วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วิธี "การจัดการผลกรรมแต่อดีตชาติ"



พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะขอกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า

วิธี "จัดการผลกรรมแต่อดีตชาติ" ให้เป็นกลาง
เพื่อสะสางมวลขยะทางพลังงานในระบบโลก
ที่ตนเองได้ก่อไว้ให้หมดสิ้นไปในแต่ละกรณีกรรม
ดั่งพวกท่านเรียกว่า "สิ้นกรรม" นั้น

ในวิธีที่สองนี้.....
มีเงื่อนไขการใช้ก็ต่อเมื่อรู้ว่า....หรือ เมื่อไม่มั่นใจว่า
คู่กรณีกรรมของท่านรูปธรรมนั้นๆ
เขายอมรับความมีสำนึกของท่านในวิธีการที่หนึ่ง (ให้อภัย)
จากการร้องขออโหสิกรรม (ขออภัย) ของท่านหรือไม่

เพราะคู่กรณีกรรมของท่านรายนั้น
เขายังไม่หายโกรธเคืองขุ่นแค้น
เขายังแสดงอาการที่บ่งชี้ว่าตัวท่านเป็นปรปักษ์
หรือยังเป็นคนที่ไม่น่ารักสำหรับตัวเขาอยู่
นี่ย่อมแปลได้ว่า.....
พันธะกรรมของพวกท่านที่เกี่ยวเนื่องกันมา
มันยังคงค้างคาอยู่ดังเดิม

เพราะการสิ้นสุดยุติกรรมใดๆนั้น
ฝ่ายใดฝ่ายเดียวจะ "ยอม" อีกฝ่ายหนึ่ง
เพื่อเลิกแล้วต่อกันดื้อๆไม่ได้

ฝ่ายผู้กระทำผิดบาป
จักต้องยอมสำนึกผิดเพื่อขออภัย

ส่วนฝ่ายผู้ถูกกระทำผิดบาป
ก็จักต้องยอมสำนึกด้วยยินดีที่จะให้อภัย
โดยการหยิบยื่นความรักออกมาให้
เพื่อใช้พลังงานความรักในรูปของคลื่นแม่เหล็ก
ที่จิตของผู้จะให้อภัยนั้นผลิตมันออกมา
เพื่อจัดการชำระมวลขยะพลังงานกรรม
ซึ่งสั่งสมตกค้างอยู่ในสนามพลังงานของระบบโลก
ให้มันเป็นกลางเสียให้สิ้นนั่นเอง

ดังนั้น....
การที่จะช่วยให้คู่กรณีกรรม
มีสำนึกที่จะให้อภัยหรือให้อโหสิในกรรมนั้นๆได้
ท่านจะยังคงสั่นสะเทือนมัน
ด้วยการมีสำนึกแต่ที่ในจิตใจตนเอง
ตามวิธีที่หนึ่งอยู่อย่างนั้นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

แต่ท่านจักต้องให้ความร่วมมือช่วยเหลือเขา
เพื่อเสมือนเป็นการตอบแทนเขา
ด้วยการช่วยลดหย่อนผ่อนบรรเทา
ความทรงจำทางอารมณ์ขยะ
ที่มันยังคงบันทึกอยู่ในเบื้องลึกแห่งจิต
ติดต่อกันมายาวนานนับแต่ครั้งเกิดเหตุกันไว้ในอดีตนั่น
ถ้าเขาเลิกโกรธแค้นอาฆาตท่านได้
ความทรงจำทางอารมณ์ด้านลบ
ต่อกรณีกรรมนั้นๆภายในจิตวิญญาณของเขา
ก็จักสลายคลายไปในขณะเดียวกัน

การไม่เอาความหรือเลิกแล้วต่อกัน
ในพันธะกรรมนั้นจะเป็นอันยุติอย่างสิ้นเชิงได้

สันดานมนุษย์โลกเสรีที่คล้ายคลึงกัน
คือ มีทุกข์ต้องปลดทุกข์
ปวดท้องหนักก็ต้องถ่าย ถ่ายไม่ออกก็มีปัญหา
ปวดท้องเบาก็ต้องถ่าย ถ้าไม่ถ่ายออกมาปัญหาก็จะเกิด

ดังนั้น....
การเป็นทุกข์ทางใจ คือ
การปวดใจหรือการมีปัญหาทางอารมณ์นี่ก็เช่นกัน
มนุษย์จึงมักใช้วิธีเดียวกันคือถ่ายสิ่งที่ปวดอยู่ในใจนั้นออกมา
ซึ่งพวกท่านหมายถึง "การระบายอารมณ์" นั่นเอง

