วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ผล ของการหมุนธรรมจักร





พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
การที่จิตวิญญาณของท่าน
ขันอาสาพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
เดินทางข้ามมิติมาสู่การเกิดเป็นคนสองมิติ
ที่เรียกว่า "มนุษย์" บนดาวโลกเสรีนี้นั้น

ภารกิจหลักที่สำคัญมีด้วยกัน 6 อย่าง
ซึ่ง 1 ใน 6 อย่างที่ว่านี้ก็คือ
การใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
สั่นสะเทือนใน 2 มิติ คือ จิตหยาบกับกายหยาบ
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณให้ได้

โดยที่ #จิตหยาบกับกายหยาบ และ #จิตวิญญาณ
จะสั่นสะเทือนร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวกันได้
ก็ด้วยพลังอำนาจแห่ง #รักเพื่อให้ เท่านั้น
ซึ่งท่านทั้งหลายจะสามารถ
สั่นสะเทือนเป็นความรักได้ก็ต่อเมื่อ
ท่านต้องสอบผ่าน #บททดสอบ ที่คนใกล้ตัว
สร้าง #เงื่อนไข ทั้งบวกและลบหยิบยื่นมาให้
ในชีวิตประจำวันของท่านเท่านั้น

ถ้าเขายั่วยวนกวนโมโหท่านก็ต้องไม่โมโห
ถ้าเขาเย้ายวนชวนให้หลงใหล
ท่านก็ต้องไม่หลงไปตามที่เย้ายวน
สภาวะจิตของท่านหากเข้าถึงระดับที่ว่านี้ได้
มันคือสภาวะจิตที่เข้าถึง #อุเบกขา ได้นั่นเอง

แต่ถ้าท่านยังไม่อาจยกระดับจิตถึงขั้นวางเฉย
เมื่อเผชิญกับการยั่วยวนหรือเย้ายวนได้
ก็ขอให้ท่านจงสอบผ่านบททดสอบเบื้องต้น
เพื่อสั่นสะเทือนสภาวะจิตให้เป็นด้านบวก
จากบวกน้อยไปหาบวกมากทีละระดับขั้นก็ได้
ดังต่อไปนี้....

1.สมเพช
2.เวทนา
3.สงสาร
4.เมตตา
5.กรุณา
6.มุทิตา
7.#อุเบกขา

สภาวะจิตด้านบวกทั้ง 7 ระดับที่กล่าวนี้
เป็นการสั่นสะเทือนด้านบวกร่วมกันในสองมิติ
ที่ท่านทั้งหลายจะต้องสอบผ่านกันให้ได้
ซึ่งตา หู จมูก ลิ้น(ปาก) กายสัมผัส และจิต
จะเป็นเหมือนฟันหรือเฟืองหรือซี่ของจักร
ที่ท่านจะต้องเหวี่ยงหมุนมัน
เข้าสู่แกนกลางของการเหวี่ยงหมุนให้ได้

ลักษณะการเหวี่ยงหมุนอายตนะภายนอก
เข้าไปสู่ภายใน คือหมุนเข้าไปหา "จิต"
ซึ่งเป็นหนึ่งเดียวกับ "ใจ" หรือจิตวิญญาณนี่แหละ
ที่เราเรียกว่า "การเหวี่ยงหมุนธรรมจักร" ล่ะนะ

เมื่อท่านสามารถหมุนธรรมจักรได้
แปลว่าในปัจจุบันขณะนั้น
ท่านก็กำลังสั่นสะเทือนจิตใจของท่าน
ด้วยอาการด้านบวก 1-6 ข้างต้นได้แล้วนั่นเอง
ถ้าท่านสั่นสะเทือนจิตใจเป็นด้านบวกได้
ท่านก็จะประพฤติดีประพฤติชอบต่อคนอื่นๆได้
คนอื่นๆก็จะประพฤติดีตอบสนองท่านกลับมาเช่นกัน

ดังนั้น
ถ้าท่านหมุนธรรมจักรได้เป็นผลสำเร็จ
มันจะยังผลให้คนอื่นๆหมุนธรรมจักรตามท่านไปด้วย
ด้วยกฎเกณฑ์ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้ไงล่ะ
ที่เรียกว่า #ธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร ขนานแท้ล่ะนะ

