วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2559

การเปลี่ยนแปลงโลกแห่งความจริงที่ยิ่งใหญ่





เราจะกล่าวความจริงให้ท่านรู้ว่า
ขึ้นปีใหม่ 2559 ทั้งที
ถ้าท่านปรารถนาจะมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่า
ก็จงอย่าเที่ยวร้องขอพรจากคนอื่น
ก็จงอย่ามัวยืนรอรับพร
ที่คนอื่นเขา "อวย" ให้
ก็จงอย่าเอาแต่ทำบุญสิ้นปี
แล้วเว้าวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยบันดาลให้
จงอย่ารอให้ส้มหล่นไปวันๆ
โดยที่ท่านไม่ได้คิดอ่านทำอะไรๆ
ให้มันผิดแผกแตกต่างไปจากปีกลายเลย
เคยคิดแบบไหนก็ยังคิดอยู่แบบเดิมๆ
เคยมองโลกมุมไหนก็ยังมองอยู่แต่มุมเดิมๆ
เคยทำแบบไหนก็ยังทำอยู่แบบเดิมๆ
เคยบกพร่องอะไร
ท่านก็ยังบกพร่องอยู่อย่างเดิม
เคยมีนิสัยไม่ดีด้านไหน
ท่านก็ยังอนุรักษ์มันไว้อยู่อย่างเดิม
เชื่อเถิดว่าตลอดปีใหม่นี้
มันจะเป็นอีกปีหนึ่ง
ซึ่งท่านคงจะเหมือนเดิมนั่นคือ
ถ้าจะรวยก็คงรวยเท่าเดิมหรือน้อยกว่า
ถ้าจะจนก็คงจะจนเหมือนเดิมหรือมากกว่า
ถ้าจะสุขก็คงจะสุขเท่าเดิมหรือน้อยกว่า
ถ้าจะทุกข์ก็คงจะทุกข์เหมือนเดิมหรือมากกว่า
ด้วยเหตุดั่งนี้เอง
เราจึงย้ำต่อท่านทั้งหลายเสมอมาว่า
การเปลี่ยนแปลงใดๆในชีวิตท่านที่ผ่านมา
มันมิได้ขึ้นอยู่กับใครอื่นเลย
เกิดจากตัวท่านเองทั้งสิ้น
การที่คนๆหนึ่งพลัดตกท่อทางเท้า
เป็นเพราะเขาเดินไม่ระวังเอง
หรือเป็นเพราะเทศบาลเหลวไหล
ไม่ปิดฝาท่อให้เรียบร้อยกันแน่
การที่ใครคนหนึ่ง
มีตำแหน่งงานไม่ก้าวหน้า
ก้าวช้ากว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ
เป็นเพราะเจ้านายไม่ดีหรือว่า
เป็นเพราะเจ้านายตาบอด
มองไม่เห็นความดีและผลงานของคนๆนั้น
หรือเป็นเพราะคนๆนั้นมีผลงานบกพร่อง
หรือเป็นเพราะคนๆนั้น
มีนิสัยบางอย่างไม่เข้าตานาย
หรือนายมองไม่เห็นความโดดเด่น
เพราะเขายังเน้นทำดีน้อยไปหน่อย
ท่านจะเห็นตัวอย่างแล้วว่า
ถ้าใครคนนั้นยังหลงตัวเองอยู่
เขาก็จะได้แต่โทษคนอื่นมากกว่าจะยอมรับผิด
เมื่อตนเองไม่ยอมรับว่าตนผิดตนบกพร่อง
การปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดบกพร่องนั้น
เพื่อการเปลี่ยนแปลงตนเองใหม่
มันก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นมาได้เลย
ท่านจึงต้องใช้หลักการเปลี่ยนชีวิตให้ดีกว่าเดิม
เพื่อให้พรและให้รางวัลแก่ตนเอง
ด้วยทีเด็ดที่เราขอชี้แนะดังต่อไปนี้
1.จงทบทวนความไม่สำเร็จในรอบปีที่ผ่านมา
ถ้าท่านปรารถนาจะทำสิ่งนั้นอยู่อีกในปีนี้
ว่ามันมีข้อผิดพลาดบกพร่องตรงไหนอย่างไรบ้าง
2.เรียนรู้ที่จะยอมรับข้อผิดพลาดบกพร่องนั้น
ด้วยการไม่โทษคนอื่น ไม่กล่าวตำหนิผู้อื่น
ท่านต้องไม่โทษเพื่อนร่วมงาน ไม่โทษเจ้านาย
3.ท่านต้องไม่โทษฟ้าดิน
ไม่โทษผีสาง ไม่โทษโชคชะตา
ที่สำคัญคือ ต้องไม่โทษตัวเองด้วย
เพราะการเที่ยวโทษคนอื่นๆหรือสิ่งอื่นๆ
แม้กระทั่งการโทษตัวเองนั้น
มันมิใช่การยอมรับข้อผิดพลาดของตน
ที่เกิดขึ้นแล้วอย่างจริงใจ
แต่มันเป็นการ "หาที่ลง" ให้มันแล้วๆไป
เพื่อที่ตนจะไม่ต้องทำอะไรกับมันต่างหาก
4.เมื่อค้นพบข้อผิดพลาดบกพร่องแล้ว
ขั้นตอนต่อมาก็คือ "การรู้จักตักเตือนตนเอง"
มิให้มีการพลาดพลั้งเผลอไผล
ไปกระทำแบบเดิมๆนั้นซ้ำเข้าให้อีกตลอดทั้งปี
เพราะ "การไม่กระทำผิดซ้ำ"
มันก็คือการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
ในชีวิตนี้ชาตินี้ของท่านเลยทีเดียวนะ
5.ค้นหาวิธีคิดวิธีทำแบบใหม่ๆ
อ่านมาก ฟังมาก ถามผู้รู้มากๆ
และคิดให้มากๆ (แต่อย่าคิดมาก)
โดยให้คิดนอกกรอบด้วย
คือคิดในแง่มุมที่ท่านไม่เคยคิดบ้าง
มองในมุมที่ท่านไม่เคยมองบ้าง
ฟังคนรอบข้างที่ท่านไม่เคยใส่ใจจะฟังเขาบ้าง
หยุดฟังหยุดมองหยุดคิดตามคนรอบข้าง
แล้วหันมาลองฟังความคิดตัวเองบ้าง
มองในมุมของตัวเองบ้าง
ทั้งหมดที่เรากล่าวมานี้
มันคือ การเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น
อย่าลืมว่า.....
บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายบนโลกใบนี้
ไม่มีใครเกลียดกลัวหรือรังเกียจ
การเปลี่ยนแปลงตนเองเลยสักคน
เคล็ดลับของพวกเขา
ที่ช่วยให้พวกเขาเป็นผู้นำคนอื่นๆได้
ก็เพราะว่าพวกเขาเหล่านั้น
"เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง" โดยแท้
ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้
เป็น "พร" หรือสิ่งดีๆที่ท่านทั้งหลาย
สามารถจะหยิบยื่นให้กับตนเองได้เสมอ
จงอย่ามัวสนุกสุขสมหวังแต่ทางโลก
จนลืม "หยิบสุขสงบนิรันดร์"
ให้แก่จิตวิญญาณของท่านด้วยก็แล้วกัน
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
2-1-2016

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"



จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น