วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559

พระโอวาทพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ


 
 
 
 
พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านรู้ว่า
ทุกพระคำในพระโอวาทพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ที่ทรงสื่อผ่านเรามาสู่ท่านทั้งหลายนั้น
พระองค์ทรงโปรดให้ท่านทั้งหลายได้เรียนรู้

ใครที่มีพื้นฐานอยู่บ้างแล้
ก็จะทรงเติมเต็มให้ผู้นั้นอย่างเหลือเฟือ

แต่สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานเลยนั้น
แม้เขาจะมองก็ไม่เห็น
แม้เขาจะรับฟังแต่ก็จะเหมือนไม่ได้ยิน

เพราะว่า....
พวกเขาแม้จะได้ยินกับหูได้เห็นด้วยตา
แต่ทว่าพวกเขาก็จะไม่เข้าใจ

ขณะบางคนที่พอมีความรู้กระปริบกระกระปรอย
ซึ่งมีความเชื่อมากกว่าความรู้จริงรู้แจ้ง
คนพวกนี้แม้พระองค์จะทรงยังมีเมตตาอยู่
พระองค์ยังคงให้โอกาสอยู่
แต่พวกเขาก็จะไม่รับฟัง

พวกเขาจะนอนหลับไม่รู้คุดคู้ไม่เห็น
บ้างก็จะพากันต่อต้าน-ก้าวล่วงเราแทน

เรารู้ความจริงเหล่านี้ดี
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณทรงกล่าวต่อเราเช่นนี้
เราจึงนำมากล่าวต่อท่านทั้งหลายไว้

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
28-12-2016

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ถ้าท่านเป็นคนดี ถ้าท่านเป็นคนมีธรรมะ






ถ้าท่านเป็นคนดี
ก็จงควบคุมปากของท่านไว้
เพราะคนดีจะกล่าวคำชั่วไม่ได้
ถ้าท่านเป็นคนมีธรรมะ
ก็จงทำลิ้นของท่านให้เชื่อง
อย่าปล่อยให้มันอยู่ไม่สุข
โดยเที่ยวพ่นพิษร้ายใส่คนรอบข้าง
ถ้าท่านเป็นคนฉลาด
ก็จงเปิดหูเปิดตาของท่านไว้
เพื่อรับฟังความจริงในมุมของคนอื่นบ้าง
จงอย่าเที่ยวพิพากษาคนอื่น
โดยใช้อารมณ์รู้สึกนึกคิดของตนเอง
ว่าคนนั้นผิดใครๆก็ผิดทั้งนั้น
ยกเว้นตัวฉันจักค้องเป็นฝ่ายถูกเสมอ
ถ้าท่านเป็นคนดี
ก็จง "เก็บปาก" "เก็บคำ"ของท่านไว้
อย่าไปต่อปากต่อคำกับคนพาลพาโลโฉเก
เพราะท่านจักสูญเสียเวลาไปเปล่าๆ
เนื่องเพราะคนประเภทนี้
ล้วนลุ่มหลงในเงามายาของตนเอง
ถือตัวว่าสวย ว่ารวย ว่ามีอำนาจเหนือกว่า
อัน "อายตนะ" เหล่านี้
จึงนำพาหายนะมาสู่ตนเสมอ
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
27-12-2016

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เราคือผู้นำพาความรัก







องค์จิตจักรวาล
ทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิญญา

พระองค์นี่เองที่ทรงให้กำเนิด
จิตวิญญาณของเราทั้งหลาย
และพวกเราจึงล้วนเป็นบุตรของพระองค์

ท่านทั้งหลายจึงเป็นสิ่งล้ำค่าของพระองค์
พวกท่านเป็นดั่งลูกแกะในทุ่งหญ้า
อันอุดมสมบูรณ์ของพระองค์โดยแท้

เจ้าของแกะยังจำแกะทุกตัวของตนได้
แล้วจะให้พระองค์ทรงลืมพวกท่าน
ทอดทิ้งพวกท่านเอาไว้บนโลกนี้ได้อย่างไร

ท่านทั้งหลายจงตรองดูเถิดว่
มารดาที่ยังป้อนนมให้ลูกของตนดูดดื่มอยู่นั้น
จะไม่มีวันลืมลูกของตนเองได้ฉันใด
ตราบใดที่พวกท่านยังต้องดื่มกินธัญญาหาร
ที่พระองค์ทรงตระเตรียมเอาไว้ให้
บนดาวโลกเสรีนี้อย่างเหลือเฟือแล้ว
พระองค์ก็จะไม่มีวันลืม
ลูกๆอย่างพวกท่านเช่นกัน

นี่เป็นความจริง
ที่เรานำมากล่าวต่อท่านเพื่อจะย้ำว่า

เราคือผู้นำพาความรัก
จากองค์พระบิดาของพวกเรา
มามอบให้แก่ท่านทั้งหลาย
พร้อมแจ้งข่าวสารการชำระโลก
และชี้ทางกลับบ้านก่อนวันสิ้นยุค

เรายังยินดีต้อนรับ
ท่านที่ยังมีความเชื่อและศรัทธาในเราน้อยอยู่
เพราะเรามิมีความประสงค์ที่จะ
ขัดแย้งโต้เถียงกับใครๆ
ในเรื่องความคิดเห็นส่วนตัวของแต่ละคน
เพราะความรู้และข่าวสารใดๆที่เรากล่าว
ล้วนเป็นความจริงจากพระองค์
มิใช่ความคิดเห็นส่วนตัว
เราจึงไม่จำเป็นต้องขัดแย้งโต้เถียงกับใคร

