วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2559

"เราสื่อสอนเรื่องอะไร"








พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
รวมทั้ง สมาชิกครอบครัวจิตจักรวาลทุกๆคน
ท่านจงอย่าไปหลงสอบตกในบททดสอบ
ที่ถูกฉวยโอกาสหยิบยื่นมาทดสอบ "มหาสติ"
กับปณิธานแห่งนิพพานของท่านทั้งหลายเลย

เราจะขอถามพวกท่านที่เรารักทุกๆคนว่า
1.การอยากรู้ว่า "เราเป็นใคร" น่ะมันมีประโยชน์ต่อผู้ถาม
มากกว่าที่จะรู้ว่า "เราเป็นผู้สื่อสอนเรื่องอะไร" เช่นนั้นหรือ
ถ้ารู้ว่าเราเป็นใคร มันจะทำให้ท่านไปสวรรค์กันได้เช่นนั้นหรือ
ถ้าเห็นว่าท่านไม่ได้ประโยชน์อันใดจากการถามหาตัวตน
ด้วยการเสียเวลาค้นหาคำตอบที่ต้องการนี้แล้ว
ก็จงเลิกเสียเวลาถามหาตัวตนของเราเสียเถอะ
มาเร่งศึกษากันดีกว่าว่า "เราสื่อสอนเรื่องอะไร"
เรามีคุณสมบัติอะไรอันเหมาะสมที่ท่านพึงสดับรับฟังบ้าง
จงมาพิจารณาด้วยปัญญากันมิดีกว่าหรือว่า
สิ่งที่ท่านแสวงหากันมานมนานหลายภพชาติแล้ว
และสิ่งที่ท่านรอคอยจะเรียนรู้กันอยู่นั้น
มันจะสื่อผ่านออกมาจากปากเราบ้างหรือเปล่า
ถ้าท่านไม่พบในสิ่งที่แสวงหามานาน
ถ้าท่านไม่พบในสิ่งที่ท่านรอคอย
ท่านก็ค่อยเดินจากไปอย่างสง่างามก็มิเกิดเวรกรรมอันใด
แต่ถ้าหากท่านใช้เวลาศึกษาแล้วเกิดพบความจริงว่า
สิ่งที่ท่านแสวงหามานานนั้นมันอยู่ที่นี่
สิ่งที่ท่านรอคอยมานานนั้นมันอยู่ตรงนี้นี่เอง
พระเจ้า...ก็จะทรงรักท่าน
เพราะว่าท่านเป็นบุตรกตัญญูมิกล่าวคำใดที่ "ก้าวล่วง"
2.เราขอถามท่านทั้งหลายที่ใคร่จะรู้กันนักหนาว่า
เราคือ "พระเยซู" หรือเปล่าว่าถามเราเพื่ออะไร
เราไม่ตำหนิท่านหรอกที่ชอบจะตัดสินความจริง
ด้วยการตัดสินที่ตัวตนของคน
มากกว่าการตัดสินที่คุณสมบัติของคนๆนั้น
เพราะเรารู้ดีว่ามันเป็นนิสัยเคยชินของมนุษย์
แต่ที่เราจะถามท่านก็คือว่าหากเราตอบท่านว่าใช่ล่ะ
เรานี่แหละคือพระองค์นั้นที่พวกท่านรอคอยอยู่จริงๆ
แล้วท่านจะเชื่อคำกล่าวของเราเช่นนั้นหรือ
ท่านจะเอาอะไรมาชี้วัดตัดสินเราว่า
ใช่จริงดังที่เราให้คำตอบแก่ท่าน
มีเพียงสองทางเลือกเท่านั้นที่ท่านจะมีนั่นคือ
*ทางเลือกแรก
คือ "ไม่เชื่อ" เพราะกลัวถูกหลอกแล้วเดินจากไป
*ทางเลือกสอง
คือ "เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง".....
แล้วเร่งหันมาศึกษาเรียนรู้คุณสมบัติของเรา งานของเรา
พระโอวาทที่เราสื่อมาสอนมนุษย์ในชาตินี้แล้วตั้งมากมาย
ใช้เวลากับสติปัญญาของท่านอย่างมีศรัทธาในตนเอง
เร่งทำการศึกษาพระคำที่เรากล่าวอ้างอย่างใจกว้าง
เพื่อค้นหาความจริงเหล่านั้นด้วยต้วท่านเองในทันที
เรารู้ดีว่า "คนฉลาด" ซึ่งเป็นคนที่พระเจ้าทรงเลือก
เขาจะเลือกอยู่ข้างพระเจ้าหรือพระบิดาแห่งเรา
นั่นคือจะเลือก "ทางเลือกสอง" แน่นอน
ดังนั้น
เราจึงจะกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า
เราจะไม่บอกท่านหรอกว่า "เราคือพระเยซู"
เพราะบุตรที่กตัญญูต่อพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
และศิษย์ที่ภักดีต่อพระจิตวิญญาณแห่งองค์เยซูแท้จริงนั้น
เขาจะไม่ถามคำถามนี้ต่อเราหรอก
แต่เขาจะตั้งคำถามนี้ต่อ "ตัวเขาเอง" ต่างหาก
เพื่อที่จะตอบตัวเขาเองให้ได้ว่า "เราเป็นใคร"
ท่านทั้งหลายรู้หรือไม่ว่า
ที่เรากล่าวมาทั้งหมด 2 ข้อนี้
มันคือกลวิธีหนึ่งที่เราได้นำมาใช้เพื่อ "พิพากษา" มนุษย์
ก่อนวันสิ้นสุดโลกยุคพลังงานเก่านั่นเอง
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
13-06-2016