วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สำนึกผิดด้วยจิตหยาบ สำนึกบาปด้วยจิตวิญญาณ









เราได้กล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลาย
ในเรื่องกฎแห่งกรรม แบบที่ 1 ไปแล้ว

เรายังมีความรู้เรื่อง "เวรกรรม"
อันอาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน
ในการสำนึกผิดด้วยจิตหยาบ
สำนึกบาปด้วยจิตวิญญาณ
ในผลกรรมแบบที่ 2 ให้ท่านรู้อีกว่า

ถ้าหากภพชาตินี้
ท่านต้องประสบกับชะตากรรมต่อไปนี้แล้ว
ท่านจะสามารถสอบผ่านบททดสอบ
และเข้าถึงความสำเร็จด้านการเรียนรู้
ในมิติแห่งจิตวิญญาณ
ซึ่งแก่นแท้ของท่านถือชะตากรรมนั้น
ติดตัวมาเองจากชาติที่แล้วได้
ท่านจักต้องสำนึกให้ได้ว่า
ท่านก่อกรรมทำเวรอะไรมา

ชะตากรรมในกรรมแบบที่ 2 นี้ก็คือ

1.มีคู่กี่ครั้ง ก็หย่าร้างทุกคน

2.อยากมีคู่ร่วมเตียงเมียงมองมาหลายปี
แต่ชีวิตนี้ดูเหมือนจะยากไร้คู่ครอง

3.ไม่มีความสุขในครอบครัว
ความเป็นคู่ตัวผัวเมียมักไม่ราบรื่น

ทะเลาะกันเป็นนิจ ผิดใจกันเป็นประจำ
ทั้งๆที่บางครั้งทะเลาะกันจริงจัง
ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง....

แปลก.....ทะเลาะกันอย่างไร
แต่กลับไม่มีใครคิดจะแยกทาง

แปลก...แปลก.....ทะเลาะกันหยกๆ
แต่ลูกดกยั้วเยี้ย....

ดังนั้น
หากท่านจะสอบผ่านบททดสอบนี้
ท่านจึงจะต้องเรียนรู้ชีวิตคู่ชีวิตโสด
ให้ถ่องแท้ว่า...

อันว่าคู่ครองของท่านนั้น......
เป็นเสมือนทรัพย์สิ่งที่มีค่า
ท่านมีหน้าที่ต้องให้เกียรติกัน
ท่านต้องปฏิบัติต่อกันอย่างละมุนละมัย
ด้วยจิตใจที่มองเห็นคุณค่าของกันและกัน

ต้องรู้จักอดทน อดกลั้น ให้อภัย
ไม่เอาความรู้สึกนึกคิด
และความต้องการของฝ่ายใด
มาใช้อำนาจเหนือนำอีกฝ่ายหนึ่ง

ต้องคิดดีต่อกัน
ต้องพูดดีต่อกัน
ต้องทำดีต่อกัน
ต้องมองกันในแง่ดี

ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นเหยียดหยามกัน
เมื่อใครผิดจักต้องไม่ซ้ำเติมกัน

ต้องไม่หวาดระแวงต่อกัน
ต้องซื่อสัตย์ต่อกันทั้งต่อหน้าลับหลัง

นอกจากนั้นท่านยังจะต้องรู้ด้วยว่า
อันคู่ครองของท่านนั้น
คือผู้ที่มาเกิดเพื่อร่วมเล่นละครชีวิต
ไปตามบทบาทที่ตัวท่านนั่นแหละ
เป็นผู้ขีดเขียนแล้วร้องขอให้เขาเล่น
ไม่ว่าจะเป็นบทดีหรือบทร้าย

ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ท่านเข้าถึง
การสั่นสะเทือนจิตสำนึกด้านบวกต่อเขา
ด้วยการรักเขาให้ได้
ด้วยการให้อภัยเขาให้เป็น
ด้วยการอดทน อดกลั้น เมตตา สงสาร
ไปตามบทบาทที่เขาแสดงต่อท่าน

เพื่อใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมของเขา
ผลิตสร้างประจุบวกให้กับโลก
ตามเงื่อนไขพันธะสัญญาข้อแรกในหกข้อ
ที่จิตวิญญาณของเขา
ได้ให้ไว้ต่อพระบิดาตั้งแต่ภพชาติแรก
ที่ได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็นมนุษย์

ตัวท่านซึ่งเป็นคู่ครองเขาเองก็เช่นกัน
ก็ได้ขอร้องให้เขาช่วยเล่นละครชีวิต
ไปตามบทบาทที่ท่านเอง
เป็นผู้เลือกให้เขาเล่นด้วยเช่นกัน

โดยต่างได้ร่วมวางแผนกันมา
ณ วิหารสีขาวที่เราเรียกว่า "ด่านนภาลัย"
ซึ่งเป็นประตูมิติระหว่างเอกภพ
กับดินแดนแห่งสุญญตาของผู้หลุดพ้นนั่น

เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์บนโลกเสรีแล้ว
ท่านทั้งหลายถูกปิดมิติไว้มิให้ล่วงรู้
เพื่อใช้บทละครที่เขียนกันมา
เป็นบททดสอบจิตสำนึกของทั้งคู่
โดยอาศัยความไม่รู้เพราะจำไม่ได้ของทั้งคู่
เป็นเงื่อนไขสำคัญนั่นเอง