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
22-12-2016

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559

อย่าลังเลสงสัยในภัยพิบัติที่เกิดขึ้นตรงหน้า





พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
ท่านจงครองมหาสติไว้
อย่าปล่อยกายและใจของท่าน
ให้มันหมกมุ่นวุ่นวายอยู่กับสิ่งเริงรมย์
จงอย่าปล่อยกายและใจของท่าน
ให้ติดหล่มแห่งโลกิยะ
ให้ดื่มด่ำอยู่กับราคะจริต
ให้ตีสนิทกับความชั่ว
ให้เกลือกกลั้วอยู่กับความงมงาย
จงอย่าปล่อยให้กาลเวลาผันผ่านไป
กับความทุกข์และสุขทั้งหลายในชีวิตประจำวัน
เพราะว่า #วันนั้น มันจะมาถึงตัวท่าน
โดยไม่มีใครบอกข่าวกล่าวขานล่วงหน้า
มันจะมาถึงอย่างฉับพลันทันใด
มีแต่เราเท่านั้นที่จะคอยเผยรหัสสัญญาณ
ให้ท่านได้ฉุกคิดกันล่วงหน้า
อย่างน้อยก็ 7 ราตรีแห่งพระบิดา
ที่จะทรงสื่อผ่านเรามาสู่ท่านทั้งหลาย
จงลับคมปัญญาของท่านไว้เถิด
เพราะ #วันนั้น จะมาถึงหลังจากวันนี้
จะเป็นวันที่ฟ้าสะท้าน
แผ่นดินจะสะเทือน
ทะเลจะคลุ้มคลั่ง
ขณะที่ทุกสิ่งอย่าง
จะครึกโครมในท่ามกลางความมืดมิด
ขอท่านทั้งหลายจงตื่นตัวเตือนตนไว้
โดยทำสามเหลี่ยมกับพระบิดา
ครองมหาสติให้มั่นคง
อย่าลังเลสงสัยในภัยพิบัติที่เกิดขึ้นตรงหน้า
แต่จงคว้ากฤตสติขึ้นมาถือไว้
ท่านทั้งหลายจักมีกำลังผ่านพ้น
เหตุการณ์เลวร้ายทั้งปวงได้
ด้วยความรักในพระบิดามีศรัทธามั่นในเรา
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ปลาที่จะถูกคัดทิ้งตามคำพิพากษา
รวมทั้งลูกแกะนอกคอกตัวที่ไม่เอาไหน
จะมีเครื่องหมายกากะบาท
สำแดงไว้ตรงหน้าผากทุกตัว
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
20-12-2016

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

จงเอาชนะคนชั่วด้วบความดี





พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
ศัตรูจะหวนกลับมาคืนดีกับท่าน
ถ้าท่านทั้งหลายปฏิบัติตนดังต่อไปนี้

ให้ในสิ่งที่เขาอยากได้ใคร่มี
ให้ในสิ่งที่เขาเพิ่งจะรู้ว่าเขาไม่มี
ให้ในสิ่งที่เขาไม่คาดคิดว่าท่านจะมี
ให้ในสิ่งที่เขาไม่คาดคิดว่าท่านจะให้

เพราะการปฏิบัติเช่นนี้
มันจะช่วยทำให้เขา
มีจิตสำนึกที่ดีงามต่อตัวท่านได้

จิตสำนึกเป็นของเขา
แต่ความดีงามนั้นเป็นของท่า

จงเอาชนะใจศัตรูของท่าน
ด้วยการแบ่งปันความดีงามให้เขาไป
แทนที่จะเอาชนะศัตรูด้วยความชั่วร้าย
เพราะท่านไม่มีวันที่จะทำสำเร็จหรอก

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
16-12-2016

วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559

จิตจักรวาลอ่านโลก Volcanics #Domino ของ Parinya Model




^#จิตจักรวาลอ่านโลก^
************************
นี่เป็น #iรหัสเตือนภัย ล่าสุด
ในแผนปฏิบัติการชำระโลก ครั้งที่ 4
เพื่อการเปลี่ยนยุคแห่งจิตวิญญาณมนุษย์
เพื่อการปรับเปลี่ยนองค์กรโลก
เพื่อการยกระดับจิตสำนึกมนุษย์
ส่งสัญญาณขึ้นมาที่ฝั่งฟ้าประเทศชิลี
ยามเย็นวันที่ 14 ธันวาคม 2559
เพื่อเตือนให้ชาวโลกระวังกรณีแผ่นดินไหว
ตามแผนปฏิบัติการ #Volcanics #Domino
ของ Parinya Model
โดยจุดศูนย์กลางการสั่นไหวจะเริ่มตรงแถบนี้
แล้วจะมีการยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งความถี่ในการเกิด
ความรุนแรงที่สั่นไหว
รวมทั้งพิกัดพื้นที่ที่จะสั่นไหว
จะเริ่มขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ
โดยใกล้ๆศูนย์กลางนี้จะไหวถี่ขึ้น
ความปลอดภัยของมนุษย์จะค่อยๆลดลง
ดั่งแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆมืดมัวสลัวลง
ก่อนจะเข้าสู่ความมืดมิด
ในยามสิ้นแสงตะวันเมื่อสิ้นวัน
เฉกเช่นเพลาแห่งการสิ้นยุคนั่นแหละ
ดั่งภัยพิบัติที่นับวันจะร้อนแรงยิ่งขึ้น
ดุจดั่งสีแดงที่ทาทาบอาบไว้บนแผ่นฟ้า
ซึ่งเป็นเงาสะท้อนขึ้นมาจากแผ่นดิน
พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
พระสุริยะแม้จะรักพวกท่านและรักโลก
ดั่งแสงสีชมพูที่ทรงเปล่งประกายไว้เป็นสัญญาณ
แต่ชมภาพนี้แล้วท่านทั้งหลายจะรู้ว่า
บรรยากาศนั้นมันเปี่ยมไปด้วยความเศร้าหมอง
นี่ไง...ที่เราอ่านโลกให้ท่านฟัง
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
15-12-2016

คุณสมบัติจิตใส 5 ประการ


 
 
 
 
พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
คำว่า #จิตใส หมายถึง
คนที่มีคุณสมบัติทางจิต 5 ประการดังนี้ คือ

1.เป็นคนมองโลกในแง่ดี
เพราะมีนิสัย "นึกบวก" นึกดี นึกชอบ
หรือเป็นผู้ #ดำริชอบ เสมอ

2.เป็นผู้ที่มีจิตสงบเพราะมีนิสัยรักสงบ
ไม่นึกลบ คิดลบ ต่อใครๆ
ไม่คิดเอาเปรียบเบียดเบียนใคร
ไม่คิดล่วงเกินก้าวร้าวใคร

3.เป็นผู้มีจิตเบิกบานผ่องใ
จิตใจไม่ขุ่นมัว
รู้จักรัก รู้จักให้
มีความร่าเริง อารมณ์ดี
มีความเป็นมิตรกับทุกๆคน
ไม่มีความโกรธแค้น อาฆาต
ไม่ตกเป็นทาสอารมณ์ตนเอง

4.เป็นคนไม่หมกมุ่นวุ่นวาย
อยู่ในกองกิเลสตัณหา
เพราะละวางการยึดติดอัตตาทั้งปวงได้
จิตจึงมีความสงบสมดุลเสมอ

5.เป็นผู้ไม่ลุมหลงงมงาย
ในรูป รส กลิ่น เสียงทั้งหลาย
จึงสามารถเข้าถึงจิตปัญญาของตนได้

เรากล่าวความจริง 5 ประการ
ให้ท่านทั้งหลายได้รับรู้ไว้ดั่งนี้แล้ว
จงเร่งชำระจิตของท่าน
ให้บังเกิดความสงบ สมดุล และสว่าง
เป็นคุณสมบัติทางจิตกันเถิดนะ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
15-12-2016

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดจากจิตจักรวาล ครั้งที่238






ท่านศาสนิกชนคนประพฤติธรรมทั้งหลาย
ถ้าท่านยังมีปณิธานแห่งนิพพาน
ถ้าท่านเชื่อมั่นว่าทุกศาสดาล้วนเป็นหนึ่งเดียว
ถ้าท่านยอมรับว่าทุกศาสนาล้วนเป็นสากล
ถ้าท่านเป็นฆราวาสผู้ต้องการหลุดพ้นแท้จริง
ถ้าท่านต้องการจะเรียนรู้ในสิ่งที่ท่านไม่รู้ว่าไม่รู้
ถ้าท่านต้องการจะรู้ว่าปฏิบัติธรรมมานาน
แล้วใยยังนิพพานกันไม่ได้
ถ้าท่านอยากรู้ว่าเราเป็นใคร
ใครมีบัญชาให้เรากลับมาหาท่านตามสัญญา
ใครเป็นลูกแกะที่หลงทางของเรา
ใครจะได้รับการพิพากษาให้เป็นปลาที่ถูกคัดไว้
ถ้าท่านต้องการเข้าใจและเข้าถึง
สาระแห่งนิพพานทั้งหลายเหล่านี้ คือ
#มายา #อัตตา #อนัตตา #สมมติ
#สว่าง #ว่าง #วาง #สงบ
ถ้าท่านอยากรู้ว่า....
ทำไมจึงเกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกและไหวทั้งวันคืน
อะไรจะเกิดขึ้นกับท่านบ้างทั้งวันนี้และวันข้างหน้า
"ภัยพิบัติ" กับ "ภัยธรรมชาติ" นั้น
แตกต่างกันอย่างไร
เราจะสื่อถ่ายทอดคลื่นความรู้และความคิด
จาก #องค์จิตจักรวาล มาให้ท่านทั้งหลาย
ได้รับรู้รับฟังกันสดๆ เข้าใจง่าย
ไม่เล่นโวหาร ไม่เน้นสำบัดสำนวน
ไม่ต้องเรียนสูงก็ฟังได้
ในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2559
ระหว่างเวลา 13.00 - 18.30 น.
ณ ตึกทองชั้น 6 บมจ.ไอซีซี กทม.
เชิญโทรสำรองที่นั่งเข้าฟังฟรี-ไม่มีค่าใช้จ่าย
ได้ที่คุณตุ๊ก Tel.089-1052727
(โปรดแต่งกายสุภาพ)
ต่างจังหวัด/ต่างประเทศ
เชิญรับชมถ่ายทอดสดผ่าน ทีวีออนไลน์
ทาง www.jitchakraval.com ในวันเวลาดังกล่าว
ป.วิสุทธิปัญญา
13-12-2016

วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2559

จิตสำนึก จิตใต้สำนึก ไม่เหมือนกัน







พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย

วันวานนี้มีดาราหนุ่มคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ออกทีวี
กับสื่อมวลชนผู้ดำเนินรายการทางทีวีอีกคนหนึ่ง
มีการให้สัมภาษณ์และอ่านข่าว
ที่สอดคล้องตรงกันอยู่ประโยคหนึ่งว่า

^^ทำงานด้วย "จิตใต้สำนึก"^^

เราจะกล่าวความจริงให้ท่านรู้ว่า
ถ้าท่านยังไม่ตาย
ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่
ท่านจะไม่สามารถทำอะไรๆในชีวิตประจำวัน
ด้วย #จิตใต้สำนึก ได้หรอกนะ

หน้าที่ของท่านที่เป็นมนุษย์
จักต้องเรียนรู้ที่จะทำทุกสิ่งในชีวิตประจำวัน
ด้วย #จิตสำนึก เท่านั้น

จงระลึกเอาไว้ว่า
#จิตสำนึกกับจิตใต้สำนึกไม่เหมือนกัน
มันมิใช่สิ่งเดียวกัน

เพราะคำว่า "จิตใต้สำนึก" เป็นคำแปลกหู
เพราะคำว่า "จิตใต้สำนึก" กล่าวแล้วเท่ห์
จึงนำมาใช้ผิดๆโดยไม่เข้าใจความหมาย

