ตอบคำถาม: Anothai Bunjong
ขอ ท่าน อ.ปริญญา เมตตาขยายความ
บันทึกพระโอวาทของพระอาจารย ์จี้กง
กล่าวว่า ....
Question 1:
ตาเห็นแต่ไม่จำ หูได้ยินแต่ไม่บันทึก
Answer:
หมายถึง อายตนะที่เป็นตาและหู
เมื่อได้เห็นและได้ฟังสิ่งใ ดๆ
ตัวอายตนะเองจะไม่บันทึกจดจ ำสิ่งนั้นไว้
แต่จะทำหน้าที่เพียงถ่ายทอด
สิ่งที่ได้เห็นหรือได้ฟังนั ้น
เข้าไปสู่จิตที่อยู่ข้างในจ นหมดสิ้น
Question 2:
จิตใจจะตรงไม่งอเป็นเข็มเบ็ ด
Answer:
เมื่อจิตรับข้อมูลที่อายตนะ ภายนอกส่งมาให้
จิตก็จะสั่นสะเทือนเพื่อให้ เกิดการเรียนรู้ว่า
ข้อมูลที่ส่งเข้ามานั้นอะไร เป็นอะไร
นั่นคือชั้นตอนที่เราเรียกว ่า #การรับรู้ นั่นเอง
Question 3:
สัมภาระก็จะเกี่ยวไม่ติด
สรรพกิจก็จะไม่มีอุปสรรค
Answer:
ถ้าจิตที่เป็นอายตนะภายใน
เมื่อได้รับข้อมูลใดจากอายต นะภายนอก
ก็จะนำเอาข้อมูลที่ได้รับนั ้นมา"เรียนรู้"
โดยไม่เอาข้อมูลที่ได้รับนั ้นมาเป็น "เงื่อนไข"
ที่จะทำให้จิตใจของตนสั่นสะ เทือน
เกิดเป็นตัณหา ราคะ และเวทนา
มันคือการ #รับรู้แล้วไม่รับเอา นั่นเอง
ถ้าหากท่านทำเช่นนี้ได้
ภารกิจการเรียนรู้โลกของจิต วิญญาณ
ผ่านทางจิตหยาบกับอายตนะของ ท่าน
มันก็จะไม่มีอุปสรรคเลย
นอกจากนั้น
ถ้าจิตรับรู้แล้วไม่รับเอาข ้อมูลนั้นๆมาปรุงแต่ง
เป็นความรู้สึก เป็นความอยาก เป็นอารมณ์
โดยจิตทำหน้าที่เรียนรู้อย่ างตรงไปตรงมาได้
การก่อกรรมให้เกิดผลกรรมใดๆ
ที่ตนต้องรับผิดชอบหรือเป็น ภาระย่อมไม่มี
เมื่อไม่มีผลกรรมใดๆปรากฏเก ิดขึ้น
เพราะจิตมีแต่รับรู้เพื่อเร ียนรู้อย่างเดียว
การที่จิตวิญญาณของท่าน
จะไปเกี่ยวกรรมกับใครผู้ใดจ ึงย่อมไม่มี
นั่นแปลว่า...
จิตของท่านจึงเปรียบเสมือนเ ข็ม
ที่ไม่งอเป็นตะขอเหมือนเบ็ด
มันจะเกี่ยวอะไรก็ไม่ได้
อะไรจะเข้ามาเกี่ยวติดเบ็ดก ็ไม่มี
Question 4:
แล้วเลือดก็จะแปรเปลี่ยนเป็ นธรรม
Answer:
ถ้าในชีวิตประจำวันของท่าน
สามารถเข้าถึงการทำงานร่วมก ันของจิต
กับอายตนะทั้งหมดของท่านเพื ่อการเรียนรู้โลก
ด้วยวิธี #รับรู้ไม่รับเอา ที่ว่านี้ได้ตลอดชีพ
จิตของท่านก็จะสั่นสะเทือนด ้านบวกทางเดียว
การสั่นสะเทือนด้านบวกของจิ ตท่านนั้น
มันจะส่งผลให้กลไก Corpuscollosum
ซึ่งมีลักษณะคล้ายฐานรองก้อ นสมองสองซีก
เกิดการผลิตสร้างประจุบวกออ กมา
เมื่อธารเม็ดเลือดแดงไหลผ่า นสมองซีกซ้าย
การเปลี่ยนถ่ายประจุบวก
เข้าสู่เม็ดเลือดแดงก็จะเกิ ดขึ้นทันที
ถ้าท่านสั่นสะเทือนจิตของท่ าน
ให้มีความสุขสนุกสนานกับการ เรียนรู้
โดยไม่ตกเป็นทาสของสิ่งเร้า เหล่านั้นได้
เม็ดเลือดแดงที่ไหลเวียนในร ่างกายท่าน
ก็จะเป็นเม็ดเลือดแดงบริสุท ธิ์ 100%
Question 5:
เหมือนดั่งมนุษย์มีปีกสองข้ าง
เหมือนดั่งธนูที่ยิงขึ้นไปใ นอากาศ
Answer:
ถ้าในชีวิตประจำวัน
ท่านสามารถ "รับรู้เพื่อเรียนรู้" ได้ตลอดวัน
โดยไม่มีการรับรู้เพื่อรับเ อา
ตามที่เราขยายความไว้ให้แล้ วนั้น
ผลกรรมที่จะต้องเกี่ยวกรรมก ับใครอื่น
มันก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น
นอกจากนั้นท่านยังจะสามารถ
แก้ไขกรรมเก่าที่ท่านเคยผิด พลาด
ในภพชาติอดีตที่ผ่านมาได้อี กด้วย
ดังนั้น
ดวงจิตธรรมญาณของท่าน
ก็จะมีน้ำหนักมวลลดลงเข้าหา 50 มก.
