วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2560

มรรควิถีแห่งจิตจักรวาล ผู้ปราถนาการหลุดพ้น






พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย

อันมรรควิถีแห่งจิตจักรวาล
ที่จะนำพาท่านมุ่งสู่แดนพระนิพพานนั้น 

#เราเน้นที่การชำระจิตให้ใสเป็นเบื้องต้น
#เน้นที่การสร้างใจให้สวยเป็นเบื้องกลาง
#เน้นที่การมีจิตว่างจากสุญญตาเป็นเบื้องปลาย

โดยทุกลมหายใจเข้าออกในยามจิตตื่น
ท่านสามารถสั่นสะเทือนจิตตปัญญา
เพื่อสามสิ่งที่กล่าวนี้ได้
ด้วยการครองดวงแก้ว 2 ดวงไว้ให้มั่น
คือ "มหาสติ" กับ "ปณิธานแห่งนิพพาน"
เพื่อการเริ่มที่จิตสัมฤทธิ์ที่กาย
ในบทบาทของมนุษย์แห่งโลกเสร
โดยมิพักต้องมีลีลาอุตริพิสดารใดๆทั้งสิ้น

*แม้ร่างกายภายนอกของท่าน
จะแต่งองค์ทรงเครื่องรูปแบบไหน
ให้แลดูงามสง่าน่าเลื่อมใสในความขลัง
แต่ถ้าท่านยังไม่สามารถเข้าถึง
การแต่งจิตใจข้างในตนเองได้แล้ว
ตัวท่านก็คงไม่ต่างจากผลมะเดื่อที่แลดูดี
แต่มีแมลงหวี่เข้าไปอยู่ข้างใน
รอวันจะเน่าสลายไปในที่สุดนั่นแหละ

*แม้ว่าตัวท่านจะขนย้ายตนเอ
ออกจากบ้านที่ในเมือง
เพื่อปลีกหนีความวุ่นวาย
หลบมุมไปอยู่ในพงไพรพนา
ซึ่งแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติแห่งขุนเขา
กับราวป่าอันรื่นรมย์สงบเย็
เพื่อบอกตนเองว่าไป "ปฏิบัติธรรม"

แต่ถ้าท่านยังมิอาจเข้าถึง
การชำระจิตใจให้ใสสวยได้
แม้ไปอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมสวยๆชั่วคราว
มันก็เป็นประโยชน์ต่อการชำระจิตท่านไม่ได้

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
การบวชที่แท้จริงนั้นต้องบวชที่จิตมิใช่ที่กาย

ดังนั้น
การปฏิบัติธรรมแท้จริงจึงปฏิบัติที่บ้านก็ได้
ถ้าหมายถึงการมุ่งชำระจิตใจให้ใสสวย
โดยอาศัยบุตรบริวารในครอบครัว
ช่วยเป็นครูผู้ออกแบบ
บททดสอบสภาวะจิตรายวันให้แก่ท่าน

ทดสอบการละวางโทสะ
ทดสอบการละวางโลภะ
ทดสอบการละวางโมหะ

ทดสอบความอดทน อดกลั้น ให้อภัย
ทดสอบความฉลาดทางปัญญา
ทดสอบความเป็นอุเบกขา

ในบริบทของ "ตนเป็นที่พึ่งตนเอง"
ไม่พึ่งป่า ไม่พึ่งขุนเขาแวดล้อม
ไม่พึ่งพิธีกรรม ไม่พึ่งความงมงาย
ไม่พึ่งเจ้าลัทธิทั้งหลาย
โดยให้เน้นที่การพึ่งจิตตปัญญาของตนเอง

ไม่หนีครอบครัว ไม่หนีสังคม
ไม่หนีปัญหา ไม่หนีความรับผิดชอบ
ไม่หนีความทุกข์ยากแร้นแค้น
แม้จะเป็นการชั่วคราวก็ตาม

ด้วยการเสมือนโทษสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ว่า
เป็นตัวการให้จิตใจท่านไม่ใสสวย
หากปลีกตัวออกไปเสียได้จิตใจจะเป็นสุข
ซึ่งท่านเองก็พบความจริงแล้วว่า
มันมิใช่อย่างที่ท่านคิด
อยู่ที่ไหนก็ทุกข์ใจได้เสมอ
ถ้าจิตใจท่านมันไม่สงบ

