#สนทนาประสาจิตจักรวาล
DHAMMA REPEAT
พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหล
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านท
ความหมายของคำว่า #สุญญตา
ตามมรรควิถีแห่งจิตจักรวาลก
1.คำว่า "สุญญตา"
มาจากคำว่า "สุญญ" ประสมกับคำว่า "ตา"
2.คำว่า "สุญญ" หรือ ศูนย์
หมายถึง ความไม่มีอยู่ หรือ ความว่าง
3.คำว่า "ตา" หมายถึง
กลไกอวัยวะเพื่อการสัมผัสรู
ของเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธ
อันประกอบด้วย
ตา หู จมูก ลิ้น กาย และจิต
ที่เรียกว่า "อายตนะทั้ง 6" นั่นเอง
4.ดังนั้น
คำว่า #สุญญตา โดยรวมแล้ว
จึงหมายถึง การว่างไปจากอายตนะทั้งหก
6.การว่างไปจากอายตนะทั้งหก
หมายถึง มี "ตา" แต่เหมือนไม่มี
นั่นคือ
มีตาที่สามารถรับรู้ดูเห็นไ
มิได้เป็นผู้มีดวงตาพิการแต
มีตาไว้เห็นเพื่อเรียนรู้ว่
โดยที่จิตใจมิได้สั่นไหวเสี
จนเกิดกิเลส ตัณหา ราคะทั้งหลายขึ้นมา
เพราะไม่หยิบเอาสิ่งที่เห็น
มาเป็นเงื่อนไข
การที่ "ตา" มองเห็นสิ่งใด
แล้วรับรู้ว่าอะไรเป็นอะไรด
คือความหมายของคำว่า #สุญญตา
7.การว่างไปจากอายตนะทั้งหก
หมายถึง มี "หู" แต่เหมือนไม่มี
นั่นคือ
มีหูที่สามารถรับรู้รับฟังไ
มิได้เป็นผู้มีหูพิการแต่อย
มีหูไว้ฟังเพื่อเรียนรู้ว่า
โดยที่จิตใจมิได้สั่นไหวเสี
จนเกิดกิเลส ตัณหา ราคะทั้งหลายขึ้นมา
เพราะไม่หยิบเอาสิ่งที่รับฟ
มาเป็นเงื่อนไข
การที่ "หู" ได้ยินได้ฟังสิ่งใด
แล้วรับรู้ว่าอะไรเป็นอะไรด
คือความหมายของคำว่า #สุญญตา
8.การว่างไปจากอายตนะทั้งหก
หมายถึง มี "ลิ้น" แต่เหมือนไม่มี
นั่นคือ
มีลิ้นที่สามารถรับรู้รับรส
มิได้เป็นผู้มีลิ้นพิการแต่
มีลิ้นไว้ลิ้มรสเพื่อเรียนร
โดยที่จิตใจมิได้สั่นไหวเสี
จนเกิดกิเลส ตัณหา ราคะทั้งหลายขึ้นมา
เพราะไม่หยิบเอารสชาติที่รั
มาเป็นเงื่อนไข
การที่ "ลิ้น" รับรู้รสชาติ
แล้วรู้ว่าเป็นรสชาติอะไรด้
คือความหมายของคำว่า #สุญญตา
9.การว่างไปจากอายตนะทั้งหก
หมายถึง มี "จมูก" แต่เหมือนไม่มี
นั่นคือ
มีจมูกที่สามารถรับรู้กลิ่น
มิได้เป็นผู้มีจมูกพิการแต่
มีจมูกไว้ดมเพื่อเรียนรู้ว่
โดยที่จิตใจมิได้สั่นไหวเสี
จนเกิดกิเลส ตัณหา ราคะทั้งหลายขึ้นมา
เพราะไม่หยิบเอากลิ่นที่รับ
มาเป็นเงื่อนไข
การที่ "จมูก" ได้รับสัมผัสรู้กลิ่นใด
แล้วรับรู้ว่าอะไรเป็นอะไรด
คือความหมายของคำว่า #สุญญตา
10.การว่างไปจากอายตนะทั้งห
หมายถึง มี "ผิวกาย" แต่เหมือนไม่มี
นั่นคือ
มีผิวกายที่สามารถรับรู้ได้
มิได้เป็นผู้มีผิวกายพิการแ
มีผิวกายอยู่เพื่อเรียนรู้ว
โดยที่จิตใจมิได้สั่นไหวเสี
จนเกิดกิเลส ตัณหา ราคะทั้งหลายขึ้นมา
เพราะไม่หยิบเอาสิ่งที่ผิวก
มาเป็นเงื่อนไข
การที่ "ผิวกาย" ได้สัมผัสกับสิ่งใด
แล้วรับรู้ว่าอะไรเป็นอะไรด
