ท่านจักต้องช่วยกันมอบให้โลกมากขึ้น
จึงจะช่วยบรรเทาความไม่สมดุลนี้ได้

ดังนั้น
คนบางคนในหมู่มนุษย์ของท่าน
ถ้าวันๆหนึ่งทำตนเป็นดั่งขยะที่รกโลก
ได้แต่ปลิวไปปลิวมาอยู่บนโลกเสรีนี้
ไม่คิดที่จะ "คนตนเอง" ให้เป็นมนุษย์

ได้แต่ยอมอุทิศอวัยวะให้แก่บาป
ด้วยการทำตามกิเลส ตัณหา ราคะ
ของสังขารร่างกายที่ตายได้
แทนที่จะอุทิศทั้งใจและกาย
ทำความดีงามถวายแก่องค์พระบิดาแล้ว
คนๆนั้นก็มิต่างไปจาก "ขยะ" นั่นเอง

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
สิ่งใดก็ตามที่เป็นขยะอยู่ในระบบโลก
สิ่งนั้นย่อมมิใช่พระประสงค์ของพระบิดา
เมื่อมิได้เป็นพระประสงค์ของพระบิดา
สิ่งนั้นก็มิควรค่าแก่การมีอยู่

นี่จึงเป็นสาเหตุที่เกาะทุกเกาะในทะเล
กับกลุ่มคนที่ยอมตนให้แก่บา
ซึ่งเป็นดั่งขยะรกโลกด้วยกั
จักต้องถูกชำระออกไปจากระบบโลกเสรีนี้
ด้วยปฏิบัติการที่รวบรัดรุนแรง

คนบาปยังมีโอกาสอยู่บ้างแม้น้อยนิด
หากต่อมจิตสามนึกจะเริ่มทำงาน
แต่หมู่เกาะในทะเลทั้งหลาย
จักต้องหายไปจากแผนที่โลกแน่นอน

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
27-1-2017

ข่าวสาร ภัยพิบัติโลก





เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ตลอดระยะเวลากว่าหกหมื่นปีโลกที่ผ่านมา
จนถึงปัจจุบันนี้นั้น

#ดวงจิตธรรมญาณของทุกท่าน
ได้ขันอาสาพระผู้ให้กำเนิดท่านทั้งหลาย
เดินทางข้ามมิติมาสู่การเกิดเป็นมนุษย์ยังโลกเสรีนี้
คนละมากมายหลายภพชาติกันแล้

มันเนิ่นนานพอที่จะเรียนรู้โลก
เรียนรู้ตนเองและผู้อื่นได้อย่างจบแจ้ง
เนิ่นนานพอที่จะมีสำนึกถึงหน้าที่ใน #พันธะสัญญา6
ซึ่งแก่นแท้ของท่านได้ให้ไว้ต่อพระบิดา
ตั้งแต่มาเกิดเป็นมนุษย์ในภพชาติแรกแล้ว

#บัดนี้โลกถึงกาลสิ้นยุคหกหมื่นปีที่ทรงกำหนดไว้แล้ว

จึงหมดเวลาที่ดวงจิตธรรมญาณของพวกท่าน
จะทำหน้าที่ผลิตสร้างพลังงานจิตด้านบวก
จากอำนาจแห่งรักให้แก่ดาวเคราะห์โลกดวงนี้แล้ว
แม้ว่าตั้งแต่ภพชาติแรกจนถึงปัจจุบัน
พวกท่านบางคนยังไม่อาจสามารถเข้าถึง
ภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่ว่านี้ได้เลยก็ตาม

แต่เมื่อท่านหมดเวลาปฏิบัติภารกิจ
พ้นไปจากหน้าที่ๆต้องรับผิดชอบกันแล้ว
จึงมีเพียงสิ่งเดียวที่ท่านทั้งหลายจักต้องกระทำ
นั่นคือ #การแสวงหาหนทางกลับออกไปจากระบบโลก
พ้นไปจากการมีจิตวิญญาณอยู่ในกาแล็กซี่นี้
และหลุดพ้นออกไปจากเอกภพตลอดกาลนิรันดร์
โดยจะไม่มีการย้อนคืนกลับสู่การเกิดใหม่อีก

ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้จิตวิญญาณผู้ขันอาสา
จากแดนสุญตานอกระบบเอกภพ
อันเป็นดินแดนที่ท่านเองจากมาและต้องกลับไป
ให้พวกเขาได้รับโอกาสข้ามมิติเข้ามา
เพื่อทำหน้าที่แทนพวกท่าน
ในยุคพลังงานใหม่ต่อไปได้

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
หากพวกท่านไม่ยอม "#นิพพาน" คือกลับบ้านไม่ได้
หรือไม่คิดที่จะนำพาแก่นแท้ตนเองกลับบ้าน
พวกท่านยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ต่อไป
ทั้งๆที่โลกถึงกาลสิ้นยุคแล้วเช่นนี้
มันจะสร้างความเสียหายต่อระบบโลกและเอกภพ
ซึ่งเป็นระบบใหญ่อย่างมากมา

อย่างแรกคือ #ดาวเคราะห์โลก
#จะสูญเสียสมดุลครั้งใหญ่ในอีกไม่ช้านานข้างหน้า

ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มส่อเค้าลางแห่งการเสียสมดุลบ้างแล้ว
จากสถิติทุกด้านในกรณี #มหันตภัยพิบัติโลก ที่เกิดขึ้น
เพราะจิตสำนึกโดยรวมของโลกตกต่ำสุดๆ
ชนิดที่ไม่มียุคใดจะตกต่ำมากมายจนขนาดนี้มาก่อน
ซึ่งมันจะสอดคล้องกับที่เราเคยกล่าวต่อพวกท่านว่า

#หากยุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์และโลกตกต่ำ
#ยุคนั้นมนุษย์จักต้องทำสงครามกับมหันตภัยพิบัติเสมอ

หมายความว่าถ้ามนุษย์โลก
ยังไม่เร่งนำพาจิตวิญญาณของตนกลับบ้าน
ตามมรรควิถีแห่งจิตจักรวาลสำหรับท่านที่เป็นฆราวาส
หรือตามมรรควิถีแห่งพระพุทธองค์สำหรับนักบวช
มนุษย์จะเสื่อมแล้วโลกก็จักเสื่อมตาม
#ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นไปทั่วโลก

นอกจากนั้นปฏิบัติการชำระโลกโดยช่างเท็คนิก
ซึ่งรอรั้งที่จะลงมือปฏิบัติการขั้นต่อไป
เพื่อสร้างสมดุลโลกในระดับที่สูงกว่ายุคพลังงานเก่า
พวกเขาก็พร้อมที่จะดำเนินการอยู่

นั่นหมายความว่า "#มหันตภัยพิบัติ"
ที่มิใช่ "#ภัยธรรมชาติ" มันจะปรากฏเกิดขึ้นต่อโลก
ที่หนักหนารุนแรงเร่งเร้าจนเหนือความคาดหมาย
ซึ่งท่านเองและใครๆก็จะมิอาจพลิกตำรา
เพื่อค้นหาประวัติศาสตร์มาอ้างอิงได้เลยเพราะไม่เคยมี
อีกทั้งจะหาตำราวิทยาศาสตร์เล่มใดๆ
มาอธิบายปรากฏการณ์แปลกๆที่จะเกิดขึ้นก็ไม่พบ
เพราะมันล้วนเป็น "#ความรู้ใหม่
#ที่อยู่นอกเหนือการคิดได้ด้วยจิตมนุษย์

เพราะมันจะเป็นภัยพิบัติจากปฏิบัติการของช่างเท็คนิก
มิใช่ภัยธรรมชาติแต่อย่างใดทั้งสิ้น
โดยมีเป้าหมายหลักคือ #กำจัดขยะทั้งหมด
#ออกไปเสียจากระบบโลก

ขยะทั้งหลายจะประกอบด้วย
เกาะแก่งน้อยใหญ่ในทะเลและมหาสมุทร

วัตถุเท็คโนโลยีขยะที่มนุษย์สร้างขึ้นไว้
เพื่อทำลายล้างกัน ทำลายระบบนิเวศน์ และโลก