อันเป็นน้ำหนักเดิมแท้ของท่ านเองได้
นั่นจึงเท่ากับว่าแก่นแท้ขอ งท่าน
มีน้ำหนักลดลงคือ "ตัวเบาขึ้น"
เปรียบดั่งท่านมีปีกเหมือนน กที่บินได้
ซึ่งแตกต่างจากมนุษย์คนอื่น ๆโดยแท้
นอกจากนั้น
จิตของท่านก็จะมีพลัง
จนสามารถติดต่อสื่อสารกับจั กรวาลได้เอง
เมื่อสิ้นอายุขัยเมื่อใด
จิตวิญญาณของท่านก็จักพุ่งผ ่านสู่ประตูมิติ
เพื่อการหลุดพ้นได้ดุจธนูพุ ่งออกจากแหล่ง
Question 6:
หากจิตเหมือนเข็มเบ็ดตกปลา
หย่อนลงในทะเลทุกข์
ก็จะเกี่ยวเอาพวกไม้และสวะ
กรรมเวรนั้นติดตามมา
ถึงแม้จะมีพระเจ้าคอยฉุดลาก
ก็มิอาจลากขึ้นมาได้
Answer:
ถ้าจิตท่านมีการ "รับรู้แล้วรับเอา" เกิดขึ้น
จิตของท่านก็ไม่ต่างจากเบ็ด ตกปลา
หย่อนลงไปตรงไหนก็จะติดสวะต ิดทุกข์
ซึ่งเป็นดั่งกรรมเวรติดขึ้น มาด้วยเสมอ
แม้ว่าจะมีพระบิดาทรงเมตตา
มีพระบัญชาให้เรามาฉุดช่วยพ วกท่าน
ก็จะมิอาจช่วยท่านให้หลุดพ้ นได้
ถ้าท่านไม่ใส่ใจในคำสื่อสอน ของเรา
ถ้าท่านปฏิเสธพระบิดาไม่ศรั ทธาเรา
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
13-4-2017
ขอ ท่าน อ.ปริญญา เมตตาขยายความ
บันทึกพระโอวาทของพระอาจารย
กล่าวว่า ....
Question 1:
ตาเห็นแต่ไม่จำ หูได้ยินแต่ไม่บันทึก
Answer:
หมายถึง อายตนะที่เป็นตาและหู
เมื่อได้เห็นและได้ฟังสิ่งใ
ตัวอายตนะเองจะไม่บันทึกจดจ
แต่จะทำหน้าที่เพียงถ่ายทอด
สิ่งที่ได้เห็นหรือได้ฟังนั
เข้าไปสู่จิตที่อยู่ข้างในจ
Question 2:
จิตใจจะตรงไม่งอเป็นเข็มเบ็
Answer:
เมื่อจิตรับข้อมูลที่อายตนะ
จิตก็จะสั่นสะเทือนเพื่อให้
ข้อมูลที่ส่งเข้ามานั้นอะไร
นั่นคือชั้นตอนที่เราเรียกว
Question 3:
สัมภาระก็จะเกี่ยวไม่ติด
สรรพกิจก็จะไม่มีอุปสรรค
Answer:
ถ้าจิตที่เป็นอายตนะภายใน
เมื่อได้รับข้อมูลใดจากอายต
ก็จะนำเอาข้อมูลที่ได้รับนั
โดยไม่เอาข้อมูลที่ได้รับนั
ที่จะทำให้จิตใจของตนสั่นสะ
เกิดเป็นตัณหา ราคะ และเวทนา
มันคือการ #รับรู้แล้วไม่รับเอา นั่นเอง
ถ้าหากท่านทำเช่นนี้ได้
ภารกิจการเรียนรู้โลกของจิต
ผ่านทางจิตหยาบกับอายตนะของ
มันก็จะไม่มีอุปสรรคเลย
นอกจากนั้น
ถ้าจิตรับรู้แล้วไม่รับเอาข
เป็นความรู้สึก เป็นความอยาก เป็นอารมณ์
โดยจิตทำหน้าที่เรียนรู้อย่
การก่อกรรมให้เกิดผลกรรมใดๆ
ที่ตนต้องรับผิดชอบหรือเป็น
เมื่อไม่มีผลกรรมใดๆปรากฏเก
เพราะจิตมีแต่รับรู้เพื่อเร
การที่จิตวิญญาณของท่าน
จะไปเกี่ยวกรรมกับใครผู้ใดจ
นั่นแปลว่า...
