วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558

นิยามแห่งการมีชีวิตที่ดี




เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ถ้าท่านมีชีวิตที่ดีอยู่บนโลกนี้
ดาวโลกดวงนี้ก็จักเป็นดั่งสวรรค์สำหรับท่าน

ถ้าท่านมีชีวิตที่ดีอยู่ในประเทศนี้
ประเทศนี้ก็จักเป็นดั่งสวรรค์สำหรับท่าน

ถ้าท่านมีชีวิตที่ดีอยู่ในสังคมนี้
สังคมนี้ก็จักเป็นดั่งสวรรค์สำหรับท่าน

ถ้าท่านมีชีวิตที่ดีอยู่ในครอบครัวนี้
ครอบครัวนี้ก็จักเป็นดั่งสวรรค์สำหรับท่าน

ท่านจะเห็นได้ว่า
ชีวิตที่ดีๆจากโลกส่วนตัวของท่าน
จนขยับขยายไปสู่ชีวิตที่ดีบนโลกที่ใหญ่กว่านั้น
เป็นท่านนั่นเองจักต้องสร้างมันขึ้นมา
ด้วยจิตตปัญญาแห่งรักและการให้

โดยนิยามแห่งการมีชีวิตที่ดีก็คือ

1.การไม่มีศัตรู ที่จะคอยทำตนเป็นอุปสรรค
ในการดำเนินชีวิตของท่าน

2.การไม่เปลี่ยนมิตรไปเป็นศัตรู
เพราะการมักง่าย ไร้มหาสติ ของตัวเอง

คนที่เปลี่ยนมิตรไปเป็นศัตรู
คือบุคคลที่มีพฤตินิสัยด้านลบดังนี้...

กระทำการก้าวล่วงผู้อื่นด้วยวาจาอยู่เป็นนิจ
เช่น ปากเปราะเราะราน เสือก แส่ นินทา ว่าร้าย

จึงยังผลให้เป็นคนปากเสีย....
คือ ปากพิการ!

กระทำการก้าวล่วงผู้อื่นด้วยจิตใจอยู่เป็นนิจ
เช่น หมั่นไส้ นึกลบ

จึงยังผลให้เป็นคนจิตเสีย....
คือ จิตพิการ!

กระทำการก้าวล่วงผู้อื่นด้วยสายตาอยู่เป็นนิจ
เช่น อิจฉา ริษยา ตาร้อน ดูหมิ่นดูแคลน

จึงยังผลให้เป็นคนตาเสีย....
คือ ตาพิการ!

กระทำการก้าวล่วงผู้อื่นด้วยกายอยู่เป็นนิจ
เช่น การลักโขมย การฉ้อฉล การแก่งแย่ง
การจี้ปล้น การทำร้ายร่างกาย
การเอาเปรียบ การเบียดเบียน
หรือการกระทำทางกายใดๆ
อันเป็นเหตุแห่งทุกข์ของคนอื่นๆ เป็นต้น

จึงยังผลให้เป็นคนที่อวัยวะของสังขารนั้นเสีย....
คือ อวัยวะร่างกายนั้นๆพิการ!

ดังนั้น...
ใครที่ติดนิสัยด้านลบเหล่านี้เป็นอาจิณ
อย่างน้อยในหนึ่งภพชาติข้างหน้า
อายตนะและอวัยวะที่พิการนั้น
มันจะกลายเป็น "ผลลัพธ์" หรือ "ผลกรรม"
อันเกิดจากการกระทำผิดบาปของตน
เอาไว้ในภพชาตินี้แทบทั้งสิ้น

การมีชีวิตที่ดี...จึงมีตัวชี้วัดอยู่ที่
ความสุข ความสงบ
กับความสว่างใสที่ในจิตตปัญญาของท่าน
ซึ่งไม่มีวันเสื่อมคลาย

การมีชีวิตที่ดี...มิได้มีตัวชี้วัดอยู่ที่
ความร่ำรวยสินทรัพย์ อำนาจ และวาสนา
ซึ่งสิ่งนอกกายเหล่านี้เป็นมายา
ที่สังคมมนุษย์สมมติขึ้น
ซึ่งมีแต่ความเสื่อมในบั้นปลายไม่จีรังแต่อย่างใด

ท่านหนักเหนื่อย...
อยู่กับการแสวงหาชีวิตที่ดีๆรายรอบตัวมานานแล้ว
หากก้มลงมามองมาพิจารณาที่ในใจของท่านกันเสียบ้าง
ท่านจะแปลกใจว่า...แท้จริงแล้วสิ่งที่ท่านค้นหานั้น
มันอยู่ในจิตตปัญญาของท่านมาตั้งนานแล้ว...

เอเมน...สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา
5-06-2015

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"



จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น