วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

บทเรียนเรื่อง "กบ & ม้า"
































บทเรียนเรื่อง "กบ & ม้า"
..................................
1.จากสไลด์แผ่นเดียวกัน
คนหลายคนสามารถมองสิ่งเดียวกัน
แล้วเห็นแตกต่างกันได้เสมอ
2.การเห็นต่างกันในสิ่งเดียวกันนี้
หมายถึง การที่คนหนึ่งเห็น
ในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น
การที่คนหนึ่งไม่เห็น
ในสิ่งที่คนอื่นๆเขาแลเห็นกัน
3.เป็นเพราะมนุษย์มีจิตใจคับแคบ
ยึดมั่นถือมั่นในความคิดความเชื่อ
จากมุมมองของตัว หัวใจไม่เปิดกว้าง
สังคมมนุษย์จึงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย
อันเกิดจากความขัดแย้ง....
จนแม้แต่ครอบครัว
ในหมู่คนที่เคยบอกรักกันเอง
ก็มีอันต้องขาดความอบอุ่นไม่มีสันติสุข
4.นักเรียนจึงต้องรู้ว่า............
การเรียนรู้ด้วยการมองสรรพสิ่งใดก็ตาม
เพื่อการรู้จริงรู้แจ้ง
ในอันที่จะนำไปสู่การเห็นจริงเห็นแจ้งนั้น
ท่านทั้งหลายจักต้อง "ฉลาดมอง"
เพื่อการฉลาดเรียนรู้ในทุกสิ่งทุกเรื่องราว
โดยใช้คุณสมบัติดังต่อไปนี้
4.1 อย่ายึดติดมุมมองมุมคิดของตนเอง
อยู่เพียงด้านเดียว
โดยท่านต้องรู้ว่าทุกสรรพสิ่งทุกเรื่องราว
มันมีหลายมิติหรือหลายแง่มุม
หนำซ้ำยังมีเงามายาอยู่อีกด้วย
4.2 มองหน้ามองหลัง
ให้เหมือนมองลูกปลากระเบน
เพราะเขาคว่ำหน้าอยู่ใต้น้ำ
ถ้ามองแต่ด้านบนที่เป็นส่วนหลังด้านเดียว
ท่านก็จักไม่เห็นความน่ารักของเขาเลย
4.3 เมื่อลูกปลากระเบนสอนให้ท่าน
รู้จักมองหน้ามองหลังของเขา
เพื่้อค้นหาความจริงของเขาให้ครบด้านแล้ว
ทั้งกบทั้งม้าก็นำพาคำสอนใหม่
เพื่อสร้างคุณสมบัติของการเป็นคนฉลาดมอง
ฉลาดคิดต่างแง่มุมมาฝากท่าน
เป็นบทเรียนใหม่อีกด้วย
นั่นคือ....
หากท่านมองภาพสไลด์ตรงๆ ทื่อๆ
เขาวางภาพมาอย่างไรก็มองเห็นได้แค่นั้น
ท่านก็จะรู้จริงแค่เพียงบางด้าน
เสมือนการพบเจอสิ่งดีใดๆในชีวิต
แต่ท่านสามารถเข้าถึงสัจธรรมความจริงได้
แค่เพียงเศษเสี้ยวหรือบางส่วนนั่นเอง
5.การเป็นคนฉลาดเรียนรู้
เพื่อฉลาดที่จะรู้เท่าทันคนอื่นๆนั้น
ท่านจึงต้องมองให้เห็นในสิ่งที่คนอื่นเขาเห็น
ในขณะที่ท่านมองในมุมเดียวกันกับผู้อื่นอยู่
6.การเป็นคนฉลาดเรียนรู้
เพื่อฉลาดที่จะรู้ให้ลึกและกว้างกว่าคนอื่นนั้น
ท่านก็จะต้องมองให้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น
ในขณะมองมุมเดียวกันอยู่
นอกจากนั้น...
ท่านก็จักต้องสามารถมองสิ่งใดๆ
ในแง่มุมที่คนอื่นๆเขามิได้มามองมาเห็น
เพราะพวกเขามองข้ามมันไปให้จงได้
ท่านจักต้องมองในแง่มุมที่
คนอื่นๆเขามองลึกเข้าไปไม่ถึง
คนอื่นๆเขามองได้ไม่กว้างไกลไปกว่าท่าน
ที่สำคัญคือ
ท่านจักต้องไม่ตีกรอบกักขังตนเองไว้
ด้วยการเคยมองมุมไหนก็ยึดติดอยู่กับมุมนั้น
ด้วยการมองต่างมุมให้เป็น
ด้วยการฉลาดพลิกแพลงมุมมอง
พระบิดาทรงกำหนดสร้างเจ้าค้างคาวขึ้นมา
ให้พวกเขาแสดงอิริยาบถห้อยหัวลงเสมอ
ในท่าปกติ สภาวะปกติ
ทั้งๆที่สัตว์ทุกตัวเวลานอนและเวลาปกตินั้น
ไม่มีพันธุ์ไหนที่ทรงกำหนดให้ห้อยหัวลงเลย
ทรงกำหนดสร้างค้างคาวให้ห้อยหัว
ก็เพื่อจะทรงทดลองให้เกิดการเรียนรู้ว่า
สัตว์ของพระองค์เวลาห้อยหัว
จะหลับได้มั้ย?
จะกินอาหารได้มั้ย?
นี่จึงเป็นการที่ทรงดำริอย่างมีมิติ
ทรงคิดอย่างมีมิติ
ทรงคิดนอกกรอบ
จึงทรงได้ความรู้และได้สัตว์พันธุ์ใหม่
ที่มีความแตกต่างจากสัตว์ชนิดอื่น
เพราะทรงคิดต่าง คิดนอกกรอบ
และกล้าที่จะคิดอีกต่างหากด้วย
การมองหน้ามองหลัง
การมองหลายทิศทาง หลายๆแง่มุม
และการพลิกแพลงมุมมองดั่งเช่นภาพนี้
ท่านจึงเห็นว่า....
กบกับม้ามันอยู่ในภาพเดียวกันนั่นเอง

อ.ปริญญา ตันสกุล

ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการปรับพฤตินิสัยของมนุษย์
ด้วยกระบวนการ PsychoShow และ
นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์พฤติกรรม