เชื่อเถอะ....เปลี่ยนวิธีคิ
วิถีชีวิตท่านจะเปลี่ยน

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
5-1-2017

2 ดวงแก้ว

2 ดวงแก้ว
อาวุธประจำกายของนักสู้เพื่อการรู้แจ้ง
กับการป้องตนให้ผ่านพ้นมหันตภัยพิบัติ
****************************************
หนึ่ง:
#ดวงมหาสติ
ประกอบด้วย "สติ" 3 ประการ คือ
1.เป็นผู้รู้สติ
************
^เพื่อการ "ตื่นรู้" อยู่ในปัจจุบันขณะว่า
ตนกำลังสัมผัสรู้ ดู เห็น หรือนึกคิด อะไรอยู่^
จะได้พิจารณาว่าสมควรเรียนรู้มันหรือไม่
สมควรใส่ใจมันหรือเปล่า
^เพื่อการ "จดจำ" ประสบการณ์ในอดีต
ที่เพิ่งผ่านพ้นมาว่าตนได้เผชิญสิ่งใดมา
หรือว่ากระทำอะไรลงไปแล้วบ้าง
จึงบังเกิดผลเชื่อมโยงมาถึงปัจจุบันขณะ^
จะได้พิจารณาหาข้อผิดพลาดบกพร่องของตน
แล้วรีบปรับปรุงแก้ไขให้ทันท่วงที
หรือเพื่อทำความเข้าใจปัญหาในปัจจุบันว่า
มันมีผลสืบเนื่องมาจากอะไร
^เพื่อการ "นึกคิดให้ได้" ว่า
ถ้าตัดสินใจกระทำสิ่งใดในปัจจุบันขณะแล้ว
มันจะเกิดผลลัพธ์ต่อตนเอง
ในวันเวลาต่อไปข้างหน้า (อนาคต) อย่างไร^
จะได้แสดงออกหรือกระทำตอบสนอง
ต่อเงื่อนไขหรือปัญหาใดๆที่กำลังเผชิญอยู่
ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมดีงาม
โดยไม่ก่อเวรเกี่ยวกรรมกับใครๆทั้งสิ้น
2.เป็นผู้มีสติ
*************
^เพื่อการฉลาดรับรู้สู่การฉลาดรับเอา^
หมายความว่า
ทันทีที่สัมผัสรู้ดูเห็นหรือนึกคิดอะไรอยู่นั้น
ท่านจักต้องสามารถบอกตนเองได้ว่า
สิ่งใดควรรับรู้ไว้เพื่อเรียนรู้
สิ่งใดควรรับเอาไว้เพื่อเป็นความรู้ใหม่
ก็ให้เลือกรับรู้และรับเอาไว้ต่อไป
^เพื่อการฉลาดรับรู้สู่การฉลาดไม่รับเอา^
หมายความว่า
เมื่อสัมผัสรู้ดูเห็นนึกคิดสิ่งใดแล้ว
ก็ให้ครองสติอยู่กับปัจจุบันว่าอะไรเป็นอะไร
อย่าให้จิตใจตกเป็นทาสอารมณ์รู้สึกของตน
ต้องแยกแยะให้ออกว่าไหนสาระไหนไร้สาระ
ไม่รับเอา "อารมณ์" ที่เป็นขยะ
ปล่อยวางสิ่งไร้สาระและอารมณ์ขยะทิ้งไป
เสมือนไก่คุ้ยเขี่ยเศษหินดินทรายทิ้งไป
แล้วเลือกเอาแต่เมล็ดข้าวที่เป็นอาหารไว้เท่านั้น
^เพื่อการฉลาดไม่รับรู้ ฉลาดไม่รับเอา^
หมายความว่า
เมื่อสัมผัสรู้ดูเห็นนึกคิดสิ่งใดแล้ว
ก็ปล่อยให้มันผ่านไป
ไม่ต้องไปใส่ใจในรายละเอียด
เพราะว่าสิ่งนั้นเรื่องนั้น
ท่านเคยเรียนรู้และมีประสบการณ์มาก่อนแล้ว
เช่น ถ้าท่านใช้ชีวิตอยู่กับคนขี้บ่นขี้โวยวาย
