วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ทำไมพระศาสดาทุกพระองค์ จึงทรงเน้นให้ทุกท่าน "รักกัน"







พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ตามปกติแล้วจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
เป็นรูปธรรมทางพลังงาน
ที่สามารถทำงานร่วมกัน
กับเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของตน
ผ่านต่อมไร้ท่อทุกต่อมที่ติดตั้งอยู่ข้างใน
ตัวอย่างเช่น
จิตวิญญาณแก่นแท้ข้างในกายสังขารท่าน
จะส่งพลังงานในรูปของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็ก
ไปกระตุ้นให้ต่อมไร้ท่อต่างๆมีการสั่นสะเทือนเกิดขึ้น
เพื่อให้ต่อมไร้ท่อเหล่านั้นตื่นตัวตลอดเวลา
ในการทำหน้าที่ต่างๆตามคุณสมบัติที่ถูกกำหนดไว้
เช่นจะคอยกระตุ้นให้ #ต่อมไธรอยด์ ที่ลำคอตื่นตัว
เพื่อคอยช่วยควบคุมอารมณ์ขยะของท่านไว้
ถ้าต่อมไร้ท่อต่อมนี้ของท่านบกพร่อง
ท่านก็จะกลายเป็นคนที่มีปัญหาทางอารมณ์
ไม่สามารถเก็บกดอดกลั้นอารมณ์ไม่ดีเอาไว้ได้
ท่านจึงน้อตหลุดหรือสติแตกเมื่อถูกยั่วยุเสมอ
จะคอยกระตุ้นให้ #ต่อมไพเนียล
ตรงกลางระหว่างคิ้วในกระโหลกศีรษะท่าน
มีการสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลาในยามตื่น
เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการสั่นสะเทือน
ในการสัมผัสรู้ดูเห็นของกลไกอายตนะทั้งหมด
อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้เอง
ต่อมไร้ท่อต่างๆจึงเป็นเครื่องมือของจิตวิญญาณ
เพื่อทำหน้าทีให้บริการท่านในมิติโลกทางกายภาพ
ท่านจะสังเกตได้ว่าถ้าต่อมไร้ท่อใดชำรุด
สุขภาพร่างกายของคนผู้นั้นจะมีอาการผิดปกติเสมอ
ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้
มันคือการใช้พลังงานทางจิตวิญญาณ
ที่จะเกิดการร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ
ดังนั้น
ท่านจึงต้องเรียนรู้ว่าจะช่วยเติมเต็ม
พลังอำนาจทางจิตวิญญาณของตนกันได้อย่างไร
ซึ่งเราได้เปิดเผยต่อท่านมาแล้วว่า
ให้ใช้จิตหยาบสั่นสะเทือนเพื่อ "รักได้ ให้เป็น"
ในชีวิตประจำวันอย่างมั่นคงเข้าไว้แค่นั้นเอง
เพราะถ้าจิตหยาบสามารถสั่นสะเทือน
เป็นคลื่นความถี่ด้านบวกจนสูงสุดได้ละก็
จิตจะสามารถส่งคลื่นไปกระทำต่อต่อมไร้ท่อได้เอง
จิตวิญญาณแก่นแท้ก็ไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงาน
ถ้าจิตหยาบสั่นสะเทือนด้านบวกได้อย่างคงที่
จนยังผลให้จิตวิญญาณมีพลังสะสมสูงมาก
พลังงานส่วนเกินก็จะถูกนำไปเก็บเอาไว้
ที่ #ต่อมธัยมัส บริเวณหลังกระดูกทรวงอกนั่น
ผู้ที่ชอบปฏิบัติกรรมฐานเป็นนิจ
ผู้ที่หมั่นผลิตสร้างพลังงานความรัก
ด้วยการแผ่เมตตาอยู่เป็นประจำ
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักบวชหรือนักพรต
รูปธรรมเหล่านี้เมื่อตายไปร่างกายจะไม่เน่าเปื่อย
เล็บ เส้นขน และเส้นผมจะงอกยาวออกมาได้เรื่อยๆ
เหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่มีผิด
เพราะเหตุว่า "พลังงานส่วนเกิน" ซึ่งสะสมไว้
ตรงต่อมธัยมัสที่ว่านี้มีเหลือเฟือนั่นเอง
ที่พลังงานด้านบวกเหลือใช้มากๆ
เป็นเพราะรูปธรรมมนุษย์ดังกล่าว
เอาแต่อิ่มสุขอยู่ในสมถะกรรมฐานนานนับปี
จิตจึงผลิตสร้างพลังงานด้านบวก
ออกมาสะสมเอาไว้มาก
เพราะขาดการแผ่เมตตาหรือปันพลังบวกให้ผู้อื่น
หรือแบ่งปันให้ผู้อื่นน้อยกว่าที่ตนผลิตสร้าง
ท่านทั้งหลายจักต้องระลึกเสมอว่า
ถ้าจิตหยาบของท่านสั่นสะเทือนด้านบวกได้เอง
จิตวิญญาณของท่านก็จะเสมือนหนึ่ง
ได้รับการชาร์จพลังงานเพิ่มขึ้นเสมอ
เพราะไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงาน
เนื่องจากจิตหยาบทำหน้าที่ทดแทนได้
อีกทั้งยังจะได้รับพลังงานเพิ่มขึ้นเมื่อสิ้นอายุขัย
ซึ่งจะถ่ายเทพลังงานที่สะสมไว้มาจากต่อมธัยมัส
นี่ไงล่ะ....
ที่เป็นคำตอบว่าทำไมพระศาสดาทุกพระองค์
จึงทรงเน้นให้ทุกท่าน "รักกัน"
ที่เป็นคำตอบว่าทำไมพระบิดา
จึงทรงเน้นให้ท่านทั้งหลาย
ละวางกิเลส ปฏิเสธตัณหา
มีมหาสติ และมีปณิธานแห่งนิพพาน
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
4-12-2016

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"



จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น