วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

meta physics: จิตใต้สำนึก #อภิปรัชญา




meta physics: จิตใต้สำนึก
#อภิปรัชญา

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านว่า

มันเป็นการทำร้ายตนเองแท้ๆ
กับการ"หลอกใช้" จิตใต้สำนึกของตนเอง
แม้ว่าหลอกใช้แล้วมันจะได้ผลจริงๆด้วย
เพราะจิตใต้สำนึกเป็นจิตที่อยู่นอกเหนือ
อำนาจการควบคุมของจิตหยาบนั่นเอง

หมายความว่า "จิตหยาบ" ของท่าน
จะบงการ "จิตใต้สำนึก"ของตนไม่ได้
เพราะพระผู้สร้างหรือพระบิด
ทรงกำหนดกติกาวางระบบเอาไว้เช่นนั้น
เพราะว่า "จิตใต้สำนึก" จะถูกกำหนดให้
สั่นสะเทือนไปตาม "จิตสำนึก" กันอยู่แล้ว

เนื่องจากมนุษย์โลกเสรีนี้เป็น #คนสองมิติ
เพราะเป็นผู้ที่มีสองภาคอยู่ในตนเอง
อันประกอบด้วยภาคแรก คือ #กายสังขาร
กับภาคที่สอง คือ #จิตวิญญาณ

เหตุที่พระบิดาทรงกำหนดเอาไว้เช่นนี้
ก็เพราะว่าจิตวิญญาณของท่าน
ขันอาสาพระบิดาลงมาเกิดเป็นมนุษย์
เพื่อทำหน้าที่ทั้งทางจิตวิญญาณ
และทำหน้าที่ด้านกายภาพควบคู่กันด้วย
พระองค์จึงต้องสร้างเครื่องยนต์แห่งกรรม
รูปธรรมมนุษย์ทั้งชายและหญิ
ให้มีขีดความสามารถพิเศษ
ที่จะสั่นสะเทือนพร้อมๆกันทั้งสองมิติได้
โดยกำหนดให้จิตหยาบเป็นผู้เริ่มต้น

หมายความว่า...
ถ้า "จิตหยาบ" สั่นสะเทือนทาง #จิตสามนึก
จนเกิดเป็นอารมณ์รู้สึกนึกคิดใดๆขึ้นมา
แล้วแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมภายนอก
ให้คนรอบข้างสัมผัสรู้ดูเห็นได้ยินได้ฟัง
มันจะยังผลให้ #จิตใต้สำนึก สั่นสะเทือนตาม
เพื่อก่อให้เกิดกรรมหรือการกระทำ
ในมิติทางพลังงานด้านของจิตวิญญาณ
ควบคู่กันไปด้วย

การก่อกรรมกระทำใดๆในมิติทางกายภาพ
มันจะก่อให้เกิด "กรรม" แบบเดียวกันนั้น
ในมิติทางพลังงานด้านของจิตวิญญาณเสมอ
ในบางโอกาสเราจึงเรียกมิติทางพลังงาน
ด้านของแก่นแท้ว่า #มิติคู่ขนาน 

ดังนั้น 
เมื่อใดก็ตามที่ท่านสั่นสะเทือนจิตสำนึก
เพื่อแสดงความรักต่อกันในมิติโลก
จิตใต้สำนึกของท่าน
ก็จะเกิดการสั่นสะเทือนตาม
เพื่อแสดงความรักในมิติจิตวิญญาณด้วย

เมื่อใดก็ตามที่ท่านสั่นสะเทือนจิตสำนึก
เพื่อก้าวล่วงต่อกันในมิติโลก
จิตใต้สำนึกของท่าน
ก็จะเกิดการสั่นสะเทือนตาม
เพื่อทำร้ายผู้นั้นในมิติจิตวิญญาณด้วย

เราจึงยืนยันต่อท่านอยู่ซ้ำซากว่า
#จิตใต้สำนึกเป็นเครื่องมือของจิตสำนึก
ที่จะทำให้เกิดการกระทำใดๆ
ในมิติทางพลังงานด้านของจิตวิญญาณ
ควบคู่กับการกระทำแบบเดียวกัน
ในมิติโลกด้านกายภาพ

ท่านทั้งหลายที่ยังว่ายวนอยู่ในสังสารวัฏ
เพราะตกอยู่ใต้อำนาจของกฎแห่งกรรม
ล้วนมีสาเหตุเดียวที่คล้ายๆกัน
นั่นคือการก่อกรรมให้เกิด "ผลกรรม"
ในมิติของจิตวิญญาณด้านของแก่นแท้

#ผลกรรมทางพลังงาน 
คือ ขยะในมิติคู่ขนาน
ที่มนุษย์แต่ละคนผลิตสร้างกันขึ้นมา
ด้วยกิเลส ตัณหา ราคะและอารมณ์รายวัน
ซึ่งกฎเกณฑ์ในมิติแห่งจิตวิญญาณนั้น
ถ้าใครสร้างขยะขึ้นมารกจักรวาล
รูปธรรมนั้นจักต้องรับผิดชอ
ด้วยการตายแล้วต้องย้อนกลับมาเกิดใหม่
เพื่อที่จะได้รับโอกาสดีๆ
ในการกำจัดขยะของตนให้สิ้นทราก

แต่ถ้าได้รับโอกาสให้มาเกิดใหม่แล้ว
แทนที่จะแก้ไขกรรมเก่าให้จริงจัง
กลับมาสร้างกรรมใหม่ทับซ้อนเข้าไปอีก
การมีสังสารวัฏจึงมิอาจสิ้นสุดยุติได้เลย
มรรคผลนิพพานจึงมิอาจบรรลุ

ท่านทั้งหลายจึงต้องรู้ว่า
กฎแห่งกรรมไม่มีใครต้องควบคุมมัน
เพราะจิตใต้สำนึกของท่านนี่แหละ
ทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณอย่างซื่อสัตย์เสมอ

เราจึงอาจกล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า
#ถ้าจิตสามนึกเป็นพลังอำนาจของจิตหยาบ
#จิตใต้สำนึกก็เป็นพลังอำนาจของแก่นแท้
#คือจิตวิญญาณของท่านนั่นเอ

พระผู้สร้าง
ทรงวางระบบเอาไว้ให้อย่างเหมาะสมแล้ว
ท่านทั้งหลายจึงมิบังควรอย่างยิ่ง
ที่จะใช้จิตสำนึกที่ไร้สำนึ
เข้าไปแทรกแทรงระบบของพระบิดา
ด้วยการ "หลอกใช้" อำนาจทางวิญญาณ
โดยไม่กระทำผ่านขั้นตอนของจิตสามนึก

เพื่อสร้างประโยชน์สุขแก่ตนอย่างไร้สติ
ส่วนใหญ่เป็นไปตามอำนาจกิเลสทั้งสิ้น
เช่น อยากรวย อยากสำเร็จ อยากชนะ
จนสร้างปัญหาทางโลกและจิตวิญญาณ
ให้แก่ตัวท่านเองในอนาคตอันใกล้
ซึ่งมันร้ายแรงจนไม่น่าให้อภัยเลยจริงๆ

ตอนต่อไป...
เราจะกล่าวให้ท่านรู้เพิ่มเติมว่า
#จิตใต้สำนึก ของท่านนั้น
สำคัญต่อการเป็นมนุษย์อย่างไร
ถ้าได้รู้แล้วยังจะหลอกใช้กันอยู่
ต่อไปอีกมั้ย?

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
3-07-2017

หมายเหตุ:

ใครอยากเรียนรู้ต่อ
กรุณาแสดงตนด้วยการชูมืออีกครั้งนะ