รวมทั้งขยะมนุษย์ที่ทำตัวรกโลกรกแผ่นดิน
เพราะรักไม่ได้ ให้ไม่เป็น เห็นแก่ตัว
เป็นคนที่ไร้ประโยชน์ต่อสังคมและโลก
เป็นผู้ทำตนเป็นอุปสรรคบนเส้นทางหลุดพ้นของผู้อื่น
เพื่อลดน้ำหนักมวลบนพื้นผิวโลก
และแก้ปัญหาการแกว่งส่ายขณะโลกเหวี่ยงหมุน

นอกจากนั้นปฏิบัติการชำระโลกยังจะต้อง
ปรับแนวเอียงของแกนหมุนรอบตัวเองของโลก
ให้เบี่ยงเบนไปจากแนวเดิมอีก 8.5 องศา
เพื่อคืนความอุดมให้แก่ทะเลทราย
เพื่อชำระแผ่นดินส่วนเกินออกไปจากแผนที่โลก

ทั้งยังจะต้องปรับแนวเข็มทิศแม่เหล็กโลกเหนือใต้
ให้เบี่ยงเบนมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
อีก 3 องศาจากแนวเดิมในปัจจุบัน
เพื่อให้พาดผ่านแผ่นดินแห่งพระศาสดาพระองค์ใหม่
ที่จะทรงสามารถติดต่อกับจักรวาลได้ดียี่ง

และยังจะต้องยกระดับความเข้มสนามแม่เหล็กโลก
ให้สูงขึ้นจาก 14 เกาส์ในปัจจุบันเป็นไม่เกิน 22 เกาส์
พร้อมกับการยกระดับโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลก
ให้สูงขึ้นเหนือพื้นโลกในระดับสมดุลและคุ้มภัยได้ดี
นั่นคือ อยู่ที่ระดับ 6 หมื่นกิโลเมตร

ทั้งหมดทั้งมวลจะกระทำผ่านมหันตภัยพิบัติ
ที่มิอาจหลีกเลี่ยงความรุนแรงได้
เพราะเกิดจากโลกเสียสมดุลเองหนึ่ง
กับจากแผนปฏิบัติการชำระโลกโดยช่างเท็คนิกอีกหนึ่ง

มันคือการชำระสรรพสิ่งที่เป็นขยะและไม่เหมาะสม
ให้ออกไปจากระบบโลกและคืนสมดุลระดับใหม่
เพื่อทำให้โลกยุคพลังงานใหม่น่าอยู่
อันเป็นการชำระทั้งมิติทางกายภาพและพลังงาน

ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้
ล้วนเป็นข่าวสารจาก #พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
พระผู้ทรงยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล
อันไพศาลของพระองค์

ล้วนเป็นความจริงที่ท่านทั้งหลายต้องรู้
แม้บางท่านอาจไม่รู้ว่าทำไมท่านจะต้องรู้
แม้บางท่านพอได้รู้แล้วปฏิเสธข่าวสารนี้ทันทีก็ตาม

เรากล่าว #ข่าวสาร ความจริงนี้ ต่อท่านทั้งหลาย
ด้วยความรักและปรารถนาดีต่อพวกท่าน

เรากล่าวไปตามหน้าที่ทางจิตวิญญาณของเรา
เรากล่าวไปตามที่พระองค์ทรงใช้ให้เรามากล่าว
เรามิได้กล่าวเพื่อความสะใจอย่างไร้สติแต่อย่างใด