โดยอยู่ร่วมกันมานานนับปีแล้ว
ท่านก็ย่อมรู้แก่ใจว่าคนๆนี้มีนิสัยแบบนี้
เมื่อใดที่ได้ยินคนๆนี้บ่นหรือโวยวาย
ก็ให้ท่านวางเฉยเสียทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ
โดยไม่หยิบมาเป็นเงื่อนไขให้จิตตก
3.เป็นผู้ใช้สติ
**************
หมายความว่า
ก่อนที่ท่านจะพูดหรือกระทำการใดๆ
^ท่านต้องคิดก่อนคิด^
กล่าวคือจะต้องคิดพิจารณาว่า
สิ่งที่ท่านกำลังนึกอยู่นั้น
มันถูกต้องเหมาะสมดีงาม
อันควรจะคิดต่อหรือไม่
^ท่านต้องคิดก่อนพูด^
นั่นคือ เมื่อคิดว่าจะพูดอะไรออกไป
ท่านต้องคิดก่อนว่าสมควรจะพูดหรือไม่
^ท่านต้องคิดก่อนทำ^
นั่นคือ เมื่อคิดว่าจะทำอะไรอย่างไร
ท่านต้องคิดก่อนว่าสมควรทำหรือไม่
ทั้งนี้การคิดก่อนคิด
คิดก่อนพูด
และคิดก่อนทำนั้น
จักต้องยึดกฎแห่ง 6 ถูก ของ #ปริญญาโมเดล
ซึ่งจะประกอบด้วย
ถูกคน ถูกที่ ถูกวิธี
ถูกเวลา ถูกต้อง และถูกใจ
ถ้าถูกครบทั้ง 6 ถูก
ก็สามารถพูดหรือกระทำตามนั้นได้เลย
แต่ถ้าผิดข้อใดข้อหนึ่งใน 6 ข้อนี้
ต้อง "หยุด" อย่าคิดต่อ
อย่าพูด และอย่าทำไปตามนั้นเด็ดขาด
*พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
ลูกแก้วดวง "มหาสติ" ที่ว่านี้
จักช่วยให้ท่านไม่ผลิตสร้างประจุลบ
ให้เป็นขยะที่รกโลก
จักช่วยให้ท่านไม่เป็นเงื่อนไขให้ผู้อื่น
ผลิตสร้างประจุลบให้เป็นขยะที่รกโลก
จักช่วยให้ท่านไม่ก่อกรรมใหม่ๆ
จนเกี่ยวกรรมกับใครต่อใครเขาไปทั่ว
ในชีวิตประจำวัน
จักช่วยให้ท่านเข้าถึง
คุณสมบัติของ "คนพ้นกรรม" ได้ในทันที
นี่ไงล่ะท่าน....
หากท่านสามารถปฏิบัติตามนี้ได้เป็นนิจ
มันคือการชำระจิตของท่านให้ใสสว่าง
โดยไม่ต้องนั่งหลับตา
แล้วทำตัวเป็นแบบไม่อะไรกับอะไร
โดยไม่ได้อะไรๆขึ้นมา
โดยไม่ก้าวหน้าทั้งทางจิตและทางปัญญา
อย่างที่หลายท่านคุ้นเคยและติดพันกันอยู่อีก
มหาสติตามมรรควิถีจิตจักรวาลที่เรากล่าวมานี้
เป็นปฏิบัติการที่เรียกว่า "ธรรมชาติสมาธิ"
ซึ่งต่างจากวิถีของนักรบแห่งแสงสว่าง
เรากล่าวความจริงเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว
จงเร่งศึกษาทำความเข้าใจ
แล้วเร่งนำไปปฏิบัติกันในชีวิตประจำวันเถิด
เส้นทางนี้แหละ
ที่พวกท่านต้องก้าวเดินอย่างองอาจ
อย่าเหลาะแหละโลเลอยู่อีกเลย
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
4-1-2016
หมายเหตุ:
เราจะกล่าวถึงดวงแก้วดวงที่สอง
ในโอกาสต่อไป

