วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2559

คนป่วย กับ หมอที่รออยู่





พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
คนที่รู้ตัวว่าเจ็บไข้ได้ป่วยแล้วเท่านั้น
ที่เขาจะนึกถึงหมอ

ต่างจากคนที่เราได้รู้เห็นแล้วว่าเขาป่วย
โดยที่เจ้าตัวยังไม่ทันรู้เลยว่าตัวเองน่ะป่วย

คนจำพวกนี้จะไม่มีวันนึกถึงหมอ
คนจำพวกนี้จะไม่มีวันเชื่อหมอ
แม้หมอจะบอกให้รู้ว่าเขา "กำลังป่วย"

คนจำพวกนี้แม้ว่าเขาจะเดินสวนทางกันกับหมอ
แต่เขาก็จะไม่มีวันเห็นหมออยู่ในสายตา

คนพวกนี้แม้ว่าจะกำลังสนทนาอยู่กับหมอ
แต่พวกเขาก็จะไม่มีวันไถ่ถามหมอ
ถึงอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของเขา
หรือไถ่ถามถึงเรื่องสุขภาพของเขาเองเลย

ดังนั้น
คนที่ทุกวันนี้เขายังไม่รู้ว่าเขายังไม่รู้อะไรอยู่

คนที่ทุกวันนี้เขายังไม่รู้ว่าทำไมเขาจะต้องรู้
ในสิ่งที่ "ครู-ผู้รู้" เขานำมากล่าวสอนซ้ำย้ำให้ได้รู้

คนที่ทุกวันนี้เอาแต่อวดดี อวดรู้ ในสิ่งที่ตนพอรู้อยู่
โดยปิดตา ปิดหู ไม่ยอมเปิดใจรับฟังความรู้ใหม่
ที่ผู้รู้เขาเมตตาหยิบยื่นมาแบ่งปันให้

คนทั้งสามจำพวกนี้จึงมิต่างไปจาก

คนป่วยที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองป่วย
จึงแลไม่เห็นคุณค่าของหมอ
จึงมองไม่เห็นประโยชน์ของวิชาแพทย์ที่หมอมีอยู่

ต่อเมื่อเขาต้องล้มหมอนนอนป่วยเมื่อใดนั่นแหละ
คำว่า "คุณหมอขา" คุณ "หมา" ขอ...
ขอ...ความเมตตารักษาชีวิตให้ลูกหมาที
จึงจะเป็นความจริงได้

แต่ทว่า...เมื่อถึงเวลานั้น
มันจะสายเกินไปรึเปล่าเราก็มิอาจรู้

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
2-08-2016

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"



จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น