คือความหมายของคำว่า #สุญญตา
11.การว่างไปจากอายตนะทั้งห
หมายถึง มี "จิต" แต่เหมือนไม่มี
นั่นคือ
มีจิตที่สามารถนึกคิดได้เป็
มิได้เป็นผู้มีจิตพิการแต่อ
มีจิตไว้นึกคิดเพื่อเรียนรู
โดยที่จิตเองมิได้สั่นไหวเส
จนเกิดกิเลส ตัณหา ราคะทั้งหลายขึ้นมา
เพราะไม่หยิบเอาสิ่งที่จิตน
มาเป็นเงื่อนไข
การที่ "จิต" นึกคิดสิ่งใดขึ้นมาได้
แล้วเรียนรู้ว่าอะไรเป็นอะไ
คือความหมายของคำว่า #สุญญตา
12.พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราท
การมีกลไกอายตนะทั้ง 6 เป็นสุญญตา
จึงหมายถึง
การมีและใช้อายตนะของท่าน
ในการสัมผัสรับรู้ทุกสรรพสิ
โดยเรียนรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
อย่าให้มีการ #รับรู้แล้วรับเอา เด็ดขาด
หากมีการรับเอาของจิตเกิดขึ
สภาวะจิตเดิมแท้ที่สงบสมดุล
ก็จะเกิดอาการเสียสมดุลไปทั
จิตของท่านจะทำการหมุน "กรรมจักร"
แทน "ธรรมจักร" ไปในบัดดล
การรับรู้แล้วรับเอาในที่นี
เราหมายถึงจิตรับรู้แล้วเกิ
เป็นอารมณ์รู้สึกนึกคิดต้อง
ทำให้สภาวะจิตตกต่ำหม่นมัว
จนไม่อาจเข้าถึงพลังแห่งรัก
จนไม่อาจเข้าถึงพลังอำนาจแห
13.ถ้าท่านไม่สามารถเข้าถึง
พลังอำนาจแห่งรักบริสุทธิ์
กับพลังอำนาจสูงสุดแห่งปัญญ
ท่านก็มิอาจสอบผ่านบททดสอบจ
ทั้งยากและง่ายในชีวิตประจำ
ท่านก็จะเป็นคนพ้นกรรมไม่ได
#การเป็นคนพ้นกรรม หมายถึง
ก่อกรรมใดๆแล้วไม่เกิดผลกรร
เช่น ทำความดีแล้วไม่หวังสิ่งตอบ
และไม่กระทำการก้าวล่วงผู้อ
14.ท่านทุกคนสามารถปฏิบัติบ
จนเข้าถึงสภาวะสุญญตาได้อย่
ตามวิถีแห่งจิตจักรวาลในชีว
อันเป็นการปฏิบัติตนไปตามธร
โดยไม่ต้องข่มจิต ข่มใจ
โดยไม่ต้องทรมานเครื่องยนต์
ซึ่งสามารถสำเร็จผลได้ในชาต
แต่ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว
ถ้าท่านเป็นฆราวาสประพฤติธร
สภาวะสุญญตาจะสำเร็จผลมิได้
ถ้าท่านยังใช้วิธี #ลี้เข้าป่า #ปลีกวิเวก
หลบไปหามุมสงบอยู่คนเดียว
โดยทอดทิ้งสังคมไป
เพราะเข้าใจว่า "สุญญตา" หมายถึง
การนั่งหลับตาอยู่คนเดียวไม
จะได้ไม่มีอะไรให้ปรุงแต่ง
การนั่งปิดหูเพราะอยู่คนเดี
จะได้ไม่มีอะไรให้ปรุงแต่ง
การนั่งปิดปากเพราะอยู่คนเด
จะได้ไม่พูดกับใครให้มีอะไร
การจำกัดเก็บกดรสอาหารบนปลา
เพื่อสร้างความคุ้นชินชาเฉย
มิให้เกิดการปรุงแต่ง
การกินอยู่หลับนอนคนเดียว
จะได้ไม่ต้องสัมผัสกลิ่นและ
ให้มีอะไรต้องปรุงแต่ง
จงปฏิบัติบำเพ็ญท่ามกลางฝูง
จงปฏิบัติตนไปตามธรรมชาติ
จงฉลาดดำเนินชีวิต
จงเข้าถึงพลังศักดิ์สิทธิ์แ
จงอย่าหนีเข้าป่าหมายไปสวรร
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
27-09-2017
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"
จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น