ท่านจะดำรงชีวิตอยู่ ด้วยอาหารกายแต่เพียงอย่างเดียวมิได้





พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ท่านจะดำรงชีวิตอยู่
ด้วยอาหารกายแต่เพียงอย่างเดียวมิได้
แต่ท่านต้องดำรงชีวิตอยู่ด้วยพระโอวาท
ที่ทรงสื่อถ่ายทอดผ่านเรามาในทุกพระคำด้วย
เพราะท่านทั้งหลายเป็นคนสองมิติ

กล่าวคือ....
นอกจากท่านต้องกินอาหาร
เพื่อเลี้ยงบำรุงเครื่องยนต์แห่งกรรมแล้ว
จิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของท่าน
ก็ยังต้องการอาหารจากพระโอษฐ์
ของพระบิดาแห่งจิตวิญญาณด้วย
เพราะอาหารที่ถูกต้อง
สามารถทำให้กายสังขารมีอายุขัยยืนยาวได้
อาหารจากพระโอษฐ์
ก็สามารถทำให้จิตวิญญาณของท่าน
มีชีวิตที่เป็นนิรันดร์ได้เช่นเดียวกัน
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
5-1-2016

สิ่งที่เป็นมลทิน






พฤติกรรมก้าวร้าวของคนอื่น
มันทำร้ายจิตใจของท่านไม่ได้หรอก
เพราะไม่มีสิ่งใดจากภายนอก
ที่จะเข้าไปทำให้จิตใจท่านมีมลทินได้
เป็นท่านต่างหาก
ที่ชอบทำร้ายจิตใจตนเอง
ด้วยการนำพาพฤติกรรมที่ตนไม่พอใจ
เข้าไปทำร้ายจิตใจจนเกิดมลทินเสียเอง
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
5-1-2017

จิตจักรวาลอ่านโลก





บันทึกสถิติแผ่นดินไหวจังหวัดเชียงใหม่
ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.59 - 3 ม.ค.60
รวมทั้งสิ้น 10 วัน
*****************************************
1.ไหวที่อำเภอจอมทอง 29 ครั้ง
2.ไหวที่อำเภอแม่วาง 25 ครั้ง
3.ไหวที่อำเภอแม่แจ่ม 6 ครั้ง
4.ไหวที่อำเภอดอยหล่อ 2 ครั้ง
5.ไหวที่อำเภอดอยสะเก็ด 1 ครั้ง
6.ไหวที่อำเภอสันทราย 1 ครั้ง

7.ภายใน 10 วัน รวมแผ่นดินไหวทั้งสิ้น 64 ครั้ง
สถิตินับถึงวันที่ 3-1-60 เวลา 17.00 น.

8.ส่วนใหญ่จุดศูนย์กลางสั่นไหว
ลึกเพียง 1 กิโลเมตร

คำเตือน
********
1.การสั่นไหวของแผ่นดินภาคเหนือนี้
จะยกระดับแรงสั่นสะเทือนเพิ่มสูงขึ้น
จากระดับ 1 เรื่อยๆไปจนถึงระดับ 4
ที่ระดับความลึกจาก 1 ไปจนถึง 10 กิโลเมตร

2.จัดให้จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย
ลำพูน ลำปาง ตาก และพม่า
อยู่ในโซนเดียวกันที่จะต้องเฝ้าระวัง

3.เมื่อการสั่นไหวในโซนนี้
ยกระดับการสั่นสะเทือนถึง 4 เมื่อใด
ให้ทุกฝ่ายเฝ้าระวังการสั่นไหว
ในระดับที่มากกว่า 4 ขึ้นไปเข้าไว้

หากเกิดใกล้เขตชุมชนที่อยู่อาศัย
อาจจะทำให้บ้านเรือนพังเสียหาย
ภูเขาสูงอาจเกิดแผ่นดินสไลด์ลงมา
หรืออาจเกิดแผ่นดินยุบแยกได

4.ถ้าสถิติการสั่นไหวยังไม่แตะระดับ 4
อย่าเพิ่งกังวลใจว่าแผ่นดินจะไหวใหญ่
ทำให้คนตายบ้านพังอย่างที่กังวลกัน

5.เหตุที่ต้องเป็นไปตามที่เรากล่าวในข้อ 4
เพราะการสั่นไหวของแผ่นดินที่เกิดขึ้นนี้
เป็นปฏิบัติการทางเท็คนิก
ของช่างเท็คนิกใต้พื้นพิภพ
มิได้เกิดจากภัยธรรมชาติอย่างที่คิด
จึงต้องมีการ "เตือนภัย" ก่อนเสมอ

6.ปฏิบัติการใต้พื้นพิภพเกี่ยวข้องกับ
การจัดวางแนวทางของภูเขาไฟชุดใหม่
เพื่อการลดความเครียดภายในแกนโลก
บนพิกัดตำแหน่งที่เหมาะสม

ต่อนี้ไปแผ่นดินภาคเหนือของไทย
ที่ต่อแดนกับพม่าและลาว
จึงเป็นพิกัดหนึ่งซึ่งเป็นที่หมายของช่างเท็คนิก
โดยจะหลีกเลี่ยงการสั่นไหว
ที่อาจมีความรุนแรงบ้างไม่ได้

เพราะการสั่นไหวเกิดจากการปริแยก
ของแผ่นเปลือกโลกทั้งรอยเก่าและใหม่
ที่จะถูกขยายความลึกร้าวเพิ่มขึ้นนั่นเอง

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
3-1-2017