มนุษย์ทุกคนล้วนมีหน้าที่
จะต้องหมุนธรรมจักรในตนเองให้สำเร็จให้ได้
เพราะจิตวิญญาณของท่านมาเกิด
ก็เพื่อใช้จิตกับกายสั่นสะเทือนร่วมกัน
ผลิตสร้างพลังจิตด้านบวกมอบให้แก่โลก
ซึ่งพลังจิตด้านบวกจะอยู่ในรูปของ
คลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก

เมื่อท่านผลิตสร้างพลังจิตด้านบวกได้แล้ว
ก็จะเหวี่ยงมันออกมาภายนอกร่างกาย
โดย 1% ของจำนวนที่ท่านผลิตสร้างมันออกมาได้
จะแทรกซึมลงไปหาก้อนธาตุออกซิเจนในแกนโลก
เพื่อทำปฏิกริยากับอะตอมของธาตุออกซิเจน
ให้เกิดการระเบิดขึ้นด้วยปฏิกริยา Nueclear Fission
จนยังผลให้แกนโลกเกิดการบิดตัวอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งทำให้โลกหมุนรอบตัวเองมาได้ต่อเนื่อง
โดยไม่หยุดหมุนตราบจนทุกวันนี้

อีกทั้งยังช่วยให้ก๊าซออกซิเจน
สามารถแตกตัวออกมาจากปฏิกริยาดังกล่าวนี้
แล้วแทรกซึมขึ้นสู่พื้นผิวโลกด้านบน
จึงทำให้ท่านทั้งหลาย ทั้งสัตว์บก สัตว์น้ำ
ได้มีอากาศหายใจกันอย่างเหลือเฟือ

นอกจากนั้นการระเบิดระดับนิวเคลียร์นี้
ยังผลให้เกิดสนามแม่เหล็กโลก
เหวี่ยงออกมาภายนอกเป็นระบบโครงข่าย
ห่อหุ้มดาวโลกดวงนี้ไว้อีกต่างหากด้วย

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
ค่าความเข้มสนามแม่เหล็กโลกที่คงที่
ระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กที่แข็งแรง
ก๊าซออกซิเจนที่พอเพียงที่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องใช้
กับการหมุนรอบตัวเองต่อเนื่องได้
ล้วนเป็นผลลัพธ์จากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
ในการหมุนธรรมจักรของพวกท่านทุกคนโดยแท้

มีบางคนเคยไถ่ถามเรามาว่า
ระหว่าง "อุเบกขา" กับ "รัก" นั้น
แบบไหนจึงจะมีผลด้านบวก
ต่ออะตอมของธาตุออกซิเจน
ที่แกนโลกมากกว่ากัน
คำตอบของเราก็คือ #อุเบกขา น่ะสิท่าน

เพราะสภาวะจิตที่สงบเป็นสุญญตานั้น
เป็นสภาวะจิตระดับสูงสุดทางด้านบวกแล้ว
ขณะที่จิตท่านยังสั่นสะเทือนทางด้านบวก
อยู่ในระดับ 1-6 ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
ยังเป็นแค่เพียงทางผ่านสู่อุเบกขาเท่านั้นเอง

เราจึงขอเชิญชวนท่านทั้งหลาย
มาเร่งหมุนกรรมจักรในตนเองร่วมกับคนอื่นๆ
เพื่อมอบพลังงานด้านบวกให้แก่ดาวโลกกันเถอะ
เพราะขณะนี้ดาวโลกเสียสมดุลมากแล้ว
เนื่องจากพวกท่าน #แทรกแซง
กระบวนการของขันธ์ 5 ไม่ได้และไม่เป็นอีกด้วย

ภัยพิบัติร้ายๆกำลังคืบคลานเข้ามา
มนุษย์ที่ยังขาดมหาสติและไร้ปณิธานแห่งนิพพาน
จะมิอาจข้ามผ่านสถานการณ์เลวร้ายไปได้
อีกทั้งท่านจะหวังพึ่งใครก็ไม่ได้เสียด้วย
นอกจากจะต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
1-08-2016