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
27-1-2017

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

บทเรียนแห่งความกลัวตาย





คนเราถ้าเชื่อแล้วว่า
เหตุร้ายหรือภัยพิบัติมันจะมาถึงตัวจริงๆ
เขาก็จะจะกลัวตายทันที
เมื่อกลัวตายแล้ว
ไม่มีใครที่จะไม่อพยพหลบภัยหรอก
ด้วยข้ออ้างที่ว่าไม่รู้จะอพยพไปอยู่ไหน
ขณะที่หัวใจยังกลัวตายอยู่
ที่เราพยายามนำข่าวภัยพิบัติร้ายๆ
ที่เกิดจริงแล้วมาให้ดู
ก็เพื่อช่วยให้คนที่เคยต่อต้านเรา ไม่เชื่อเรา
ได้หันมาขบคิดพิจารณาและรับฟังเราง่ายขึ้น
เพราะมีตัวอย่างให้ดูจริงๆแล้ว
กล่าวง่ายๆคือ พยายามทำให้พวกเขา "เชื่อเรา"
ว่าพระบิดากำลังชำระโลกกับมนุษย์จริงๆ
มหันตภัยพิบัติกำลังจะมาเยือน
เพื่อให้เขารับฟังคำเตือนของเรา
ด้วยจิตใจที่อ่อนโยน
มิใช่งมงายกับการต่อต้านเรา ก้าวล่วงเราตะพึด
เหมือนทำตัวรอคอยความตาย
ทั้งๆที่ตัวเองก็กลัวตาย
เรารู้ดีว่า.....ตราบใดที่
พวกท่านยังไม่เชื่อข่าวสารด้านภัยพิบัติ
ข่าวสารเรื่องแผ่นดินหายตามแผนที่
ที่เราถือมาฝากด้วยการบันทึกขีดเขียนไว้แล้ว
การกลัวตายของท่านย่อมไม่มีวันจะเกิดขึ้นได้
ตราบใดที่ไม่มีใครกลัวตายจากมหันตภัยที่เราเตือน
โลกนี้ก็จะไม่มีใครเปลี่ยนแปลงตนเอง
เพราะท่านทั้งหลายไม่เชื่อเรา
จึงไม่มีใครกลัวตาย
จึงไม่มีใครเปลี่ยนแปลง
การอพยพหลบภัย
การเตรียมตนเองและจิตวิญญาณ
เพื่อการผจญภัยที่จะมาถึง
มันจึงไม่มีวันจะเกิดขึ้นดังกล่าวนั้น
นอกจากนั้น
การอพยพหลับภัยพิบัติที่เรากล่าวถึงนี้
เป็นเรื่องส่วนบุคคลของประชาชน
ที่จะมีสิทธิแสวงหาที่อยู่ใหม่
ที่ตนคิดว่าปลอดภัยกว่าที่เดิมได้เอง
ตามความพร้อมของตน
โดยไม่ต้องรอฟังคำสั่งหรือการอนุญาต
จากภาครัฐก่อนว่าให้อพยพโยกย้ายได้
ถ้าไม่อนุญาตห้ามโยกย้ายเด็ดขาด
แม้เจ้าของบ้านหลังนั้นเห็นว่าไม่ปลอดภัย
การจะย้ายไม่ย้าย จะย้ายเมื่อไหร่
จะย้ายไปอยู่ที่ไหน
การจะเตรียมตนเองให้พร้อมหรือไม่
มันอยู่ที่ดุลยพินิจทางปัญญาเฉพาะบุคคลว่า
เชื่อมั่นในข้อมูลข่าวสารจากองค์จิตจักรวาล
ที่พระองค์สื่อผ่านมาทางเรากันรึเปล่า
แต่ละท่านมีความพร้อมกันแค่ไหนเท่านั้นเอง
ทุกวันนี้ "คำสอน" ให้ชำระจิตในห้องเรียนนี้
มันจึงดูเหมือนจะนำเสนอน้อยกว่า
การนำเสนอข่าวสารด้านภัยพิบัติ
จึงน้อยกว่าสอนพวกท่านให้ฉลาดอ่านโลก
แล้วใครล่ะ...ที่ทำให้เรา
มีคำสอนให้ท่านชำระจิตใจให้ใสสวย
ค่อนข้างน้อยอย่างทุกวันนี้
จงอย่าเพิ่งเบื่อข่าวสารเรื่องภัยพิบัติก็แล้วกัน
ทีวีทั่วไปเขาไม่ค่อยมีให้ท่านดูแล้วล่ะนะ
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
25-1-2017

