วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

"ปลากับ 56 วัน 8 ราตรี"

เราจะกล่าวความจริง
ต่อฝูงปลาทั้งหลาย ที่จะ "ถูกคัดไว้"
ในนิทานเรื่อง "ปลากับ 56 วัน 8 ราตรี" ว่า

แม้ท่านจะเป็นปลาตัวที่อยู่ในข่ายที่จะถูกคัดไว้ก็ตาม
แต่ท่านก็อาจมีชีวิตรอดอย่างบอบช้ำได้
ถ้าหากท่านเป็นปลาที่ยังไร้ "กฤติสติ"
และเป็นปลาที่ไม่อยู่ใน "ธรรมชาติสมาธิ"
ตามวิถีแห่งจิตจักรวาล

การมีชีวิตรอดอย่างบอบช้ำดังว่านี้
มันจะเกิดได้เผชิญได้หลายรูปแบบด้วยกัน
เป็นต้นว่า.....

1.ปลาบางตัวที่จะถูกคัดไว้
อาจต้องถูกกลบฝังอยู่
ภายใต้ทรากปรักหักพังนานหลายวัน

2.ปลาบางตัวที่จะถูกคัดไว้
อาจต้องลอยคอท่ามกลางคลื่นลม
อย่างเดียวดายอยู่หลายวัน

3.ปลาบางตัวที่จะถูกคัดไว้
อาจตื่นตกใจกลัวสุดขีดหรือช็อคจนสติแตก...ไม่รู้สติ
ยาวนานร่วม 6 ปี กว่าสติดีจะกลับคืนมา

4.ปลาบางตัวที่จะถูกคัดไว้
อาจได้รับอันตรายจากสายฟ้าฟาด
อาจได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติภัยร้ายๆ
เพราะไปอยู่ผิดที่ ผิดทาง ผิดเวลา
เนื่องจากสัญชาตญาณใช้การไม่ได้

ตัวอย่างของปลาทั้ง 4 ประเภทนี้
มันจะเกิดขึ้นกับปลาดีๆที่จะถูกคัดไว้
ด้วยสองสาเหตุดังต่อไปนี้

1.ไม่มีกฤติสติ....
คือ ไม่เรียนรู้และไม่รับรู้ข้อมูลข่าวสาร
ที่เกี่ยวกับปฏิบัติการชำระโลก
เพื่อเตรียมตนเองและจิตวิญญาณ
สำหรับการผจญภัยเอาไว้ล่วงหน้าแต่เนิ่นๆว่า

มันจะเกิดพิบัติภัยอะไรขึ้นบ้าง
มันจะเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
ทำไมมันจึงต้องเกิด
ห้ามมันไม่ให้เกิดจะได้ไหม

เมื่อถึงคราวเผชิญหน้ามหาวิกฤติแล้ว
ปลาอย่างท่านจักต้องทำตนอย่างไรจึงจะรอด

ถ้าปลาไม่รู้ต้นสายปลายเหตุว่า
ที่มาที่ไปมันเป็นอย่างไร
เช่น ไม่รู้ว่าโลกจะมืดนาน 8 ราตรีของฟ้า
หรือว่า 56 วันของโลกมนุษย์
เมื่อต้องเผชิญกับความมืดมิดแค่ข้ามวันผ่านคืน
ปลาทั้งหลายก็ควรเตรียมตัวสติแตก
เพราะความไม่รู้กันได้แล้ว

แต่คงจะมีเพียงปลาที่มีกฤติสติเท่านั้น
ที่จะสามารถเผชิญสถานการณ์เลวร้ายนั้น
ด้วยการข้ามผ่านฟันฝ่ามันไปอย่างสงบใจได้

เพราะรู้ล่วงหน้ามาแล้วว่ามันมืดมิดเพราะอะไร
และรู้ก่อนแล้วว่ามันจะมืดนานเท่าใด

เมื่อปลาเหล่านี้ขาดกฤติสติ
โอกาสที่ปลาเหล่านี้จะขาดสติจึงมีสูงยิ่ง

เพราะเสียงลมซึ่งหวีดหวิวจนแสบแก้วหู
โดยมิอาจรู้ทิศทางที่มาแต่ไกลๆ
เพราะเสียงคลื่นเททะเลคลั่งซึ่งดังสะท้าน
เพราะแรงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นของพสุธา
เพราะเสียงฟ้าระเบิดลั่นนานเป็นนาที

สถานการณ์เยี่ยงนี้
ปลาที่ไม่มีกฤติสติเป็นเกราะป้อง
ล้วนจักต้องสติแตกเป็นแม่นมั่น
แม้ว่าปลาตัวนั้นอยู่ในข่ายถูกคัดไว้แล้วก็ตาม

2.ไม่มีธรรมชาติสมาธิ...
คือ เป็นจำพวกปลาที่ดีแต่ไม่มีธรรมวิถีจิตจักรวาล

เพราะวันๆเอาแต่นั่งหลับตาอยู่ในวิเวก
คงได้แต่เสกจิตให้สงบ
ท่ามกลางความเงียบอยู่คนเดียว

เพราะตราบอดีตจนปัจจุบัน
ปลาพวกนี้หมั่นเดินถ่างขากันมาโดยตลอด
ด้วยการหยิบวิธีนักบวชมาใช้ปฏิบัติ
ทั้งๆที่ตนเองเป็นปลาแบบฆราวาส

เมื่อถึงคราต้องผจญภัย
ก็จะได้รู้ว่าการนั่งหลับตาฝ่าวิกฤติร้ายๆในข้อ 1
ตามวิธีที่ตนฝึกฝนกันมานานจนเชี่ยวชาญแล้วนั้น
มันไม่สามารถที่จะช่วยหยุดอาการสติแตก
เพราะความตื่นตกใจกลัวภัยร้าย
ที่ตนไม่เคยเจอมาก่อนนั้น...ได้เลย

แต่ปลาตัวที่ฝึก "มหาสติ"
อันเป็นธรรมชาติสมาธิในชีวิตประจำวัน
ตามวิถีแห่งจิตจักรวาลกันล่วงหน้ามานานปี
จะเป็นปลาจำพวกที่ไม่หวั่นไหว
ไปกับภัยร้ายเหล่านี้เลย....

นิทานของเราและคำกล่าวเรื่องปลาทั้งหมดนี้
มิได้ต้องการจูงใจให้ปลาตัวไหนเชื่อ
มิได้ต้องการสร้างเงื่อนไขให้ปลาตัวไหนไม่เชื่อ

เพราะบัดนี้...
พระบิดาได้ทรงพิพากษา
ด้วยการให้ชาวประมงลงมือ "คัดปลา" กันอย่างเข้มแข็งแล้ว
ปลาตัวไหนจะเชื่อไม่เชื่อนิทานของเราที่เล่ามา
ปลาตัวนั้นก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลง
สาระสำคัญใดในนิทานของเราได้หรอก

เอเมน...สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา
19-02-2015




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ถ้ายุคใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ยุคนั้นมนุษย์ต้องทำสงครามกับภัยธรรมชาติเสมอ"



จิตสำนึกตกต่ำ หมาย ถึง มนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณของสมองได้ ดีแต่ใช้อารมณ์รู้สึกกับการนึกของจิตขับเคลื่อนพฤติกรรม และดีแต่ท่องจำข้อธรรมะเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงได้เลย ตัวอย่างเช่น การคิดลบต่อผู้อื่น กล่าวร้ายต่อผู้อื่น หรือการใช้วาจาเหยียดหยามถากถาง จาบจ้วงผู้อื่น เป็นต้น