มาสิ....
เราจะอธิบายและจำแนก
"จิต" ทั้งสองอย่างนี้ให้พวกท่านเข้าใจ
เพื่อบันทึกไว้ในพจนานุกรมแห่งโลก
สำหรับมนุษย์โลกยุคพลังงานใหม่ต่อไป

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
11-12-2016

ต้องใช้จิตสำนึก ไม่ใช่จิตใต้สำนึก







ความจริงที่เราจะกล่าวต่อท่านทั้งหลายก็คือ
ในความเป็นมนุษย์ของท่านนั้น
ท่านทั้งหลาย คือ #คนสองมิติ
#คนสองมิติ หมายถึง ท่านทั้งหลาย
ล้วนเป็นรูปธรรมที่มี "สองภาค" ในตนเอง
โดยมีกายหยาบหรือกายสังขาร
ในที่นี้เราขอเรียกว่า #เครื่องยนต์แห่งกรรม
ซึ่งเป็นมิติโลกทางกายภาพ
อันมีจิตหยาบหรือจิตมนุษย์
ทำหน้าที่ควบคุมการทำงาน
ของเครื่องยนต์แห่งกรรมของท่านทั้งระบบ
ตลอดชีวิตของท่านจนกว่าจะสิ้นลม
นี่เป็นภาคแรกที่ท่านต้องรู้
เครื่องยนต์แห่งกรรมของท่าน
จะถูกสั่งการด้วยจิตหยาบ
โดยจิตที่เป็นผู้บงการ สั่งการ และควบคุม
กลไกทั้งหมดของเครื่องยนต์แห่งกรรม
ที่เป็นมโนกรรม วจีกรรม และกายกรรม
ในชีวิตประจำวันของท่านทั้งหลายนั้น
เราขอเรียกว่า #จิตสามนึก
จิตสามนึกประกอบด้วย
จิตที่ใช้ในการนึกสามอย่าง คือ
นึกได้ นึกเอา และ นึกเอง
ซึ่งภายหลังนามเรียกจิตตัวนี้ก็เพี้ยนไป
จาก "จิตสามนึก" ก็กลายเป็น #จิตสำนึก แทน
โดยไม่รู้แปลว่าอะไร
ถ้าท่านเป็นคนรู้นึก
อันหมายถึงนึกชอบมิใช่นึกชั่ว
ท่านก็จะเป็นคนคิดชอบไม่คิดชั่ว
ท่านก็จะถูกเรียกว่า #คนดี
ท่านจึงเป็นพวกที่ใช้ #จิตรู้สำนึก ดำเนินชีวิต
แต่ถ้าท่านเป็นคนไม่รู้นึก
อันหมายถึงนึกชั่วมิได้นึกชอบ
ท่านก็จะเป็นคนคิดชั่วไม่คิดชอบ
ท่านก็จะถูกเรียกว่า #คนชั่ว
ท่านจึงเป็นพวกที่ใช้ #จิตไร้สำนึก ดำเนินชีวิต
ความรู้เบื้องต้นสำหรับท่านทั้งหลาย
เท่าที่เรากล่าวมาข้างต้น
จึงสรุปความได้ว่า
1.มนุษย์เป็นคน 2 มิติ
มิติแรก คือ มิติทางกายภาพ
2.มิติทางกายภาพจะมีจิตหยาบหรือจิตมนุษย์
เป็นควบคุมหรือสั่งการ
3.จิตหยาบของท่านมีหน้าที่ "นึก"
ซึ่งมี 3 แบบ คือ นึกได้ นึกเอา และนึกเอง
โดยท่านจักต้อง "นึกชอบ" อย่าได้ "นึกชั่ว"
4.เมื่อใดที่จิตท่านนึกชอบ
จิตก็จะไปกระตุ้นให้สมอง(กายหยาบ) คิดชอบ
ท่านก็จะเป็นคนคิดดี พูดดี ทำดีได้เมื่อนั้น
เราก็จะกล่าวได้ว่า
ท่านเป็นผู้ที่แสดงออกหรือกระทำใดๆ
ด้วย #จิตรู้สำนึก (จิตรู้สามนึก)
แต่เมื่อใดที่จิตท่านนึกมิชอบคือนึกชั่ว
จิตก็จะไปกระตุ้นให้สมอง(กายหยาบ) คิดชั่ว
ท่านก็จะเป็นคนคิดมิชอบ
พูดไม่ดี และทำผิดบาปได้เมื่อนั้น
เราก็จะกล่าวได้ว่า
ท่านเป็นผู้แสดงออกหรือกระทำใดๆ
ด้วย #จิตไร้สำนึก (จิตไร้สามนึก)
ดังนั้น
กระบวนการฝึกอบรม #ไซโคโชว์ ของเรา
จึงสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ปรับเปลี่ยน
พฤตินิสัยของมนุษย์
ทั้งข้าราชการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ พนักงาน
แม้กระทั่งเด็กและเยาวชนทั่วไป
หรือใครก็ได้ที่เรียกตนเองว่า #มนุษย์
กลยุทธ PSYCHO-SHOW ของเรา
เป็นกลยุทธอันแยบยล
ที่พระบิดาทรงบัญชาให้เรา
นำมาใช้ในการ #เปลี่ยนจิตไร้สำนึก ของผู้คน
ให้เป็น #จิตรู้สำนึก
เพื่อแสดงพฤติกรรมที่มุ่งหวังแทน
ให้นำมาใช้ฝึกอบรมเพื่อพัฒนา
โครงสร้างทางจิตวิทยาของคนที่อ่อนแอ
ให้กลับมาแข็งแกร่งและเป็นคนดี
ซึ่งไม่อาจใช้วิธีการสอนหรืออบรมวิธีอื่นๆ
เพื่อปรับเปลี่ยนนิสัยแก้ไขสันดานคน
ให้มีพฤติกรรมที่มุ่งหวังอย่างยั่งยืนได้
นอกจากฝึกอบรมถ่ายทอดพฤติกรรม
ด้วยกระบวนการ #ไซโคโชว์ นี้เท่านั้น
ท่านทั้งหลายต้องรู้ว่า
ทุกรูปธรรมที่พวกท่านเรียกเขาว่าสัตว์นั้น
เขาใช้แต่ #จิตสัญชาตญาณ
อันเป็นภาคหนึ่งของจิตวิญญาณของเขา
เพื่อการดำเนินชีวิตเท่านั้น
แต่พวกท่านที่ถูกเรียกว่า "มนุษย์"
นอกจากจะมีจิตสัญชาตญาณให้ใช้แล้ว
ท่านยังมี #จิตสำนึก หรือ "จิตสามนึก" ให้ใช้
ซึ่งสัตว์ทั้งหลายไม่มีอีกด้วย
ทั้งหมดที่เรากล่าวมานี้
จึงเป็นการให้ความกระจ่างต่อท่านทั้งหลายว่า
#มนุษย์ต้องใช้จิตสำนึกในการดำเนินชีวิต
#มนุษย์ต้องรับฟังสัญชาตญาณตนเองบ้าง
ต่อไปก็จงอย่ากล่าวผิดด้วยความไม่รู้อีก
เพราะเราทำความไม่รู้ของพวกท่านให้กระจ่างแล้ว
ส่วนเรื่องราวของ #จิตใต้สำนึก นั้น
เราจะขอกล่าวต่อในตอนหน้านะ
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
11-12-2016

