เราจะกล่าวความจริงต่อท่านท
1.เมื่อ #จิตวิญญาณ ผู้เป็นแก่นแท้ของท่าน
เดินทางข้ามมิติมาสู่การเกิ
ด้วยการเข้าปฏิสนธิทางวิญญา
กับเครื่องยนต์แห่งกรรมที่ถ
ภายในครรภ์ของมารดาแล้วนั้น
จิตวิญญาณของท่าน
จะแบ่งภาคทางพลังงานออกมาส่
เพื่อให้ทำหน้าที่แทนตนเอง
ในการควบคุมดูแลและสั่งการ
เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรม
ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
กระทั่งคลอดออกมาตราบจนเติบ
ไปจนถึงวันจบสิ้นอายุขัย
2.ตัวแทนของแก่นแท้ผู้ได้รั
พวกท่านทั้งหลายเรียกว่า #จิตหยาบ
ส่วนจิตวิญญาณเองนั้น
จะลดบทบาทตัวเองลงเหลือแค่เ
ทำหน้าที่เป็นเสมือน "แบตเตอรี่"
ที่จะคอยให้พลังงานไฟฟ้า
หล่อเลี้ยงเครื่องยนต์แห่งก
หรือกายหยาบเท่านั้น
ซึ่งหน้าที่ของจิตวิญญาณในส
ไม่ต่างจากแบตเตอรี่รถยนต์
ถ้ารถยนต์ไม่มีแบตเตอรี่ก็จ
เมื่อติดเครื่องไม่ได้รถยนต
ก็จะใช้งานไม่ได้ที่เรียกว่
พวกท่านก็เช่นกัน
ถ้าไม่มีจิตวิญญาณมาปฏิสนธิ
เครื่องยนต์แห่งกรรมก็มีชีว
ถ้ามีชีวิตอยู่ดีๆแล้วจิตวิ
คือละออกจากกายหยาบกระทันหั
เครื่องยนต์แห่งกรรมของท่าน
มันไม่ต่างกันหรอก
3.ดังนั้น
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
จึงทำหน้าที่เปรียบเสมือนเจ
ที่มักจะนั่งเบาะหลังเสมอ
ส่วน "จิตหยาบ" จึงเสมือนเป็นคนขับรถ
ที่จะต้องดูแลเครื่องยนต์แห
หรือกายหยาบรูปธรรมมนุษย์อย
อีกทั้งต้องขับรถคันนี้ไปไห
ตามที่เจ้าของรถหรือเจ้านาย
จะขับรถไปเฉี่ยวชนใคร
จะขับไปตกหลุมตกท่อเพราะประ
จะขับปรู๊ดปร๊าดทำหวาดเสียว
จิตหยาบจะต้องรู้ว่า
จิตวิญญาณของตนต้องการให้ทำ
ไม่ต้องการให้ทำสิ่งใดบ้างใ
ไม่ใช่ทำตัวลอยไปลอยมา
ไม่ใช่ทำตามอำเภอใจตนเอง
มิหนำซ้ำยังปฏิเสธ
การมีจิตวิญญาณของตนอีกต่าง
4.ด้วยเหตุนี้เอง
จิตหยาบจึงต้องรู้ว่าจิตวิญ
เพื่อมอบความรักหรือพลังงาน
จิตหยาบจะสั่นสะเทือนเป็นกิ
เพราะมันจะผลิตพลังลบออกมา
จนทำให้เมฆฟ้าสกปรกด้วยประจ
ซึ่งเป็นพลังงานที่โลกไม่ต้
แน่นอนว่าจิตหยาบนั้น
จะต้อง #หมุนธรรมจักร ในตนเองให้สำเร็จให้ได้
การมาเกิดของจิตวิญญาณของพว
จึงจะบรรลุวัตถุประสงค์ทางจ
เอเมน สาธุ
กราบพระบาทพระบิดา
ป.วิสุทธิปัญญา
29-10-2016
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"
จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น