#จุดแข็งของคนขี้ลืม
คนขี้ลืม หมายถึง คนที่มีความจำสั้น
จำอะไรๆได้ไม่นาน
พอกาลเวลาผ่านไปแค่หน่อยเดี ยว
หรือหันเหความสนใจไปเรื่องอ ื่น
โดยหันไปทำอย่างอื่นแค่แป้ป เดียว
ท่านก็ลืมเรื่องเดิมที่ว่าน ั้นไปแล้ว
ซึ่งระยะเวลาในการจำได้
ในแต่ละคนในแต่ละเรื่องราวเ ดียวกัน
ก็ยาวนานไม่เท่ากัน
ในระยะเวลายาวนานเท่ากัน
จำนวนเรื่องราวที่แต่ละคนจะ ลืมนั้น
มันก็ยังไม่เท่ากันอีกต่างห าก
ดังนั้น
คนที่ลืมเรื่องนั้นเรื่องนี ้เรื่องโน้นมากกว่าคนอื่น
ภายในระยะเวลาที่เรียนรู้รั บรู้เรื่องนั้นๆมาเท่ากัน
คนจำพวกนี้ก็เป็นประเภท "ขี้ลืม" เบื้องต้น
ส่วนคนที่เป็นจำพวกความจำสั ้น
คือ จำอะไรได้ไม่นานแล้วก็ลืมนั ้น
คนจำพวกนี้ก็ต้องยกให้เป็นป ระเภท
"ขี้หลงขี้ลืม" น่าจะได้
เช่น เอาผ้าคะม้าคาดหัวไว้เมื่อค รู่
ผ่านมาแป้ปเดียวก็เที่ยวหาย กใหญ่
ว่าผ้าคะม้าหายไปไหนหว่า... หาไม่เจอ
สงสัยว่าเอาไปวางไว้ที่นั่น ที่นี่
หรือมีใครเอาของท่านไป
นี่ก็คือจำพวกขี้หลงขี้ลืมน ั่นแหละนะ
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านท ั้งหลายว่า
ทั้งหมดที่กล่าวมาตั้งแต่ต้ นนี้
มันเป็นลักษณะนิสัยของคนขี้ ลืมทั่วๆไป
ซึ่งเป็นโครงสร้างทางจิตวิท ยาที่อ่อนแอ
อันเป็นด้านจุดอ่อนของคนขี้ ลืมทั้งสิ้น
แต่สำหรับบทความนี้
เรากำลังจะกล่าวถึง "จุดแข็ง"
ของคนขี้ลืมกันเป็นการเฉพาะ
ซึ่งจุดแข็งของคนขี้ลืมที่ว ่านี้ก็คือ
ความ "จำได้-หมายรู้"
ในสิ่งที่ตนสมควรลืม
ในที่นี้เราจะจำแนกคนออกเป็ น 2 จำพวก
จำพวกแรก คือ "การจำได้"
กับจำพวกที่สอง คือ "การหมายรู้"
สำหรับการจำได้นั้นเราหมายถ ึง
การจดจำเรื่องราว เหตุการณ์ และบุคคล
ที่เป็น "สิ่งไม่ดีงาม" หรือเป็นสิ่ง "ชั่วร้าย"
หรือสิ่ง "เลวทราม" ที่ไม่ดีในชีวิตตนเอง
โดยท่านจะจำมันได้ทั้งๆที่ไ ม่อยากจำ
เข้าทำนองยิ่งอยากจำจะกลับล ืม
ยิ่งอยากลืมจะกลับจำนั่นล่ะ
สาเหตุที่คนทั้งหลายมีจุดแข ็งในกรณีนี้
เพราะคนทั่วไปมักอยากจำแต่ส ิ่งดีๆ
ส่วนสิ่งที่ไม่ดีก็อยากจะลื มมันไปให้พ้นๆ
ซึ่งท่านทั้งหลายจะต้องรู้ว ่า
ธรรมชาติของมนุษย์มีหน้าที่ "ต้องเรียนรู้"
เพื่อพัฒนาจิตและปัญญาของตน เองไว้
สิ่งที่เป็นความล้มเหลว
สิ่งที่เป็นความผิดพลาดใดๆใ นชีวิต
หรือเรื่องเลวร้ายต่างๆที่ต นเองไม่ปรารถนานั้น
คนส่วนใหญ่มักไม่มีใครอยากจ ำเรื่องลบๆ
เพราะระลึกขึ้นมาได้ทีไรเป็ นทุกข์ใจทุกที
ท่านจักต้องรู้ว่า
การที่ธรรมชาติไม่ยอมให้ท่า นลืมเรื่องแบบนี้
ก็เพราะต้องการให้ท่านใช้
เป็นบทเรียนในอนาคต
