วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

"สุญญตา" คือ อะไร





เราจะกล่าวความจริงเรื่อง "สุญญตา"
ให้ท่านทั้งหลายได้เรียนรู้ว่า
ถ้าท่านไม่สามารถเข้าถึงสภาวะแห่งสุญตาได้
ท่านก็จะไม่สามารถกลับบ้านทางจิตวิญญาณ
ในภพชาติปัจจุบันนี้ได้พันเปอร์เซ็นต์
ท่านจงอย่าไปเชื่อใครบางคน
ที่เขามากล่าวต่อท่านว่า
การแสวงหาคำตอบเรื่องสุญญตา
เป็นการแสวงหา "ตัวตน"
มันจะทำให้หลุดพ้นคือนิพพานไม่ได้
โดยเขาจะอ้างว่า "สุญญตา" นั้น
มันเป็นของมันตามธรรมชาติอยู่แล้ว
เราจึงขอกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า
การแสวงหาความจริงหรือสัจธรรม
เกี่ยวกับ "สุญญตา" นั้น
มันเป็นหน้าที่ของทุกท่านที่จะต้องรู้
ต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ต่างหากล่ะ
ก็เป็นความจริงอยู่ส่วนหนึ่ง
ที่คนพวกนั้นเขากล่าวว่า
สุญญตา หรือ "สุญตา" นั้น
มันเป็นธรรมชาติของทุกคนอยู่แล้ว
เพราะตั้งแต่มาเกิดเป็นมนุษย์
ในภพชาติแรกนั้นน่ะ
จิตหยาบหรือจิตมนุษย์ของท่าน
ล้วนมีคุณสมบัติแรกเริ่มเดิมที
เป็นสุญญตาด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
แต่ทว่าในปัจจุบันนี้
จิตมนุษย์ของพวกท่านทั้งหลาย
มันได้เสื่อมคลายไร้สมดุลกันหมดแล้ว
เหตุเพราะมีกิเลสตัณหาเข้าครอบงำ
จนเสียจริตผิดบาปกันอยู่ทุกวัน
ความจริงเรื่องสุญญตาก็คือ
การที่กลไกอายตนะภายนอกทั้ง 5 ของท่าน
เมื่อมีการสัมผัสรู้ดูเห็นสิ่งใดแล้ว
จะถ่ายทอดข้อมูลเข้าสู่ "จิต" ภายใน
จากนั้นจิตที่เป็นอายตนะภายใน
เมื่อมีการรับรู้สรรพสิ่งใดๆเกิดขึ้นแล้ว
ก็จะนำเอาข้อมูลที่รับรู้ทั้งหมดนั้นมาเรียนรู้
เรียนรู้เพื่อให้ได้ความรู้ว่า
ที่ตนกำลังสัมผัสรู้ดูเห็นอยู่นั้น
มันคืออะไร อย่างไร
สภาวะจิตที่สั่นสะเทือน
เพื่อการเรียนรู้ให้ได้องค์ความรู้
เมื่อจิตได้รับรู้ข้อมูลใดๆ
จากอายตนะภายนอกนี่แหละท่าน
พระบิดาได้ทรงบัญญัติว่า
สภาวะจิตของท่านผู้นั้นในขณะนั้น
มีคุณสมบัติเป็น "สุญญตา"
ในทางตรงกันข้าม
เมื่อใดที่กลไกอายตนะภายนอก
มีการสัมผัสรู้ดูเห็นสิ่งใดเรื่องใดเข้า
ก็จะสื่อถ่ายทอดข้อมูลเข้าไปสู่จิตภายใน
จิตภายในก็จะมีการรับรู้ข้อมูลนั้น
แต่แทนที่จิตของท่าน
จะรับรู้ข้อมูลนั้นแล้วเรียนรู้ว่า
อะไรเป็นอะไร
จิตของท่านกลับสั่นสะเทือน
เพื่อการรับเอาขึ้นมาแทน
การสั่นสะเทือนเพื่อการรับเอาของจิต
เมื่อได้รับรู้ข้อมูลจากอายตนะภายนอก
คือการสั่นสะเทือนจนเกิดเป็นความรู้สึก
ที่เรียกว่า "เวทนา" นี่เอง
จิตที่รับรู้แล้วสั่นสะเทือนเป็นการรับเอา
แทนที่จะเรียนรู้ไปตามหน้าที่ปกตินี่แหละ
พระบิดาทรงบัญญัติว่า
เป็นอาการของคน "จิตตก ใจแตก" โดยแท้
ดังนั้น
หากเราจะกล่าวโดยสรุปความก็คือ
"สุญญตา" หมายถึง
สภาวะสูงสุดของจิตหยาบ
ที่เสมือนจะรับรู้ดูเห็นสิ่งต่างๆได้
ด้วยความสามารถของตนเอง
โดยไม่ต้องอาศัย ตา หู จมูก
ลิ้น และกายสัมผัสเลย
เพราะสามารถ "รับรู้" เพื่อเรียนรู้ได้
โดยมีตาแต่เหมือนไม่มี
(ตาสูญแปลว่าตาไม่มี)
มีหูก็เหมือนไม่มี
(หูสูญแปลว่าหูไม่มี)
มีจมูกก็เหมือนไม่มี
(จมูกสูญแปลว่าจมูกไม่มี)
มีลิ้นหรือมีปากก็เหมือนไม่มี
(ปากสูญแปลว่าปากไม่มี)
มีกายสัมผัสได้แต่ก็เหมือนไม่มี
(กายสูญแปลว่ากายไม่มี)
ที่มีอยู่แต่เหมือนไม่มีก็เพราะว่า
อายตนะเหล่านี้เมื่อมีการสัมผัสแล้ว
ก็ไม่เกิดความรู้สึกใดๆว่าสัมผัสนั่นเอง
ทุกๆท่านจึงต้องปฏิบัติเยี่ยงนี้ให้ได้
ด้วยการทำจิตให้เป็นสุญญตา
คือ "รับรู้ไม่รับเอา"
เรายืนยันต่อท่านทั้งหลายว่า
ถ้าท่านเร่งรัดตนเอง
ฝึกทำจิตให้เป็นสุญตาได้ตั้งแต่เดี๋ยวนี้
ภพชาตินี้ท่านจักเป็นผู้หนึ่ง
ที่จะเข้าถึงการหลุดพ้นได้แน่นอน
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
29-12-2015

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"



จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น