จิตของท่านจึงเปรียบเสมือนเ
ที่ไม่งอเป็นตะขอเหมือนเบ็ด
มันจะเกี่ยวอะไรก็ไม่ได้
อะไรจะเข้ามาเกี่ยวติดเบ็ดก
Question 4:
แล้วเลือดก็จะแปรเปลี่ยนเป็
Answer:
ถ้าในชีวิตประจำวันของท่าน
สามารถเข้าถึงการทำงานร่วมก
กับอายตนะทั้งหมดของท่านเพื
ด้วยวิธี #รับรู้ไม่รับเอา ที่ว่านี้ได้ตลอดชีพ
จิตของท่านก็จะสั่นสะเทือนด
การสั่นสะเทือนด้านบวกของจิ
มันจะส่งผลให้กลไก Corpuscollosum
ซึ่งมีลักษณะคล้ายฐานรองก้อ
เกิดการผลิตสร้างประจุบวกออ
เมื่อธารเม็ดเลือดแดงไหลผ่า
การเปลี่ยนถ่ายประจุบวก
เข้าสู่เม็ดเลือดแดงก็จะเกิ
ถ้าท่านสั่นสะเทือนจิตของท่
ให้มีความสุขสนุกสนานกับการ
โดยไม่ตกเป็นทาสของสิ่งเร้า
เม็ดเลือดแดงที่ไหลเวียนในร
ก็จะเป็นเม็ดเลือดแดงบริสุท
Question 5:
เหมือนดั่งมนุษย์มีปีกสองข้
เหมือนดั่งธนูที่ยิงขึ้นไปใ
Answer:
ถ้าในชีวิตประจำวัน
ท่านสามารถ "รับรู้เพื่อเรียนรู้" ได้ตลอดวัน
โดยไม่มีการรับรู้เพื่อรับเ
ตามที่เราขยายความไว้ให้แล้
ผลกรรมที่จะต้องเกี่ยวกรรมก
มันก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น
นอกจากนั้นท่านยังจะสามารถ
แก้ไขกรรมเก่าที่ท่านเคยผิด
ในภพชาติอดีตที่ผ่านมาได้อี
ดังนั้น
ดวงจิตธรรมญาณของท่าน
ก็จะมีน้ำหนักมวลลดลงเข้าหา
อันเป็นน้ำหนักเดิมแท้ของท่
นั่นจึงเท่ากับว่าแก่นแท้ขอ
มีน้ำหนักลดลงคือ "ตัวเบาขึ้น"
เปรียบดั่งท่านมีปีกเหมือนน
ซึ่งแตกต่างจากมนุษย์คนอื่น
นอกจากนั้น
จิตของท่านก็จะมีพลัง
จนสามารถติดต่อสื่อสารกับจั
เมื่อสิ้นอายุขัยเมื่อใด
จิตวิญญาณของท่านก็จักพุ่งผ
เพื่อการหลุดพ้นได้ดุจธนูพุ
Question 6:
หากจิตเหมือนเข็มเบ็ดตกปลา
หย่อนลงในทะเลทุกข์
ก็จะเกี่ยวเอาพวกไม้และสวะ
กรรมเวรนั้นติดตามมา
ถึงแม้จะมีพระเจ้าคอยฉุดลาก
ก็มิอาจลากขึ้นมาได้
Answer:
ถ้าจิตท่านมีการ "รับรู้แล้วรับเอา" เกิดขึ้น
จิตของท่านก็ไม่ต่างจากเบ็ด
หย่อนลงไปตรงไหนก็จะติดสวะต
ซึ่งเป็นดั่งกรรมเวรติดขึ้น
แม้ว่าจะมีพระบิดาทรงเมตตา
มีพระบัญชาให้เรามาฉุดช่วยพ
ก็จะมิอาจช่วยท่านให้หลุดพ้
ถ้าท่านไม่ใส่ใจในคำสื่อสอน
ถ้าท่านปฏิเสธพระบิดาไม่ศรั
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
13-4-2017
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"
จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น