วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ท่านทราบหรือยัง.. จิตหยาบ กับจิตวิญญาณต้องเป็นหนึ่งเดียว








พี่ๆน้องๆแห่งดาวโลกเสรีที่รักแห่งเราทั้งหลาย

การเดินทางข้ามมิติจากนอกระบบเอกภพ
ของประดาตัวแทนแห่งจิตจักรวาลดวงเล็กทั้งหลาย
ซึ่งเป็นกล่องพลังงานที่มีรูปลักษณ์ 6 เหลี่ยมมุม
ที่เรียกขานว่า "ดวงจิตธรรมญาณ"
เพื่อเข้ามาสู่การเกิดเป็น "คนสองมิติ"
อันเป็นสรรพสิ่งหนึ่งซึ่งมีสองภาคอยู่ในตนเอง
คือภาคของมิติทางกายภาพด้านของจิตหยาบ
กับภาคของมิติทางพลังงานด้านของแก่นแท้

โดยดวงจิตธรรมญาณตัวตนแก่นแท้ของพวกท่าน
จะต้องเข้ามาเกิดเพื่อทำหน้าที่เป็นแก่นแท้
ประจำอยู่ในเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
เปรียบประดุจดั่งจิตวิญญาณเป็นคนขับ
ส่วนเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์นั้น
เป็นเสมือนดั่งรถขุดรถตักดินนั่นเอง

ปกติแล้วรถขุดรถตักดินทุกคัน
มันจะสามารถเคลื่อนไหวทำอะไรต่อมิอะไร
โดยใช้กลไกและความสามารถของเครื่องยนต์
ไปตามที่ผู้ผลิตสร้างเขาออกแบบเอาไว้ให้แล้ว
ก็ด้วยอาศัย "ผู้บังคับขับเคลื่อน" หรือคนขับ
ผู้เชี่ยวชาญในการขับบังคับกลไกของรถคันนั้น
เป็นผู้ "บงการ" หรือ "ขับเคลื่อน" นั่นเอง

หมายความว่าถ้ารถขุดรถตักดินคันนั้น
ไม่มีผู้ใดเข้าไปติดเครื่อง
ไม่มีผู้ใดเข้าไปนั่งขับบังคับมัน
รถคันนั้นก็จะจอดนิ่งสนิททำการอะไรไม่ได้

หรือถ้าคนขับเข้าไปนั่งอยู่ภายใน
แต่สตาร์ทเครื่องไม่เป็น ขับเคลื่อนกลไกไม่ได้
รถขุดรถตักดินคันนั้นก็ทำประโยชน์อะไรไม่ได้

หรือถ้าคนขับเข้าไปนั่งอยู่ข้างใน
แม้จะสตาร์ทเครื่องได้แล้วแต่ขับไม่เป็น
รถคันนั้นก็จะเคลื่อนไหวไปอย่างสะเปะสะปะ
จะเคลื่อนไปไม่ตรงทิศทางจนอาจตกท่อตกเหว
ไม่ก็เฉี่ยวชนรถคันอื่นๆเรื่อยไปจนตลอดทาง

จิตวิญญาณของพวกท่านก็ไม่ต่างกัน
เมื่อเข้ามาเป็นแก่นแท้โดยเร้นตนเองอยู่
ภายในเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์แล้ว
ก็จะแบ่งภาคพลังงานตนเองออกมาอีกส่วนหนึ่ง
เพื่อมอบหมายให้เป็นตัวแทนของตน
ทำการขับเคลื่อนพฤติกรรมของรูปธรรมมนุษย์
ในขณะเป็น "คนสองมิติ" อยู่ในระบบโลก

ดังนั้น...
จิตหยาบหรือตัวแทนของจิตวิญญาณ
ซึ่งได้รับมอบหมายให้
ขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์แทน
จึงต้องสั่นสะเทือนตนเองทั้งสองมิติ
เพื่อทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณของตนเองเท่านั้น
จะทำอะไรตามใจอยากทำอะไรตามอำเภอใจมิได้
คนขับรถซึ่งทำหน้าที่ขับแทนก็คือจิตหยาบ
มีหน้าที่ขับรถขุดรถตักดินไปตามที่
เจ้าของรถตัวจริงเขาต้องการเท่านั้น
จะทำตามใจตนเองไม่ได้

การชอบทำอะไรไปตามอารมณ์
การชอบทำอะไรไปตามความรู้สึก
การชอบทำอะไรไปตามเงื่อนไขจูงใจ
การชอบทำอะไรไปตามอารมณ์เมื่อถูกเย้ายวนยั่วยุ
การชอบทำอะไรไปตามความเคยชินเคยตัว

การขับเคลื่อนพฤติกรรมลักษณะดังว่านี้
ล้วนเป็นอาการสั่นสะเทือนของจิตหยาบเองทั้งสิ้น
มิใช่การสั่นสะเทือนตามความต้องการของจิตวิญญาณ
ผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของท่านแต่อย่างใดเลย

ถ้าจิตหยาบของท่าน
ยังเข้าถึงการสั่นสะเทือนทางจิตวิญญาณตนเองไม่ได้
นั่นเท่ากับว่าท่านก็ยังนึกคิดด้วยจิตหยาบอยู่
ท่านก็ยังพูดยังทำอะไรๆด้วยจิตหยาบอยู่
ท่านจึงยังเป็นได้แค่ "คน" ที่ยังคนไม่แล้วเสร็จ
เมื่อท่านยังคนตนเองไม่แล้วเสร็จ
ก็จัดว่าท่านยังเป็น "มนุษย์" ตามภารกิจหลักไม่ได้
เมื่อเป็นมนุษย์ยังไม่ได้
ท่านก็จะไม่อาจทำหน้าที่ตามพันธะสัญญา 6
ที่จิตวิญญาณของท่านขันอาสามาได้เลย

เราจึงขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ถ้าท่านไม่เร่งหาทางทำทุกสิ่งในชาตินี้ด้วยจิตวิญญาณ
แทนการทำอะไรๆด้วยจิตหยาบให้จงได้แล้ว
ก็นับว่าน่าเสียดายโอกาสในการเกิดเป็นที่ยิ่ง

ปัญหาของพวกท่านในขณะนี้ก็คือ
ท่านจะคนตนเองในสองมิติ
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไร?

วิธีการคนสองมิติให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว
ระหว่างกายหยาบและจิตหยาบกับจิตวิญญาณ
โดยให้สั่นสะเทือนร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวนั้น
ท่านจะเข้าถึงมันได้อย่างไร
ท่านจะเรียนรู้ได้จากแหล่งไหน
ใครคือครูผู้รู้ความจริงข้อนี้
พอที่จะถ่ายทอดให้ท่านได้บ้าง

การก้มหน้าก้มตาประพฤติธรรมก่อกรรมดีอยู่วันๆ
มันช่วยทำให้แก่นแท้ของท่าน
แค่หลุดลอยไปสู่แดนสวรรค์มายาเท่านั้น
ท่านจะนำพาแก่นแท้ของท่าน
ย้อนคืนสู่สวรรค์นิรันดรที่ท่านจากมาไม่ได้หรอก

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
25-05-2016

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"



จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น