บันได 3ขั้น มหันตภัยแห่งหายนะ




พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
สำหรับมนุษย์แห่งโลกเสรีในยุคนี้นั้น
*สิ่งแรกสุดที่จะต้องแก้ไขเยียวยา
ก็คือ "จิตสามนึก"
อันหมายถึง #นึกออก #นึกเอา และ #นึกเอง
โดยจักต้องมีนิสัยการนึก
เป็น #นึกด้านบวก เท่านั้น
*สิ่งที่สองที่จะต้องฝึกฝน
ก็คือ "การใช้ปัญญาเพื่อคิด"
อันหมายถึง #การฉลาดที่จะคิด
โดยฉลาด "เรียนรู้"
และ ฉลาด "นำความรู้มาใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง"
*สิ่งที่สามที่จะต้องพัฒนาไว้เสมอ
ก็คือ "ทักษะชีวิต"
ถ้ามนุษย์โลกยังบกพร่อง
ใน 3 สิ่งที่กล่าวนี้โดยที่
ยังไม่รู้ตัวอยู่
ยังหลงตัวเองอยู่
ยังอดคติต่อ "เรา" อยู่
ยังจดจำพระบิดาแห่งจิตวิญญาณไม่ได้อยู่
คำเตือนของเราแบบ "เตือนแล้วเตือนเล่า"
ก็จะยังไม่มีผู้ใดหยิบมา "ฉุกคิด" ได้หรอก
จนกว่าจะถูกพระบิดาเฆี่ยนด้วยหวายลงมา
ยังพิกัดใดพิกัดหนึ่ง สัก โครม! สองโครม!
โครมแรก....Human Lost
โครมสอง....Land Lost
โครมสาม....Human & Lands Lost.
เมื่อยามโดนหวายเฆี่ยน
หากจะฉุกคิด ได้คิด และคิดได้
มันก็คงจะสายเกินไปเสียแล้วล่ะนะ
ทำอะไรไม่ทันแล้วล่ะ
ทุกสิ่งที่เรากล่าวมาในโพสท์นี้
เราก็ยังไม่รู้ว่าใครได้อ่านแล้ว
จะตัดสินใจกันอย่างไร
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
26-1-2017

ลำดับของความเสียง




เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ในอดีตที่ผ่านมา
ที่ดินริมทะเลและที่ดินบนเกาะในทะเล
มีสนนราคาแพงมาก
คนรวยทรัพย์แบบเศรษฐี
กับผู้มีอิทธิพลทางโลกเท่านั้น
จึงจะสามารถครอบครองเป็นเจ้าของได้
สามารถปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนได้
สังคมพวกท่านจัดให้พวกเขาเหล่านี้
เป็นกลุ่มคนที่มีโชคพาวาสนาสูง
แต่เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ในแผนปฏิบัติการชำระโลก ครั้งที่ 4
เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่นี้
คนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่บริเวณชายทะเล
คนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่บนเกาะกลางทะเล
คนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ
ลำคลอง หนองบึง ทั้งหลาย
จะเป็นผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงภัย
เสี่ยงตายมากที่สุด
คนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่
บริเวณที่ราบกับที่ราบลุ่ม
จะเป็นผู้เสี่ยงภัย เสี่ยงตายรองลงมา
คนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่
ในกลางดงพงป่าและบนภูดอย
จะเป็นผู้เสี่ยงภัย เสี่ยงตายน้อยที่สุด
นี่คือความจริงที่จริงแท้และแน่นอนเป็นที่สุด
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
26-1-2017

วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560

1ในเหตุผลของพระองค์ ที่ทรงสร้างสัตว์





เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
มนุษย์อาจรู้สึกว่าตนนั้นถูกรบกวนด้วยสัตว์ต่างๆ
เช่น มด หนู แมลงวัน แมลงสาบ ปลวก ยุง 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยุง 
ท่านไม่ได้ทำอะไรให้
แต่ทำไมต้องโดนยุงกัดทุกวันเลย 

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า 
องค์จิตจักรวาล
ผู้ทรงเป็นพระบิดาของทุกสรรพสิ่ง 
ทรงสร้างสัตว์ต่างๆขึ้นมาด้วยความรัก 
ด้วยพระมหาปรีชาญาณ
อันยากแก่ผู้ใดจะเข้าถึงได้....