มิติของจิตหยาบ มิติของจิตวิญญาณ







พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

ความจริงที่จริงแท้
ที่เราจะกล่าวต่อจากตอนที่แล้วก็คือ
เรื่องมนุษย์ คือ คนสองมิติ

โดยในตอนที่แล้ว
เราได้เปิดเผยไว้เพียงมิติเดียว
คือ มิติโลกทางกายภาพ
ซึ่งหมายถึงเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
ของท่านทั้งหลายไม่ว่าชายหรือหญิงนั่นแหละ
โดยที่มิติของกายหยาบนี้
ท่านจะมี #จิตหยาบ หรือจิตมนุษย์
ทำหน้าที่สั่งการ บงการ หรือควบคุมไว้
ซึ่งจิตของท่านจะมี "สมอง" เป็นเครื่องมือ

การกระทำใดๆของจิตกับสมอง
ที่สั่งการให้เครื่องยนต์แห่งกรรมของท่าน
แสดงออกหรือกระทำพฤติกรรมต่างๆ
ทั้งการนึกคิดของจิตหรือที่แสดงออกมา
เราเรียกว่า #สั่นสะเทือนทางจิตสำนึก

สำหรับความในตอนนี้
เราจะกล่าวถึงมิติที่สองของมนุษย์ให้รู้ว่า
เราหมายถึงมิติของ #จิตวิญญาณ นั่นเอง

จิตวิญญาณของมนุษย์
เป็นรูปธรรมทางพลังงาน
ในลักษณะของกล่องพลังงาน
ที่มีคลื่นความถี่หลายคลื่นความถี่
ลดเลี้ยวเกี่ยวพันกันอยู่
ซึ่งเร้นตนเองอยู่ในกายหยาบของท่าน

จิตวิญญาณของท่าน
เป็นผู้ที่ขันอาสาพระบิดามาเกิดเป็นมนุษย์
โดยเข้ามาปฏิสนธิทางวิญญาณกับกายหยาบ
ภายในครรภ์มารดาตั้งแต่ยังเป็นทารก

ดังนั้น
จิตวิญญาณของท่านจึงเป็นตัวตนแก่นแท้
เพราะเป็นผู้ขันอาสามาเกิดเป็นมนุษย์
เพื่อใช้ความเป็นคนสองมิติของตนเอง
ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับดาวโลก
ตามพันธะสัญญา 6 ที่ให้ไว้ต่อพระบิดา
โดยมอบอำนาจให้จิตหยาบเป็นตัวแทนของตน
ทำหน้าที่ทั้งสองมิติให้ลุล่วง

ซึ่งทางมิติโลกด้านกายภาพ
จิตหยาบจะเป็นผู้รับผิดชอบแสดงเอง
ทั้งวจีกรรม และกายกรรม
ที่จะกระทำต่อเพื่อนมนุษย์และทุกสรรพสิ่ง

ส่วนในด้านมิติทางพลังงานของจิตวิญญาณ
อันเป็นมิติที่สูงกว่าที่สองตาเปล่ามองไม่เห็นนั้น
แก่นแท้ของท่านทั้งหลาย
จะเป็นผู้รับผิดชอบในการแสดงเอง

หมายความว่า
เมื่อใดก็ตามที่ท่านสั่นสะเทือนจิตสำนึก
ไม่ว่าจะรู้สำนึกหรือว่าไร้สำนึกก็ตาม
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
ก็จะสั่นสะเทือนไปตามนั้นด้วยเสมอ

การก่อกรรมเกิดเวรทั้งหลาย
ตามความผิดบาปดีชั่วตามนัยของกฎแห่งกรรม
มันจะเกิดขึ้นก็ตรงการกระทำทางจิตวิญญาณนี่เอง
ใครที่จิตหยาบเอาแต่ดำริชั่วไปวันๆ
จิตวิญญาณของคนๆนั้นจึงเดือดร้อน

การสั่นสะเทือนของจิตวิญญาณ
เพื่อให้เกิดการกระทำในมิติของแก่นแท้
อันเป็นมิติทางพลังงาน
ที่มีความสัมพันธ์กันกับจักรวาลที่ว่านี้นั้น
จิตวิญญาณของท่านจะใช้กลไกชิ้นหนึ่ง
ซึ่งเราจะขอเรียกว่า #จิตใต้สำนึก เป็นเครื่องมือ

