วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

การสะกดจิต




ตอบคำถาม: Nui Diamond
************
กราบพระบาทพระบิดา 
กราบท่านอาจารย์ 

ลูกได้ดูทีวีรายการหนึ่ง
ที่สัมภาษณ์ชายคนหนึ่งที่มีประวัติ
การใช้ชีวิตที่เหลวแหลก 
กินเหล้า เล่นการพนันจนมีหนี้สิน 
ทั้งๆที่ตัวเองก็ได้รับความทุกข์ใจในสมัยเด็ก 
เนื่องจากพ่อทุบตีแม่ของเขาบ่อยๆ 
แต่เขากลับทำตามอย่างที่พ่อทำ 
คือเขาทำร้ายทุบตีภรรยาทุกคนที่อยู่ด้วย 
ครอบครัวแตกแยก 

จนกระทั่งเขาได้ไปอบรมที่ใช้วิธีสะกดจิต 
ณ ขณะที่จิตอยู่ในภวังค์ 
เขาได้คำตอบว่าทำไมพ่อจึงทุบตีแม่ 
และทำไมแม่จึงทิ้งเขาไป 

หลังจากอบรม เขาเปลี่ยนความประพฤติ 
ขยันทำมาหากิน เลิกเหล้าและการพนัน 
ไม่ทำร้ายภรรยา ปัจจุบันเขามีชีวิตที่มีความสุข 
จึงนำการสะกดจิตมาสอนคน
โดยไม่คิดค่าตอบแทน 
เพื่อให้คนอื่นมีชีวิตที่ดีขึ้น 
รวมทั้งสอนเด็กๆตามโรงเรียนด้วย 

ขอเรียนถามท่านอาจารย์ว่า
Question 1
*************
#การสะกดจิต
เป็นการสั่งจิตใต้สำนึกใช่หรือไม่คะ

Answer
*********
การสะกดจิตมี 2 แบบ คือ
การสะกดจิตตนเอง กับคนอื่นเป็นผู้กระทำ

#การสะกดจิต
เป็นการใช้พลังอำนาจจิตที่เหนือกว่า
เข้าควบคุมจิตหยาบให้ตกอยู่ในภวังค์
หรือให้อยู่ในสภาวะขาดสติชั่วคราว
เพื่อใช้พลังจิตที่เหนือกว่านั้น
ติดต่อสื่อสารกับ "เมอร์คขะบาห์"
ที่ท่านทั้งหลายเรียกว่า 
#จิตใต้สำนึก นั่นเอง

เพราะถ้าจิตหยาบยังรู้สติอยู่
นักสะกดจิตก็จะไม่สามารถ
ติดต่อกับจิตวิญญาณผ่านจิตใต้สำนึกได้
การสะกดจิตจึงเป็นการทำให้จิตหยาบ
เกิดอาการ "ไร้สติ" เหมือนเลื่อนลอย
หรืออยู่ในสภาวะจิตที่อ่อนแอชั่วคราว

เมื่อสามารถข้ามผ่านจิตหยาบ
หรือ "จิตสามนึก" เข้าไปได้แล้ว
นักสะกดจิตก็จะสื่อสารกับจิตวิญญาณ
ของผู้ที่ถูกสะกดจิตนั้นได้
โดยผู้ทำหน้าที่ตอบคำถามที่อยากรู้
ก็คือ "พลียะเดี้ยนส์" ของผู้ถูกสะกด
มิใช่จิตวิญญาณที่เป็นแก่นแท้หรอก
เขาจะเล่าให้ฟังด้วยการตอบคำถามนั้นๆ
เท่าที่สามารถจะเปิดกรรมตนเอง
ให้พวกนักสะกดจิตรู้จะได้บอกต่อ
คนที่ถูกสะกดว่าอะไรเป็นอะไ

ถามว่า
ทำไม "พลียะเดี้ยนส์" จึงยอมเปิดเผย
บุรพกรรมของตนให้ได้รู้
ก็เพราะเหตุว่าพลียะเดี้ยนส
ซึ่งเป็นเสมือนพระพี่เลี้ยงของแก่นแท้นั้น
ปรารถนาจะกลับบ้านหรือนิพพานมาก
ถ้าแก้กรรมไม่หมดบททดสอบไม่ผ่าน
วัฏฏสังสารก็มิอาจสิ้นสุด
จิตวิญญาณของตนก็จักหลุดพ้นไม่ได้