ทรงสร้างมด
*************
เอาไว้ใกล้ตัวมนุษย์ 
เพื่อแฝงพระธรรมคำสอนไว้ให้ท่านเห็น
แล้วนำสัญชาตญาณของมด
มาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต

เช่น การเป็นหนึ่งเดียวกัน 
การรักพวกพ้อง 
ความขยันหมั่นเพียร และมีวินัย

อันหมายถึงมนุษย์ต้องรักกัน 
ดำเนินชีวิตร่วมกันอย่างมีวินัยและขยันหมั่นเพียร 

แถมยังให้สังเกตมดอพยพ 
นั่นคือพระบิดากำลังเตือนผ่านมดมาว่า
ให้รีบเตรียมตัวระวังน้ำท่วม น้ำหลาก เป็นต้น

ทรงสร้างหนู
************* 
เอาไว้ให้เป็นพนักงานเทศบาล
ที่จะคอยเก็บขยะ(กิน)
ที่มนุษย์ทั้งหลาย ใช้แล้วทิ้ง 
กินเหลือแล้วขว้าง 
จนขยะเน่าเหม็นรกโลกของพระองค์ไปหมด 

พระองค์รักลูกอย่างพวกท่าน
และรักโลกของพระองค์ด้วย 
เมื่อพวกเท่านส่วนใหญ่ไร้สติเช่นนี้ 
จึงต้องส่งหนูมาช่วยเก็บกินให้ 

จนโลกทุกวันนี้หนูส่วนใหญ่จะตัวอ้วนพี
อ้วนเสียจนขนที่มีอยู่ไม่พอขึ้นให้ทั่วตัว
หนูทุกวันนี้จึงตัวโตและขนไม่ค่อยจะมี

ทรงสร้างแมลงวัน
******************
ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกันกับสร้างหนู 
ก็เพื่อให้แมลงวันมันวางไข่
แล้วให้ไข่ฟักออกมาเป็นตัวหนอนยั้วเยี้ย
เพื่อใช้ตัวหนอนนั้นกัดกินเศษอาหาร
ที่พวกท่านทั้งหลายทิ้งขว้า
ทำให้เศษอาหารเน่าสลายเร็วขึ้น 

แมลงสาปก็เช่นกัน 
ทรงสร้างมันขึ้นมาเพื่อกัดกินขยะจำพวกกระดาษ 
และใบไม้พวกพืชผักทั้งสดทั้งแห้ง 
แล้วให้มันถ่ายมูลที่มีกลิ่นฉุนแรงๆทิ้งไว้
เพื่อเตือนมนุษย์ทั้งหลายว่า 

บ้านรกสกปรกแล้ว 
ทำความสะอาดบ้านได้แล้ว

แต่ทว่า....
มนุษย์กลับหันไปทำร้ายแมลงสาปแทน
เวรกรรม! เวรกรรม!

ทรงสร้างปลวก 
****************
เพื่อให้จิตวิญญาณทหารกล้าทั้งหลาย 
ที่อุทิศจิตกายพิทักษ์พระเจ้าแผ่นดิน
และแผ่นดินอย่างจงรักภักดีนั้น 
ได้มีที่เกิดที่ไป
เพื่อการสร้างสมดุลแห่งกรรมนั้นอย่างเหมาะสม 

รักแผ่นดิน 
หวงแผ่นดิน 
ก็ต้องเรียนรู้ที่จะแสดงออกกับดิน 
กินดิน อยู่กับดิน 
จะได้ปลดเปลื้องรหัสในบทบาทของปลวกให้สิ้น...

ท่านจะยอมพวกเขาได้มั้ย 
เมื่อรู้ว่าจิตวิญญาณพวกเขาน่ะ
ล้วนเคยตายเพื่อชาติมาแล้วน่ะ...