หากท่านเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริง
ตามที่เราเปิดเผยมาทั้งหมดนี้
แล้วปรับปรุงแก้ไขจิตสำนึกเสียให้ถูกต้อง
เวรกรรมบทนี้จักถือเป็นยุติ
ด้วยการรักได้ ให้เป็น
เห็นคุณค่าของคู่ครองของท่านเท่านั้น

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
29-2-2016

จิตจักรวาลอ่านกรรม







จิตจักรวาลอ่านกรรม:
*********************
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

เมื่อท่านได้เรียนรู้กันมาบ้างแล้วว่า
กฎแห่งกรรมในมิติทางพลังงาน
ด้านของจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านนั้น
กระบวนการและกฎเกณฑ์ตามคำกล่าวที่ว่า
"กรรมสนองกรรม" เป็นเช่นไรแล้ว

ท่านจักต้องรู้เพิ่มเติมอีกด้วยว่า
กรรมเวรที่ทำซึ่งมันจะสะท้อนกลับมาหาท่าน
ในรูปของ "เวรกรรม" แบบต่างๆ
ในภพชาติต่อมานั้น
แท้จริงแล้วมันมิใช่การ "ชดใช้"
เยี่ยงการคิดแบบจิตมนุษย์แต่อย่างใด
มันเป็นบทเรียนทางจิตวิญญาณต่างหากล่ะ

การรับผิดชอบเบื้องแรก
ในกรรมเวรที่ทำไว้
ทันทีที่จบสิ้นอายุขัยในภพชาตินี้
ก็คือจิตวิญญาณของท่าน
จะถูกนำส่งลงไปยังภพภูมินรกก่อน
เพื่อปรับสมดุลให้กับจิตวิญญาณนั้น
เนื่องจากจิตหยาบทำให้
จิตวิญญาณมีการหลงมิติเกิดขึ้น

จนเมื่อปรับสมดุลได้ดังเดิมแล้ว
จิตวิญญาณนั้นจึงจะได้รับโอกาสให้
คืนกลับสู่การเกิดเป็นมนุษย์
ในภพชาติถัดไปอีกครั้ง

ถ้าใครก็ตามก่อกรรมเวรไว้ในชาตินี้
ด้วยการทุบตี ทำร้าย ดุด่า
บิดรมารดาของตัวเอง

บทเรียนโลกที่คนๆนั้น
จะต้องเผชิญในภพชาติหน้าก็คือ
"ชะตากรรม" ที่จะเป็นบทเรียน
ให้เขาคนนั้นได้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เพื่อจะใช้เวลาทั้งอายุขัยในภพชาตินั้น
สร้างสำนึกใหม่ที่ถูกต้องดีงามให้ได้ว่า

ตนเองนั้นได้กระทำกรรมเวรอันใดมา
จึงต้องเผชิญกับชะตากรรมเยี่ยงปัจจุบันนั่น

ท่านว่ามันยากมั้ยล่ะ...
ที่ท่านหรือใครก็ตามจะสามารถสำนึกบาป
ที่ตนได้กระทำไว้ในอดีตชาติได้ง่ายๆ
ในเมื่อตาที่สามของท่าน
ถูกอำนาจแม่เหล็กโลกปิดบังมิติเอาไว้

ในฐานะที่เราได้กลับมาอีกครั้งตามสัญญา
เพื่อจะช่วยนำพาแก่นแท้ของท่านกลับบ้าน
เราจึงจะเฉลยความจริงให้ท่านเก็บตุนไว้
เผื่อท่านจะได้ใช้มัน
กระตุ้นจิตสำนึกที่ถูกต้องของท่าน
หากวันนี้...ชาตินี้...
ท่านมีชะตากรรมที่ต้องเผชิญคือ

1.แขนขาพิการ หูหนวก
มาตั้งแต่เกิด....

เหตุเพราะได้ทำผิดบาปไว้ในชาติที่ผ่านมา
ด้วยการใช้มือและเท้าทุบตีทำร้ายพ่อแม่
อันเป็นการใช้มือและเท้าก่อกรรมเวร
ต่อผู้มีพระคุณของตนเอง
อย่างไม่รู้คุณค่าของอวัยวะที่ตนมีอยู่

2.เป็นใบ้มาตั้งแต่กำเนิด
และมีเสียงพูดที่น่าเกลียด.....

เหตุเพราะชาติที่ผ่านมา
เป็นคนที่ชอบดุด่าว่ากล่าว
ตัดพ้อต่อว่าใช้วาจาก้าวล่วง
พ่อแม่บุรพการีของตนเองอยู่เป็นนิจ

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
เวรกรรมทั้งสองประเภทนี้
มันจะเป็นโมฆะกรรม
หรือมันจะสิ้นสุดยุติได้ก็ต่อเมื่อ

ในภพชาตินี้ทั้งภพชาติ
ท่านหรือใครคนนั้นจักต้อง
สำนึกผิดด้วยจิตหยาบ
สำนึกบาปด้วยจิตวิญญาณให้ได้ว่า

บิดรมารดาเป็นดั่งพระอรหันต์ในบ้าน
ท่านทั้งสองเป็นผู้มีพระคุณ
เพราะเป็นผู้ให้ชีวิตใหม่แก่บุตรเช่นท่าน
ท่านจึงจะกระทำการใดๆก้าวล่วง
ในบทบาทของบุตรอกตัญญูไม่ได้
และท่านจักต้องยอมรับชะตากรรม
อันไม่พึงประสงค์ของตนนั้นให้ได้ด้วย
จึงจะสามารถ "ยุติกรรมนั้น" ได้
อย่างสิ้นเชื้อ.....

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
29-2-2016