ดังนั้น
การสะกดจิตจึงมิใช่การสั่งจิตใต้สำนึก
แต่เป็นการสร้างสัมพันธ์กับจิตใต้สำนึก
โดยมีพลียะเดี้ยนส์ของคนๆนั้นเป็นสื่อ

เพราะพลียะเดี้ยนส์
เป็นตัวแทนของแก่นแท้ของมนุษย์
ส่วนจิตใต้สำนึกก็เป็นที่เก็บรหัสกรรม
ของจิตวิญญาณของมนุษย์นั่นแหละ

Question 2.
*************
หากการสั่งจิตใต้สำนึกอย่างกรณีชายผู้นี้
เพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดีเป็นดีนั้น
สมควรทำหรือไม่คะ 
มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรคะ

Answer:
*********
1.เราตอบแล้วว่าการสะกดจิต
มิใช่การสั่งจิตใต้สำนึก

2.การที่พลียะเดี้ยนส์ของผู้ถูกสะกดจิต
บอกความลับเบื้องหลังมิติโล
ซึ่งเป็นบุรพกรรมทำบาปของจิตวิญญาณ
ให้นักสะกดจิตและเจ้าตัวผู้ถูกสะกดรู้แล้ว
ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงนิสัยแก้ไขสันดาน
ที่เคยกระทำผิดบาปไว้เมื่อในอดีตชาติ
มันมิได้เกิดจากการเข้าไปสั่งจิตใต้สำนึก
ของคนๆนั้นโดยอำนาจของนักสะกดจิต
เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรอก
มันเป็นไปไม่ได้พันเปอร์เซ็นต์

แท้แล้วการสะกดจิตก็ทำเพื่อสื่อกับแก่นแท้
ให้ได้รู้แน่ๆว่าคนๆนั้น "ติดกรรม" อะไรอยู่
เมื่อเจ้าตัวผู้นั้นโดยจิตหยาบรู้ความจริงเข้า
ก็จะรีบเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเองทันที

เพราะจิตหยาบเป็นตัวแทนของแก่นแท้
ความผิดบาปของจิตวิญญาณในอดีตชาติ
#จิตหยาบ จึงต้องรับผิดชอบแทนทุกเรื่อง
ด้วยการคิดใหม่ทำใหม่ตัดสินใจให้ถูกต้อง
บาปกรรมนั้นๆจากอดีตจึงจะเป็นโมฆะได้

พระบิดาทรงอนุญาตให้มนุษย์บางคน
ได้พบเจอนักสะกดจิตเพื่อกรณีเช่นนี้ได้
เมื่อทรงเห็นว่าถึงเวลาที่เขาพึงได้รับโอกาส
เพราะเขาได้รับบทเรียนโลกกรณีกรรมนั้น
มานานเนิ่นพอสมควรแก่กาลแลกรรมแล้ว

3.นักสะกดจิตผู้สามารถหามิได้ง่ายๆหรอก
เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ
ท่านไม่ต้องรอโอกาส
ท่านไม่ต้องรอนักสะกดจิตหรอ

ถ้าปรารถนาจะใช้จิตมนุษย์ของตนเอง
ช่วยเหลือจิตวิญญาณของท่านให้สิ้นกรรม
ก็ให้ท่านปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันให้ได้
ตามที่เราจะกล่าวไว้ดังต่อไปนี้

1) รักคนที่ทำตนไม่น่ารักให้ได
2) ให้อภัยกับทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข
3) คิดก่อนที่จะพูดจะทำทุกสิ่งกับทุกคน
ว่ามันถูกครบ 6 ถูกตาม #ปริญญาโมเดล มั้ย
คือ ถูกคน ถูกที่ ถูกวิธี ถูกเวลา ถูกต้อง
และ ถูกใจทั้งเขาและเรามั้ย?

ถ้าผิดข้อใดข้อหนึ่งในหกข้อนี้
ก็อย่าพูดอย่าทำเด็ดขาด
ท่านจะสอบตกบททดสอบจิตสามนึกทันที

การสอบตกนี่แหละ...คือ "ติดกรรม"
ถ้าติดกรรมจิตวิญญาณท่านก็ยังติดภารกิจ
ถ้ายังติดภารกิจตายไปก็ต้องกลับมาใหม่
เพื่อใช้โอกาสจัดการภารกิจนั้นให้เสร็จสิ้น
มิเช่นนั้นแล้วอายุยืนนานก็นิพพานไม่ได้

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
17-07-2017