วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หลักการเรียนรู้ที่มีประสิทธิผล





พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

พระโอวาททุกตอนที่เราสื่อมา
พระคัมภีร์ทุกเล่มที่เราบันทึกไว้
พระวจนะทุกประโยคที่เรากล่าวออกไป

ถ้าท่านเป็นผู้ค้นหาหนทางอยู่รอดปลอดภัย
ถ้าท่านเป็นผู้มาดหมายการหลุดพ้น
ถ้าท่านเป็นคนฝักใฝ่ในธรรมก่อกรรมดี

พระโอวาท พระคัมภีร์ และพระวจนะ
จากองค์พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ผู้ทรงเป็นพระจิตแห่งมหาจักรวาลอันไพศาลนี้
มีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่ท่านทั้งหลาย
จักต้องบริหารจัดการตนเองให้เป็น
เพื่อ "การเรียนรู้" ให้ได้
เพื่อการเรียนรู้ให้เป็น และ การเรียนรู้ที่ถูกต้อง

หลักการเรียนรู้ที่มีประสิทธิผล
มีกระบวนการดังต่อไปนี้ คือ

1.เรียนรู้ เพื่อ ให้ได้ "องค์ความรู้"
2.ได้องค์ความรู้ เพื่อ นำมา "คิดรู้"
3.คิดรู้ เพื่อ ทำให้ตนเอง "เข้าใจ"
4.เข้าใจ เพื่อ ทำให้ตนเอง "เข้าถึง"
5.เข้าถึง เพื่อ สิ้นสุดกระบวนการเรียนรู้
ในองค์ความรู้นั้น
6.สิ้นสุดกระบวนการเรียนรู้นั้น
เพื่อยังประโยชน์ในการดำเนินชีวิตของตน
ร่วมกันกับผู้อื่นอย่างสันติสุขได้

นี่จึงเป็นการเรียนรู้ที่ถูกต้องถ่องแท้
ตามมรรควิถีแห่งจิตจักรวาลเพื่อการหลุดพ้น

นี่จึงเป็นวิถีแห่งการพ้นทุกข์ที่แท้จริง
นี่จึงเป็นวิถีแห่งการปฏิบัติธรรมที่แท้จริง
นี่จึงเป็นวิถีแห่งการอยู่เหนือกฎแห่งกรรมที่แท้จริง

การท่องธรรมะอยู่ทั้งวันแต่ไม่ทำ
การรู้ธรรมะจนขึ้นใจแต่สติแตกเสมอเมื่อถูกยั่วยุ
การกอดพระคัมภีร์แต่อ้างไม่มีเวลาจะอ่าน
การหมั่นรับฟังบันทึกสื่อพระโอวาท
แต่ยังขาดการใส่ใจ
ที่จะดัดจริตนิสัยตนเองให้ได้ตามที่เราสื่อมา

มันล้วนทำให้ท่านทั้งหลาย
ยกระดับจิตตปัญญาไม่ได้หรอก

ไม่ต่างจากท่านอยู่ในพงหญ้าที่รกทึบ
แล้วได้กลิ่นดอกบัวสวรรค์อันหอมเย็น
โดยเฝ้าแต่ดมกลิ่นแต่ไม่เคยแลเห็นเลยว่า
บัวสวรรค์มีดอก มีผล มีต้นเป็นแบบไหน
ต้นดอกบัวสวรรค์มันขึ้นอยู่ตรงพิกัดใด

ขออยู่ใกล้เพียงแค่ภูมิใจที่ได้ดมกลิ่น
ดอกบัวสวรรค์...เท่านั้นเองหริอ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
5-08-2016

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"



จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น