วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2558

เพราะลืมมิติแก่นแท้ จึงหลุดพ้นไม่ได้

เรายังมีความจริง...
ที่จำต้องกล่าวต่อท่านทั้งหลายถึงสาเหตุที่
ท่านกลับบ้านหรือนิพพานไม่ได้อยู่อีกว่า
เป็นเพราะท่านน่ะลืมมิติของแก่นแท้นั่นเอง

หากท่านลืมใน 3 ลืม ต่อไปนี้แล้ว
นั่นเท่ากับว่าท่านได้สร้างปัญหาหรืออุปสรรค
ให้แก่จิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของท่านเองแล้ว

1.ลืมตัว:
หมายถึง การเป็นผู้ขาดสติสัมปชัญญะ
ในการดำเนินชีวิต...
จนไม่อาจเข้าถึงการใช้สติปัญญาและปัญญาญาณได้
เพราะถูกกิเลสตัณหาครอบงำ

นานปีเข้า
หลายภพชาติเข้า
ท่านก็จะเป็นคนหนึ่งที่ประมาทและขาดสติ
จนก่อกรรมทำชั่วได้โดยง่ายดาย

ที่จะหนักหนามากไปกว่านั้นก็คือ
ท่านจะเป็นคนหนึ่งที่ก่อกรรมทำชั่วได้
โดยไม่รู้ตัวว่าชั่วเลยสักนิดเดียว

2.ลืมตน:
หมายถึง ท่านลืมไปว่าตนเองหรือจิตหยาบนั้น
ยังมีจิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของท่าน
แฝงเร้นอยู่ข้างใน
ซึ่งแฝงอยู่ตรงพิกัดที่เราเคยเปิดเผยให้แล้วนั่นแหละ



การลืมแก่นแท้ตนเองของท่านนั้น
จะอยู่ในลักษณะของการแสดงออก
หรือการกระทำใดๆในชีวิตประจำวัน
โดยขาดการยั้งคิด หรือ
โดยการกระทำตามอำเภอใจ เป็นต้น

3.ลืมตื่น:
หมายถึง การที่ท่านบางคนไม่ยอมหันหน้า
เพื่อพาหูทั้งสองข้างมารับฟังเรา
ที่กำลังกล่าวพระโอวาทในพระนามแห่งพระบิดา
ต่อท่านทั้งหลายในปลายยุคพลังงานเก่านี้
เสมือนคนนอนหลับมิยอมตื่น
แม้จะมีสำเนียงร้องปลุกให้ลุกตื่น

หรือการรับฟังแล้วปฏิเสธทันทีที่ได้ฟัง
หรือเมื่อมีการรับรู้แล้วต่อต้าน
โดยไม่ยอมสั่นสะเทือนจิตตปัญญาเพื่อการเรียนรู้ใดๆ

การลืมในสามประการที่กล่าวนี้
เป็นการลืมที่มีผลต่อแก่นแท้ในทางเสื่อมทั้งสิ้น
เมื่อแก่นแท้เสื่อมพลังอำนาจลง
การหลุดพ้นจึงเป็นจริงไม่ได้ในภพชาตินั้นๆ

เอเมน.....
ป.วิสุทธิปัญญา
16-03-2015

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"



จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น