วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ธรรมวิถีแห่งจิตจักรวาล: "กฎแห่งกรรม" ภาค 2




ธรรมวิถีแห่งจิตจักรวาล:

เราจะกล่าวความจริงเรื่อง "กฎแห่งกรรม"
ต่อท่านทั้งหลาย เป็นภาค 2 อีกว่า

10.กรรมใดที่ท่านก่อขึ้น
จากการสั่นสะเทือนทางอารมณ์รู้สึกนึกคิดของจิต
ในแต่ละกรรม แต่ละเรื่องราว และแต่ละครั้งคราวนั้น
ไม่ว่าท่านจะรู้สติหรือไม่รู้สติ
ไม่ว่าท่านจะจงใจหรือประมาทก็ตาม
มันก็จะก่อให้เกิด "ผลกรรม" ขึ้นเป็นกองๆ (ดังภาพ)

11.แต่ละกองแห่งกรรมที่ท่านก่อขึ้นในขณะนั้น
มันหมายถึง "ผลกรรม" ที่เป็นผลลัพธ์ของการกระทำ
อันเกิดจากจิตของท่านเองนั่นแหละ

โดยมันจะถูกเหวี่ยงออกมาจากจิตของท่าน
ในรูปของคลื่นวงกลมที่กระจายตัวออกไปรอบทิศ
อย่างเป็นระลอกต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
จนกว่าสภาวะจิตของท่านจะหยุดสั่นสะเทือน
คือว่างไปจากอารมณ์รู้สึกนึกคิดขยะรายวันนั้นเสียได้
กองแห่งผลกรรมกองนั้นที่มีท่านเป็นศูนย์กลางอยู่
จึงจะ "ว่าง" ไปจากความมีอยู่เป็นอยู่

แต่นั่นก็หมายความว่าการสะท้อนกลับของคลื่น
ที่จะย้อนกลับคืนมา "สนอง"
ต่อตัวท่านผู้เป็นเจ้าของมัน
เมื่อมันได้เดินทางไกลไปจนสุดทาง
ที่ขอบสนามพลังงานแห่งเอกภพแล้ว
ก็ยังจะเป็นไปตามกฎแห่งการสมดุลอยู่ต่อไป

12.ถ้าท่านเป็นคนขี้โมโห โกรธง่าย เป็นนิสัย
กองของผลกรรมที่ท่านก่อขึ้นในชีวิตประจำวัน
มันก็จะเต็มไปด้วย "ผลกรรมทางอารมณ์ด้านลบ"

ชีวิตของท่านในอนาคตจะปรากฏชะตากรรม
ในลักษณะของการถูกคนรอบข้าง
สร้างเงื่อนไขลบแทบไม่เว้นว่างระหว่างวัน
เพื่อทดสอบสภาวะความมั่นคงทางจิตใจท่านว่า
มีความสามารถในการที่จะ "รักด้วยจิต"
มีความสามารถในการที่จะ "คิดด้วยสมอง"
เพื่อตอบสนองคนที่ไม่น่ารักรอบข้างได้หรือไม่

ถ้าได้ก็สอบผ่าน ถ้าสติแตก น้อตหลุด ก็สอบตก
เมื่อสอบตกก็เท่ากับว่า
ท่านได้ก่อกองแห่ง "ผลกรรม" ขึ้นมาใหม่อีกแล้ว

13.กองแห่งผลกรรมแต่ละกอง
เปรียบเสมือนคลื่นน้ำที่กระจายตัวออกเป็นวงกลม
จากจุดศูนย์กลางคนละจุดกัน

คลื่นน้ำที่เกิดจากการสั่นสะเทือนพวกนี้
มันเกิดจากจุดไหนเมื่อสะท้อนกลับมา
มันก็จะย้อนคืนสู่จุดศูนย์กลางที่มันเกิดเสมอ
หมายความว่า....
กรรมใครก็เป็นของคนนั้น
ใครก่อผลกรรมขึ้นไว้ คนนั้นจักต้องรับผิดชอบ
จะให้คนอื่นรับผลกรรมแทนตนเองไม่ได้

14.ผลกรรมที่ท่านก่อขึ้นไว้นั้น
มันเกิดจากแรงสั่นสะเทือนทางจิตของท่านเป็นหลัก
แม้ว่าคนที่เกี่ยวข้องกับท่านเขาไม่เอาความ
ท่านก็จะยังคงรับกรรมนั้นอยู่ดังเดิม

ท่านจึงต้องระลึกเอาไว้เสมอว่า
ถ้าท่านสั่นสะเทือนจิตใจและปัญญาเป็นบวกหรือลบแรงๆ
คลื่นพลังงานกรรมก็จะไปเร็วและย้อนคืนกลับมาเร็ว

ถ้าท่านสั่นสะเทือนจิตตปัญญาเป็นบวกหรือลบค่อยๆ
คลื่นพลังงานกรรมก็จะไปช้าและย้อนคืนกลับมาช้า

ถ้าท่านสั่นสะเทือนด้านบวกอย่างเดียว
พลังงานกรรมด้านบวกก็จะย้อนคืนสู่ท่านอย่างเดียว
ชีวิตก็จะอูฟูอยู่สุขสำราญดี

ถ้าท่านสั่นสะเทือนเป็นความสงบสุข
ด้วยสภาวะจิตที่ว่างไปจากอัตตาทั้งปวงอย่างสิ้นเชิง
จนสามารถดับการเกิดดับได้ทุกสิ่งแล้ว
ท่านจักเป็นมนุษย์ที่สมดุลอยู่ในสนามพลังงานจักรวาล
ที่ไร้แรงกระเพื่อมแห่งคลื่นกรรมทั้งปวง

นี่เป็นความจริง...
ที่เราจะกล่าวต่อท่านทั้งหลาย
ที่ยังเหลวไหลในการใช้ชีวิตประจำวันกันอยู่ล่ะนะ
มันเป็นความรู้ใหม่ที่หลายท่านไม่รู้ว่าตนยังไม่รู้
ท่านเป็นคนหนึ่งด้วย...มั้ย?

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
16-11-2015