นอกจากนั้น 
การที่พวกเขามาอยู่บ้านท่าน
อาจเป็นเพราะตัวท่าน
หรือสมาชิกบางคนในครอบครัว
เคยเกี่ยวกรรมกับการเป็นนักรบ
เยี่ยงพวกเขามาแล้วในอดีตก็อาจใช่

เผลอๆบางรายอาจเคยร่วมค่าย ร่วมเหล่า 
หรือว่าร่วมรบด้วยกันมาแล้วก็ได้..

ถ้าพวกเขามาขึ้นบ้าน 
ก็ให้ขนย้ายรังของเขาไปไว้ในป่าเขา
ที่ไหนๆที่ไกลบ้านคนก็ได้ 

โดยให้กำหนดจิตบอกพวกเขาว่า
เราขอเชิญท่านให้ย้ายไปอยู่ที่อื่นนะ 
ท่านไม่เหมาะสมที่จะอยู่บ้านเราหรอก...

พอเอาไปไว้ที่ใหม่แล้วก็ให้รางวัลเขา
ด้วยน้ำดื่มบริสุทธิ์สักหนึ่งขวด 
อย่าลืมเปิดฝาเอาไว้ด้วย 
วางไว้ข้างๆพวกเขาตรงนั้นแหละ 

บอกพวกเขาว่าน้ำขวดนี้บริสุทธิ์ผสมน้ำใจ
ที่มีความรักใส่อยู่ในน้ำนั้น 
ขอให้พวกเขาจงดื่มกินกันให้ชุ่มฉ่ำกายใจเถิด
จงขออโหสิกรรมต่อพวกเขาด้วย
ถ้าหากการย้ายเขาออกไป
เป็นการกระทำที่ขัดใจ

ทรงสร้างยุง
************ 
เพื่อให้ยุงช่วยทำหน้าที่ดูดดึง
เอาเลือดชั่วออกจากเครื่องยนต์แห่งกรรม
ของพวกท่านทั้งหลายโดยเฉพาะ

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
ในเวลาที่ท่านจิตตก
เพราะหมกมุ่นอยู่ในกิเลสตัณหา 
คือ โลภะ โทสะ โมหะ 
ซึ่งสมัยโบราณมันเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันไม่บ่อยนัก

จิตที่ตกของท่านจะผลิตสร้าง
ประจุลบขึ้นมาในเลือด 
ทำให้กายสังขารท่านไม่บริสุทธิ์ 

มันจะยังผลให้อายุสั้น ปัญญาทึบ 
และเมื่อเกิดแล้วมันเอาออกจากระบบเลือดไม่ได้ 
พระบิดาจึงต้องทรงสร้างยุงตัวเล็กๆ
ให้มีหนวดที่ติดตั้งดิจิตัลลิสเอาไว้
คอยดักจับประจุลบที่ไหลผ่านเนื้อตัวท่าน 

คนที่มีประจุลบน้อยเพราะจิตค่อนข้างดี
เวลายุงเกาะมันจะไม่กัดทันที 
แต่มันจะค่อยๆสืบหนวด
เลาะเลียบผิวหนังอยู่สักพักหนึ่ง
พอได้ที่มันจึงเจาะดูด 

ส่วนคนที่เลือดชั่วเยอะ 
มันเกาะปุ้ปจะเจาะปั้ปทันที...เคยสังเกตมั้ย

พอมันดูดดื่มกินเลือดแล้ว
มันก็จะตายภายใน 24-72 ชั่วโมง 
แลกกับการช่วยเหลือท่านโดยเอาประจุลบออก
ด้วยการสละชีวิตน้อยๆที่จะมีไว้
เพื่อผสมพันธุ์กับตัวผู้ในอีกไม่กี่วันก่อนตาย
เพื่อสืบทอดเผ่าพันธุ์ของเขาไว้เท่านั้นเอง

การที่เขาดูดเลือดท่าน
จึงมิใช่ต้องการเลือดเป็นอาหาร 
ท่านมิได้สละเลือดให้ยุง ยุงมิได้ทำร้ายท่าน
แต่ยุงช่วยเอาเลือดชั่วออกจากตัวท่านต่างหาก 

การจะเอาเลือดชั่วออกจากตัวท่าน
ไม่ให้มากเกินไปนั้น
มันจะมีวิธีไหนดีกว่าให้ยุงกัดล่ะ...
ดีกว่าผ่าตัดหรือดูดด้วยไซริ้งส์หมอมั้ย?