การสื่อสารทางจิตหรือโทรจิต
การตอบสนองทางอารมณ์รู้สึกที่มีต่อกัน
การใช้จิตรู้สำนึกหรือไร้สำนึกกับผู้ใด
ที่จิตหยาบของท่านกระทำด้วยจิตสำนึก
จะยังผลให้จิตวิญญาณของท่าน
เกิดการสั่นสะเทือนไปตามนั้นทันที

ดังนั้น
ในที่สุดแล้วเราจะกล่าวได้ไหมล่ะว่า
#จิตใต้สำนึกเป็นเครื่องมือของจิตสำนึก

ต่อไปนี้อย่าใช้สองคำนี้ "มั่ว" อีกเลยนะ
เราขอตักเตือนคนที่กล่าวผิดมา
ด้วยความรักและปรารถนาดีจริงๆ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
11-12-2016

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

พันธะสัญญาใจ






หนึ่งนั้นเป็นสัจจะ (ที่เราให้ไว้ต่อพระบิดา)
สองเป็นพันธะหน้าที่ (ที่เราจักต้องรับผิดชอบ)
สามเป็นสิ่งที่เกิดจากความรัก (ที่เรามีต่อท่านทั้งหลาย)
เมื่อกลับไปแล้วยังย้อนคืนกลับมา
ก็ล้วนเป็นไปตามพันธะสัญญาใจ
ที่เรากล่าวไว้ใน 3 สิ่งนี้ทั้งสิ้น
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
3-12-2016

พลังงานทางจิตวิญญาณ





พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
หน้าที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง
ซึ่งผู้ปรารถนาการหลุดพ้นหรือนิพพาน
จักต้องปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมกันให้ได้
ภายในภพชาติสุดท้ายก่อนกาลสิ้นยุคพลังงานเก่านี้
นั่นคือ
จักต้องยกระดับ #จิตหยาบ หรือ "จิตมนุษย์"
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับ #จิตวิญญาณ
ผู้เป็นแก่นแท้ของตนเองให้จงได้
มิเช่นนั้นจิตวิญญาณของท่าน
จะไม่สามารถคืนกลับยังแดนสุญตาที่จากมาได้เลย
ที่คืนกลับไม่ได้ก็เพราะเหตุว่า
จิตวิญญาณของท่านจะไม่มีพลังอำนาจมากพอ
ที่จะดีดตนเองหนีแรงดึงดูดของโลกและเอกภพ
ออกไปนอกระบบจักรวาลอันไพศาลนี้ได้นั่นเอง
สาเหตุที่พลังอำนาจไม่มากพอ
ทั้งๆที่ตอนข้ามมิติเข้ามาเกิดเป็นมนุษย์ในระบบโลก
จิตวิญญาณท่านทั้งหลายล้วนมีพลังอำนาจสูงกันอยู่
ก็เพราะว่าจิตวิญญาณของท่านนั้น
เกิดอาการ "เสื่อมพลังอำนาจ" ลงไปจากเดิม
เหมือนแบตเตอรี่รถยนต์ที่เสื่อมพลังไฟ
พลังอำนาจทางจิตวิญญาณของท่าน
จะถูกใช้ไปในชีวิตประจำวันแม้ในยามหลับ
เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของท่าน
จะมีชีวิตรอดและดำรงชีวิตอยู่ได้
ทั้งอวัยวะร่างกายและจิตใจ
จักต้องมีสมรรถนะสูงพอและสมดุลกัน
เพื่อสามารถรับฟังข่าวสารจากจักรวาลได้
พลังงานพื้นฐานเหล่านี้
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดทั้งสิ้น
ถ้าพลังงานด้านแก่นแท้ลดน้อยถดถอยลงเมื่อไหร่
ท่านผู้นั้นจะมีร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สดชื่น ซึมเซา
อารมณ์หงุดหงิด ขาดสติง่าย ตกใจง่าย
ภูมิต้านทานโรคต่ำ สมองทึบ ขี้ลืม เป็นต้น
ที่สำคัญคือจะติดต่อกับจักรวาลไม่ได้
อันหมายถึงหลุดพ้นไม่ได้นั่นแหละ
ปกตินั้นพลังอำนาจทางจิตวิญญาณของท่าน
จะถูกใช้ผ่านกระบวนการของ #จิตสามนึก
โดยมี #จิตใต้สำนึก ทำหน้าที่ควบคุมกลไกนี้
ถ้าวันๆท่านเอาแต่ใช้มันไปเรื่อยๆไม่เติมเพิ่ม
พลังงานทางจิตวิญญาณก็ย่อมถดถอยน้อยลง
ดังนั้น
หน้าที่ของทุกท่านจึงต้องหมั่นเติมเพิ่ม
เพื่อรักษาพลังอำนาจด้านจิตวิญญาณของตนไว้
จนกว่าจะจบสิ้นอายุขัยไปจากการเป็นมนุษย์
ซึ่งเราบอกท่านแล้วว่าจะไม่ใส่ใจเรื่องนี้ไม่ได้
วิธีการเติมเพิ่มพลังอำนาจทางจิตวิญญาณ
ที่สูญเสียไปกับการนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
ก็คือ การยกระดับจิตหยาบ
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณ
ด้วยการ #ยกระดับแรงสั่นสะเทือน ของจิตหยาบ
ให้มันสูงขึ้นทางด้านบวกให้จงได้
เพราะว่าจิตวิญญาณของท่าน
จะสั่นสะเทือนตนเองทางด้านบวกบริสุทธิ์เท่านั้น
ในชีวิตประจำวันของท่าน
จึงต้องสั่นสะเทือนทางอารมณ์รู้สึกนึกคิดด้านบวก
ด้วยการรักได้แม้เขาคนนั้นไม่น่ารัก
ให้ได้แม้เขาคนนั้นไม่น่าให้โดยเฉพาะ "ให้อภัย"
และฝึกการมองโลกด้านบวกไว้เสมอ
ไม่ว่าใครผู้ใดจะดีหรือร้ายต่อท่านก่อนก็ตาม
นี่ไง...คือ การเติมเต็มพลังทางจิตวิญญาณ
ในการดำเนินชีวิตประจำวัน
ถ้าท่านไม่ทำหรือทำไมได้
ท่านก็เสียทีที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์
เพราะจิตวิญญาณที่ล่องลอยซึ่งไม่มีกายหยาบ
ไม่มีจิตสามนึกและไม่มีจิตหยาบ
เป็นผู้ที่ขาดความเป็นรูปธรรม 2 มิติ
จะไม่สามารถชาร์จแบ็ตเตอรี่ให้ตนเองได้
ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นความจริง
ว่าแต่ว่า....จิตหยาบของท่านน่ะ
บัดเดี๋ยวนี้ลืมไปแล้วว่าตนเองนั้น
ยังมี "จิตวิญญาณ" อยู่ข้างในกันหรือเปล่า
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
4-12-2016

