วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

หน้าที่ของท่าน เมื่อเผชิญกับความทุกข์






เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายอีกว่า
ทุกข์กับสุขแม้มันจะไม่มีรูปธรรมตัวตนอะไร
แต่จิตของท่านก็สามารถ
ปั้นมันขึ้นมาให้เกิดมีอัตตาตัวตนขึ้นมาได้

เพียงแค่ท่านเกลียดกลัวความทุกข์
มันก็จะยังผลให้ความทุกข์
ซึ่งแต่เดิมเป็นเพียงอาการของจิตอย่างหนึ่ง
จักแปลงสภาพเป็นมีอัตตาตัวตนขึ้นมา
เพื่อให้จิตเองนั้นสามารถผลักไส
หรือปฏิเสธความทุกข์ที่ในใจนั้นได้ดั่งมีตัวตน

เพียงแค่ท่านอยากมีความสุข
มันก็จะยังผลให้ความสุข
ซึ่งแต่เดิมเป็นเพียงอาการของจิตอย่างหนึ่ง
จักแปลงสภาพเป็นมีอัตตาตัวตนขึ้นมา
เพื่อให้จิตเองนั้นสามารถยึดเกาะเหนี่ยวรั้ง
ความสุขที่ในใจท่านได้ดั่งมีตัวตนเช่นกัน

การที่ท่านพยายามวิ่งหนีเพื่อให้พ้นทุกข์
จึงเป็นการไม่ฉลาดเป็นอย่างยิ่ง
เพราะทุกข์มันเกิดที่จิตใจท่าน
ท่านแล่นไปไหนทุกข์นั้นก็ไปด้วย
ท่านหลบไปอยู่ในหลืบในถ้ำหรือในตุ่มน้ำ
ความทุกข์นั้นมันก็ติดตามท่านไปทุกที่
จะหนีจึงย่อมหนีไม่พ้น

นอกจากนั้น
ยิ่งท่านแปลงทุกข์ที่เดิมเป็นนามรูป
คือเป็นแค่เพียงความรู้สึกหนึ่งที่เกิดขึ้น
ภายในจิตใจของท่าน
ให้มันกลายสภาพเป็นมีอัตตาตัวตนขึ้นมาด้วยแล้ว
จิตของท่านมันก็จะยิ่งยึดเกาะเอาไว้แน่นขึ้น
แน่นจนยากที่จะปล่อยวางมันลงเลยทีเดียว

ดังนั้น
หน้าที่ของท่าน
เมื่อเผชิญกับความทุกข์ก็คือ

1.จงอย่าพยายามปฏิเสธหรือหลีกหนีมัน
ท่านจงจำไว้ว่ายิ่งพยายามเลี่ยงหนีก็ยิ่งทุกข์
เพราะความทุกข์ของมนุษย์นั้น
มันเกิดจากอุปสรรคหรือปัญหา
เมื่อมนุษย์ทุกคนล้วนต้องมีปัญหาให้เผชิญ
พวกท่านจึงย่อมหนีทุกข์ไม่พ้น

เพราะปัญหาเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา
ปัญหาช่วยให้พวกท่านฉลาดมากขึ้น
ปัญหาจะช่วยให้ท่านยกระดับสภาวะจิต
ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

2.บอกตนเองว่าความทุกข์นั้น
เป็นเพียงสิ่งที่ทนได้ยากกว่าปกติเท่านั้นเอง
ความทุกข์จึงมิใช่สิ่งที่ท่านจะทนไม่ได้

3.บอกตนเองว่าไม่มีใครบนโลกนี้
ที่จะไม่เผชิญกับสิ่งที่เรียกว่าทุกข์
คนอื่นเขาข้ามผ่านหรือฟันฝ่ามันไปได้
ทำไมตัวท่านจะข้ามผ่านฟันฝ่ามันไปไม่ได้

4.บอกตนเองว่าทุกข์เกิดที่ใจเรา
หากจะดับทุกข์ก็เพียงดับที่ใจเรา
ไฟมันลุกลามอยู่ตรงไหน
ท่านก็ดับไฟที่ตรงนั้นมิใช่ดอกหรือ

เวลาดับไฟร้อนดั่งไฟสุมอก
ท่านจักต้องใช้น้ำเย็นๆมาดับไฟ
ค่อยๆรดค่อยๆราดมันลงไป
เดี๋ยวไฟก็มอดดับเอง

จะทำเป็นใจร้อนหรือหวั่นไหว
จะวิ่งหนีไฟเพราะกลัวไฟ

ไฟความทุกข์ในใจท่าน
มันก็มิอาจมอดดับลงไปได้เลย

ด้วยเหตุดั่งนี้เอง
ท่านทั้งหลายจึงไม่ควรหนีทุกข์
ให้กล้าๆเผชิญหน้ากับมัน

จงใช้ความรักและปัญญา
จัดการกับไฟรักและไฟชีวิตอย่างกล้าหาญ
มันจะได้ผลกับทุกคนทุกสถานการณ์
แล้วท่านจะผ่านมันไปได้
โดยไม่ก่อกรรมใหม่และแก้ไขกรรมเก่าได้ด้วย

แน่นอนว่า "มหาสติ"
กับ "ปณิธานแห่งนิพพาน"
ลูกแก้ว 2 ดวงนี้เท่านั้น
ที่มันจะช่วยให้ท่านเข้าถึง
ความรักและความฉลาดทางปัญญา
ที่จะนำมาจัดการกับสาระพัดทุกข์ของท่านได้

วิถีแห่งจิตจักรวาล
จึงขอส่งความปรารถนาดีมาสู่ทุกท่าน
ให้ได้ค้นพบความมหัศจรรย์ในตนเอง
จากพระโอวาทเหล่านี้
ตามสมควรเถิด
ป.วิสุทธิปัญญา
เอเมน สาธุ
29-12-2015

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"



จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น