คนสมัยนี้ดูท่าจะต้องใช้ยุงเป็นฝูงแหละ
จึงจะเอาเลือดชั่วที่มีประจุลบ
ออกจากร่างกายได้อย่างเป็นรูปธรรม...
หนำซ้ำคงต้องสร้างยุงพันธุ์ใหม่
ชนิดตัวใหญ่ๆ ตูดใหญ่ๆ ปากใหญ่ๆ นั่นล่ะมั้ง
จึงจะได้ผลดังพระประสงค์ 

ส่วนการที่พวกท่านบางคนโดนยุงกัดหนัก 
เนื่องจากชอบฆ่าเขาตีเขา
ด้วยความโกรธเกลียดมาหลายภพชาติแล้ว 
พวกเขาจะอาฆาตบ้างก็ไม่แปลกจริงมั้ย

บางรายยุงก็อาจจะถ่ายพิษร้่ายเอาไว้ให้ 
โดยพิษร้ายซึ่งเป็นโรคที่มาจากยุงนั้น 
ก็คือจิตวิญญาณของพวกเขา
ที่อาฆาตมนุษย์มากๆกลับมาเกิดเป็นเชื้อโรค
โดยแฝงตัวอยู่ในน้ำลายของพวกเขาเอง
เพื่อแก้แค้นพวกท่านนั่นแหละ...

เมื่อได้รู้ความจริงดั่งว่ามาพอสังเขปนี้แล้ว 
ท่านจะรักพวกเขามากขึ้นบ้างไหม 

พระบิดาทรงรักพวกท่านทุกคน
ทรงรักสัตว์ตัวน้อยๆของพระองค์ด้วย
ทั้งทรงปรารถนาจะเห็นพวกท่า
รักสัตว์ตัวน้อยๆผู้มีพระคุณต่อท่านด้วยเช่นกัน

โอม.....อโหสิ
จงอย่ามีเวรมีกรรมต่อกันและกันเลย
จงทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุ
โดยไม่เป็นอุปสรรคบนเส้นทางชีวิต
ของกันและกันเถิดนะ....

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
23-1-2017


วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560

นี่ล่ะ...เส้นทางสู่ประตูแห่งการหลุดพ้น


 
 
 
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
บนมรรควิถีแห่งจิตจักรวาล
สำหรับผู้ปรารถนาการหลุดพ้นแท้จริงนั้น
จักต้องสำรวมระวังตนไว้เสมอ

จงอย่าให้ความผิดบาป
ครอบงำอวัยวะร่างกายของท่าน

โดยท่านยอมคล้อยตามกิเลสตัณหาราคะ
ของเครื่องยนต์แห่งกรรมที่ตายได้
แล้วก่อกรรมทำเวรไว้มากมาย
ให้เป็นภาระแก่จิตวิญญาณของท่าน
ซึ่งเป็นรูปธรรมทางพลังงานที่ไม่มีวันตาย

จงอย่ามอบอวัยวะร่างกายของท่าน
ไม่ว่าจะเป็น ตา หู จมูก ลิ้นและปาก ให้แก่บาป
เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการทำความชั่ว
ซึ่งเป็นการถวายตัวให้กับฝ่ายซาตาน

แต่ท่านจงใช้อวัยวะร่างกายของท่าน
เป็นเครื่องมือในการประกอบความดีงาม
ซึ่งเป็นการถวายตัวให้กับองค์จิตจักรวาล
ผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ท่านจักไม่ตกเป็นทาสแห่งบาปอีก

นี่ล่ะ...เส้นทางสู่ประตูแห่งการหลุดพ้น
ที่คนดีทุกคนต้องย่างเดิน

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
23-1-2017