ทำไมพระศาสดาทุกพระองค์ จึงทรงเน้นให้ทุกท่าน "รักกัน"







พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ตามปกติแล้วจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
เป็นรูปธรรมทางพลังงาน
ที่สามารถทำงานร่วมกัน
กับเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของตน
ผ่านต่อมไร้ท่อทุกต่อมที่ติดตั้งอยู่ข้างใน
ตัวอย่างเช่น
จิตวิญญาณแก่นแท้ข้างในกายสังขารท่าน
จะส่งพลังงานในรูปของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็ก
ไปกระตุ้นให้ต่อมไร้ท่อต่างๆมีการสั่นสะเทือนเกิดขึ้น
เพื่อให้ต่อมไร้ท่อเหล่านั้นตื่นตัวตลอดเวลา
ในการทำหน้าที่ต่างๆตามคุณสมบัติที่ถูกกำหนดไว้
เช่นจะคอยกระตุ้นให้ #ต่อมไธรอยด์ ที่ลำคอตื่นตัว
เพื่อคอยช่วยควบคุมอารมณ์ขยะของท่านไว้
ถ้าต่อมไร้ท่อต่อมนี้ของท่านบกพร่อง
ท่านก็จะกลายเป็นคนที่มีปัญหาทางอารมณ์
ไม่สามารถเก็บกดอดกลั้นอารมณ์ไม่ดีเอาไว้ได้
ท่านจึงน้อตหลุดหรือสติแตกเมื่อถูกยั่วยุเสมอ
จะคอยกระตุ้นให้ #ต่อมไพเนียล
ตรงกลางระหว่างคิ้วในกระโหลกศีรษะท่าน
มีการสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลาในยามตื่น
เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการสั่นสะเทือน
ในการสัมผัสรู้ดูเห็นของกลไกอายตนะทั้งหมด
อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้เอง
ต่อมไร้ท่อต่างๆจึงเป็นเครื่องมือของจิตวิญญาณ
เพื่อทำหน้าทีให้บริการท่านในมิติโลกทางกายภาพ
ท่านจะสังเกตได้ว่าถ้าต่อมไร้ท่อใดชำรุด
สุขภาพร่างกายของคนผู้นั้นจะมีอาการผิดปกติเสมอ
ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้
มันคือการใช้พลังงานทางจิตวิญญาณ
ที่จะเกิดการร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ
ดังนั้น
ท่านจึงต้องเรียนรู้ว่าจะช่วยเติมเต็ม
พลังอำนาจทางจิตวิญญาณของตนกันได้อย่างไร
ซึ่งเราได้เปิดเผยต่อท่านมาแล้วว่า
ให้ใช้จิตหยาบสั่นสะเทือนเพื่อ "รักได้ ให้เป็น"
ในชีวิตประจำวันอย่างมั่นคงเข้าไว้แค่นั้นเอง
เพราะถ้าจิตหยาบสามารถสั่นสะเทือน
เป็นคลื่นความถี่ด้านบวกจนสูงสุดได้ละก็
จิตจะสามารถส่งคลื่นไปกระทำต่อต่อมไร้ท่อได้เอง
จิตวิญญาณแก่นแท้ก็ไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงาน
ถ้าจิตหยาบสั่นสะเทือนด้านบวกได้อย่างคงที่
จนยังผลให้จิตวิญญาณมีพลังสะสมสูงมาก
พลังงานส่วนเกินก็จะถูกนำไปเก็บเอาไว้
ที่ #ต่อมธัยมัส บริเวณหลังกระดูกทรวงอกนั่น
ผู้ที่ชอบปฏิบัติกรรมฐานเป็นนิจ
ผู้ที่หมั่นผลิตสร้างพลังงานความรัก
ด้วยการแผ่เมตตาอยู่เป็นประจำ
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักบวชหรือนักพรต
รูปธรรมเหล่านี้เมื่อตายไปร่างกายจะไม่เน่าเปื่อย
เล็บ เส้นขน และเส้นผมจะงอกยาวออกมาได้เรื่อยๆ
เหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่มีผิด
เพราะเหตุว่า "พลังงานส่วนเกิน" ซึ่งสะสมไว้
ตรงต่อมธัยมัสที่ว่านี้มีเหลือเฟือนั่นเอง
ที่พลังงานด้านบวกเหลือใช้มากๆ
เป็นเพราะรูปธรรมมนุษย์ดังกล่าว
เอาแต่อิ่มสุขอยู่ในสมถะกรรมฐานนานนับปี
จิตจึงผลิตสร้างพลังงานด้านบวก
ออกมาสะสมเอาไว้มาก
เพราะขาดการแผ่เมตตาหรือปันพลังบวกให้ผู้อื่น
หรือแบ่งปันให้ผู้อื่นน้อยกว่าที่ตนผลิตสร้าง
ท่านทั้งหลายจักต้องระลึกเสมอว่า
ถ้าจิตหยาบของท่านสั่นสะเทือนด้านบวกได้เอง
จิตวิญญาณของท่านก็จะเสมือนหนึ่ง
ได้รับการชาร์จพลังงานเพิ่มขึ้นเสมอ
เพราะไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงาน
เนื่องจากจิตหยาบทำหน้าที่ทดแทนได้
อีกทั้งยังจะได้รับพลังงานเพิ่มขึ้นเมื่อสิ้นอายุขัย
ซึ่งจะถ่ายเทพลังงานที่สะสมไว้มาจากต่อมธัยมัส
นี่ไงล่ะ....
ที่เป็นคำตอบว่าทำไมพระศาสดาทุกพระองค์
จึงทรงเน้นให้ทุกท่าน "รักกัน"
ที่เป็นคำตอบว่าทำไมพระบิดา
จึงทรงเน้นให้ท่านทั้งหลาย
ละวางกิเลส ปฏิเสธตัณหา
มีมหาสติ และมีปณิธานแห่งนิพพาน
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
4-12-2016

