วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อโหสิ....อโหสิ....อโหสิ



เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
การเกี่ยวกรรมกันของพวกท่าน
ล้วนเกิดได้จากเงื่อนไขเหล่านี้ คือ

1.คนหนึ่งกระทำไม่ถูกต้องต่ออีกคนหนึ่ง

2.คนที่ถูกกระทำเกิดอาการเสียสมดุลทางจิตใจ
เป็นโกรธ เกลียด เคียด แค้น

3.คนที่ถูกกระทำ
เมื่อเสียสมดุลทางจิตแล้ว
มีการกระทำตอบด้านลบกลับคืน

จนยังผลให้คนที่เป็นฝ่ายริเริ่มกระทำคนแรก
เสียสมดุลไปทางด้านลบบ้างเมื่อถูกตอบโต้เข้าให้
จนเกิดการต่อสู้ ตอบโต้ ต่อต้านกันไปมา
การเกี่ยวกรรมกันมันจึงเกิดขึ้น

4.ขณะบางคนที่ถูกกระทำด้านลบโดยผู้อื่นก่อน
เมื่อเสียสมดุลทางจิตใจแล้ว
ก็ได้แต่ผูกใจเจ็บแค้นอยู่อย่างนั้น
เพราะไม่สามารถกระทำตอบด้านลบใดๆคืนได้
การเกี่ยวกรรมกันมันจึงเกิดขึ้น

5.เราใคร่ถามท่านทั้งหลายว่า
เมื่อใดที่ท่านเป็นฝ่ายถูกกระทำที่ไม่ถูกต้อง
ผ่านทางหู ทางตา หรือทางร่างกาย
จนเข้าไปกระทบจิตใจท่านให้เกิดการเสียสมดุลนั้น

มันจึงมีปัญหาเฉพาะหน้า
ให้ท่านได้เผชิญอยู่ 2 ปัญหา คือ
1).ปัญหาทางจิตของท่านเองที่กำลังเสียสมดุลอยู่
2).ปัญหาจากคนที่กระทำไม่ถูกต้องที่ยั่วยุท่าน

คำถาม คือ สองปัญหานี้
ปัญหาใดเป็นปัญหาใหญ่ของท่าน
อันควรได้รับการแก้ไขก่อน????

จะจัดการ "ไอ้เวรนั่น" ที่เขาทำให้ท่านเสียสมดุลหนัก
หรือจะจัดการ "ไอ้เวรนี่" คือ
จิตของท่านเองที่กำลังป่วยหนักเพราะเสียสมดุลอยู่

6.ส่วนมากท่านจะเลือกจัดการแต่ "ไอ้เวรนั่น"
แล้วปล่อย "ไอ้เวรนี่" คือ จิตตนเองเอาไว้
โดยปล่อยให้มันทุรนทุรายอยู่อย่างนั้น
เสมือนเข้าใจว่าถ้าได้แก้แค้นแล้ว
สภาวะจิตตนเอง คือ ไอ้เวรนี่
จะเกิดการผ่อนคลายหายป่วยได้เช่นนั้นแหละนะ

ที่ผ่านมาในชีวิตอดีตของท่านนั้น
ในยามที่สภาวะจิตสงบแล้ว
ท่านก็รู้ดีว่าการปฏิบัติเช่นนั้น
เป็นการทำผิด! คิดผิด!!

เพราะที่ถูกต้องแล้วท่านต้องจัดการ
แก้ปัญหาที่ในจิตของตัวท่านเอง
จะถูกต้องกว่าและง่ายกว่าด้วยซ้ำไป
ท่านจึงสามารถจะ "หยุด"
หรือ "ตัด" การเกี่ยวกรรมนั้นได้

โดยสิ้นสุดยุติกงล้อแห่งกรรมนั้นได้
ก็ด้วยตัวท่านเองโดยแท้
ใช่คนอื่นก็หาไม่...

7.วิธีเดียวที่ท่านจะสามารถตัดกรรมนั้นได้ทันที!!!!
ในกรณีที่ท่านเป็นฝ่ายถูกกระทำไม่ถูกต้อง
โดยให้ท่านจงยุติมันไว้ด้วยพยางค์สั้นๆว่า

โอ้โหสิ....โอ้โหสิ...โอ้โหสิ.....

ท่านจำได้รึไม่ว่า
เวลาท่านประสบเหตุร้ายๆน่าตกใจกลัวมากๆ
เช่น เห็นรถชนกันแรงๆ
เห็นมอเตอร์ไซด์ล้มคว่ำคนขี่กระเด็น
เห็นอะไรที่น่าหวาดเสียว
ท่านจะอุทานว่ากระไรล่ะ.....นอกจากร้องว่า
"โอ้โห...โอ้โห....ขนาดนั้นเลยเหรอ"
เพียงไม่นานนักจิตของท่านก็จะสงบลงเป็นปกติ
ใช่หรือเปล่าล่ะ....???

ท่านรู้มั้ยว่า....คำอุทานที่ว่า "โอ้โหๆๆๆ"
เป็นภาษาจิตที่เป็นสากล
เป็นพยางค์สั้นๆแต่ศักดิ์สิทธิ์
ไม่ต่างไปจากคำว่า "อะอุมะ หรือ โอม!" หรอกนะ

หากเมื่อใดที่ท่านตกใจ ตื่นกลัว หวาดเสียว
เสียสมดุลทางจิตใจที่รุนแรงแล้ว
จงระลึกถึงคำนี้และความหมายที่เราเปิดเผยนี้
แล้วภาวนาซ้ำๆกันไปเรื่อยๆ
ขณะภาวนาหรือท่องมนต์นี้อยู่
จงอย่าเอาจิตไปไว้ที่อื่นหรือไม่นึกถึงเรื่องอื่น
นึกอย่างเดียว ท่องอยู่อย่างเดียวจนกว่าจะดีขึ้น
คือ โ้อโหๆๆๆๆๆๆๆๆ......
แล้วทุกอย่างที่อัศจรรย์ก็จะบังเกิดแก่ท่านเอง

8.ดังนั้น.....
เราจึงขอมอบ "กฤตสติ" เล่มนี้ให้แก่ท่าน
จงรับเอาไว้เป็นอาวุธประจำกาย
เอาไว้หั่นความแค้นเคืองอาฆาตในจิตท่าน
ทุกครั้งที่ถูกกระทำร้ายๆ
จงรีบร้องคำว่า "โอ้โหสิ! โอ้โหสิ! โอ้โหสิ!"
โดยไม่คิดเรื่องอื่นสอดแทรกขึ้นมา

เมื่อท่านกล่าวเร็วๆ ท่านก็จะกล่าวกับตนเองว่า
อโหสิ....อโหสิ....อโหสิ....

เรามอบกฤตสติแก่ท่านแล้ว
ไปนิพพานกลับบ้านของพวกเรากันเถิดนะ
เราจุดตะเกียงและเติมน้ำมันอีกหนึ่งหยดให้ท่านแล้ว
เชิญรับไปสิ....รับมั้ย?

เอเมน...สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา
27-05-2015

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"



จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น