ต่อเมื่อท่านหรือเขาได้ระบายจนหายปวดแล้วนั่นล่ะ
ความสมดุลในจิตใจหรือความปกติในท้องไส้
จึงจะกลับคืนมาเป็นปกติ สบายใจสบายท้องดังเก่า

พวกท่านมีวิธีระบายกันหลายวิธีและหลายช่องทาง
หลายคนเรียกพฤติกรรมการระบายถ่ายทุกข์ทางจิต
ในทุกรูปแบบว่า "พฤติกรรมทางอารมณ์"
โดยถือว่าถ้าใครแสดงพฤติกรรมทางอารมณ์ใส่ใคร
แสดงว่ารายการ "แก้แค้น" เพื่อระบายทุกข์ทางจิต
กำลังเกิดขึ้นแล้ว....

ถ้าท่านเป็นฝ่ายถูกกระทำแล้วไม่กระทำตอบ
เพราะท่านฉลาดพอที่จะรู้เท่าทันกระบวนการยุติกรรมนี้ได้
ทั้งเขาและท่านก็จักสามารถจัดการผลกรรมแต่อดีต
ให้มันเป็นกลางได้อย่างสิ้นเชิง....

แปลว่าเมื่อเขาได้ระบายแล้ว
เขาก็จบคือหายปวดใจแล้ว
ผู้ถูกกระทำในภพชาตินี้คือท่านเองไม่กระทำตอบด้านลบ
เพราะมีสำนึกแห่งการร้องขออโหสิกรรม
ต่อเขาอยู่แล้วตั้งแต่แรก
และเข้าใจในกระบวนการที่เรากล่าวมาตั้งแต่ต้น
ท่านจึงได้มอบพลังงานความรักก้อนใหญ่ให้เขาไป
แทนที่จะเป็นฝ่ายรอให้เขาหยิบยื่นพลังแห่งรัก
จากการอโหสิให้ท่านก่อน ตามขั้นตอนปกติที่มันควรจะเป็น

พลังงานจิตด้านบวก ต่อกรณีกรรมเดียวกันนี้
ไม่ว่ามันจะเป็นของใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
มันก็สามารถใช้สลายมวลพลังงานขยะแห่งผลกรรม
ที่ดำรงอยู่ในโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกมายาวนาน
เพื่อรอเจ้าของมันจัดการชำระ
ด้วยการทำให้มันมีคุณสมบัติเป็นกลางทางไฟฟ้า
จนแตกสลายกลายเป็นอีเล็คตรอนอิสระ
โดยไม่จับกลุ่มรวมกันเป็นมวลใหญ่
ให้เกิดเป็นขยะรกฟ้าอยู่อีกตลอดไปได้ทั้งนั้น

นี่เป็นความลับเบื้องหลังมิติโลก
เป็นศาสตร์ด้านอภิปรัชญาบริสุทธิ์
ซึ่งมนุษย์ไม่รู้ว่าตนยังไม่รู้
หากท่านต้องการหลุดพ้นในภพชาติเดียวนี้
จงทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้กระจ่างเถิด
ด้วยการย้อนกลับขึ้นไปอ่านทบทวนทำความเข้าใจใหม่
ก่อนที่จะปฏิบัติตามคำสอนของเราต่อไป
ด้วยการ.....

ไม่ต่อสู้ ไม่ตอบโต้ ไม่ต่อต้าน และไม่หลีกเลี่ยง
ต่อการกระทำใดๆที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม
ไม่ดีงาม ที่เขาคนนั้นกระทำต่อตัวท่าน
โดยท่านมีหน้าที่แต่เพียงว่า
ท่านจะทำอย่างไร ท่านจะช่วยเหลือเขาอย่างไร
เพื่อจะให้เขา ลด ละ หรือเลิก การกระทำด้านลบนั้นเสีย
ด้วยการใช้สติปัญญาของท่าน
จัดการกับปัญหานั้นๆ
แทนการใช้อารมณ์เข้าไปกระทำตอบ
ดังเช่นปกติทั่วไป

เพียงเท่านี้....ผลกรรมด้านลบ ที่ค้างคามาแต่อดีตชาติ
ก็ถึงจุดจบพบความเป็นกลางได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว
เอเมน.....

ป.วิสุทธิปัญญา
22-09-2014

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"



จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น