กฎแห่งการเป็นหนึ่งเดียวกันของสรรพสิ่ง





พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

#กฎแห่งการเป็นหนึ่งเดียวกันของสรรพสิ่ง
ในสนามพลังงานจักรวาลอันไพศาลนี้

ดวงดาวทุกดวงในเอกภพเดียวกัน
อีกทั้งทุกรูปธรรมที่ดำรงอยู่บนดาวทุกดวง
ภายในเอกภพซึ่งเป็นระบบใหญ่
ต่างก็ล้วนอยู่ภายใต้กฎเดียวกันนี้ทั้งสิ้น

หลักการเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกสรรพสิ่ง
จะบังเกิดได้ด้วยการบริหารจัดการที่ตนเอง
ให้สามารถดำรงอยู่ร่วมกันกับสรรพสิ่งอื่นๆได้
อย่างสอดคล้องลงตัวกันตลอด
อันหมายถึง #ทุกสรรพสิ่งต้องสมดุลกัน เท่านั้น
ซึ่งแต่ละสรรพสิ่งต่างต้องดำรงคุณสมบัติเดิมของตนไว้
โดยต้องไม่ทำลายคุณสมบัติของสรรพสิ่งอื่น

การที่ทุกสรรพสิ่งจะสร้างสมดุลร่วมกันได้
ก็ต้องมีเงื่อนไขสำคัญ 2 ประการ คือ

1.แต่ละสรรพสิ่งที่ดำรงอยู่ภายในเอกภพนี้
ไม่ว่าจะมีตัวตนรูปลักษณ์แบบใด
ไม่ว่าจะมีขนาดใหญ่หรือเล็ก
จะต้องมีการสั่นสะเทือนแก่นแท้ของตนไว้ตลอด
เพราะการสั่นสะเทือนภายในแก่นแท้
คือวิธีการสร้างพลังอำนาจให้ตนเองของสิ่งนั้น

ถ้าสิ่งที่ว่านั้นเป็นมนุษย์
หากจะสร้างพลังอำนาจในตนเอง
ก็ต้องสั่นสะเทือนแก่นแท้คือจิตวิญญาณให้ได้
โดยจิตหยาบต้องเป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณ
ด้วยการสั่นสะเทือนเป็นคลื่นความถี่เดียวกัน
นั่นคือ "ความรักเพื่อให้" ในทุกรูปแบบ
เช่น อดทน อดกลั้น ให้อภัย
และ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นต้น

ดังนั้น
พลังอำนาจในตนเองของสรรพสิ่งก็คือ
พลังงานความรักที่เป็นคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
ซึ่งสองตาเปล่ามองไม่เห็น
แต่สามารถปฏิสัมพันธ์ระหว่างท่านเองกับผู้อื่นได้
โดยความรักนี้มีไว้เพื่อ "เหนี่ยวรั้ง" ตนเอง
เอาไว้กับผู้อื่นหรือสรรพสิ่งอื่นนั่นเอง

เป็นเพราะความรัก
ที่ึดึงดูดเหนี่ยวรั้งซึ่งกันและกันไว้นี่เอง
จึงยังผลให้ทุกสรรพสิ่ง "สร้างระบบเดียวกัน" ขึ้นมาได้
ไม่ต่างจากพวกท่านสร้างครอบครัวหรือทีมงานได้
ก็เพราะใช้ความรักจากใจหยิบยื่นให้แก่กันโดยแท้

2.นอกจากนั้น
แต่ละสรรพสิ่งเมื่อสร้างระบบเดียวกันขึ้นมาได้แล้ว
ต่างก็จักต้องดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลด้วย

การสร้างสมดุลอย่างง่ายของสรรพสิ่งก็คือ
#การเหวี่ยงหมุนรอบตัวเอง
เช่น โลกหมุนรอบตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ทุกสิ่งในระบบโลกจึงเกาะติดยึดโยงอยู่กับโลกได้
ไม่หลุดกระเด็นออกไปนอกระบบ

สำหรับสรรพสิ่งที่เรียกว่า "มนุษย์" แล้ว
ความสมดุลในระบบจิตของตนเอง
ก็เกิดได้จากการ #เหวี่ยงหมุนธรรมจักร
จากอายตนะภายนอกเข้าสู่จิตด้านใน

ส่วนความสมดุลในระบบเครื่องยนต์แห่งกรรม
ซึ่งเป็นมิติทางกายภาพนั้น
ก็คือการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเอง
ตัดผ่านสนามพลังงานแม่เหล็กโลกนั่นแหละ
ซึ่งพวกท่านไม่ต้องเดินไปหมุนรอบตัวเองไปด้วย
แต่โลกที่ท่านเหยียบยืนนี่แหละ
จะเป็นผู้นำพาท่านเหวี่ยงหมุนไปเอง

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
4-12-2016