เพื่อที่จะไม่ต้องผิดพลาดเช ่นปัจจุบันอีก
ธรรมชาติจึงไม่ยอมให้ท่านลื มมัน
แม้จะพยายามลืมกันก็ตาม
นี่จึงนับเป็นจุดแข็งของคน "ขี้ลืม"
ที่เป็นจำพวกแรก
จำพวกที่สองซึ่งเป็นจุดแข็ง ของคนขี้ลืม
นั่นคือ "การหมายรู้"
การหมายรู้ หมายถึง
การจดจำอารมณ์รู้สึกที่ไม่ด ีงาม
หรืออารมณ์รู้สึกด้านลบของต นเอง
ขณะเสียสมดุลเอาไว้แบบฝังใจ จำ
เพราะถูกใครคนหนึ่งกระทำในส ิ่งไม่ถูกต้อง
หรือพบเจอสถานการณ์ด้านลบ
ที่ทำให้ตนเองเสียสมดุลทางจ ิตใจรุนแรง
การจำได้หมายรู้อารมณ์ไม่ดี เยี่ยงนี้
ถ้าระลึกถึงมันขึ้นมาเมื่อไ หร่
สภาวะจิตก็จะเกิดอาการเสียส มดุลไปทันที
โดยไม่ต้องมีคนเดิมหรือสถาน การณ์เดิม
มาเป็นเงื่อนไขด้านลบให้ท่า นอีก
ท่านก็จะสามารถระลึกถึงเหตุ การณ์เดิมในอดีต
รวมทั้งจะระลึกถึงคนเดิมในอ ดีตนั้นได้ด้วย
ถ้าท่านมีอาการเป็นแบบนี้ใน ชีวิต
แม้ว่าเรื่องราวหรือเหตุการ ณ์ดังกล่าวนั้น
มันจะผ่านมาเนิ่นนานนับเป็น ปีๆแล้วก็ตาม
เราจะเรียกอาการทางจิตเช่นน ี้ว่า
"อาฆาต"
ดังนั้น
คำว่า "อาฆาต" จึงหมายถึง
การจดจำอารมณ์ไม่ดีของตนไว้
พร้อมกับจดจำคนที่เป็นเงื่อ นไข
ให้ท่านเกิดอารมณ์ไม่ดีนั้น ไว้ได้ไม่รู้ลืม
แต่ถ้าท่านจดจำอารมณ์ไม่ดี
พร้อมคนที่ทำไม่ดีกับท่านได ้
โดยคอยจ้องจะหาโอกาสแก้แค้น อยู่
เราจะเรียกอาการทางจิตเช่นน ี้ว่า
"เคียดแค้น"
ยิ่งถ้าท่านจดจำอารมณ์ไม่ดี ของตนเอง
พร้อมจำคนที่ทำไม่ดีต่อท่าน ได้
โดยคอยหาโอกาสแก้แค้นเอาคืน
แม้ว่ามันจะข้ามผ่านภพชาติม าแล้วก็ตาม
เราจะเรียกอาการทางจิตเช่นน ี้ว่า
"ผูกพยาบาท"
คนที่มีอาการทางจิตทั้ง 3 แบบนี้
เป็นคนที่มีสภาวะจิตเต็มไปด ้วยความทุกข์
ที่เป็นความทุกข์ก็เพราะจิต ใจไม่สงบ
จึงยังผลให้กลายเป็นคนวู่วา มขาดสติง่าย
มีอารมณ์ก้าวร้าวรุนแรงโมโห ร้าย
ชอบใช้อารมณ์นำหน้าเหตุผลเส มอ
แต่คนที่มีจิตผูกพยาบาท
จะแย่กว่าคนอีกสองจำพวก
เพราะนอกจากจะทุกข์ใจในชาติ นี้แล้ว
จิตวิญญาณยังจะต้องแบกทุกข์ ที่ว่านี้
ข้ามภพชาติไปอีกต่างหากด้วย
เพื่อมุ่งแก้แค้นเอาคืนให้จ งได้
ใครคบคนที่มีจุดแข็งในแบบคน ขี้ลืมนี้
ก็ต้องระวังพฤติกรรมหรือสำร วมกันหน่อย
เผลอพลั้งพลาดไปจะเกิดความข ัดแย้ง
ในหมู่พวกเดียวกันได้ง่ายๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่จะชี้แนะท่า นทั้งหลายไว้ก็คือ
จงอย่าพยายามลืมเรื่องร้ายๆ ในชีวิต
โดยไม่พยายามที่จะศึกษาเรีย นรู้ให้ได้ว่า
องค์ความรู้ที่ดีและมีประโย ชน์
จากสถานการณ์ด้านลบที่ตนเอง ไม่ชอบนั้นน่ะ
มีอะไรน่าเรียนรู้ไว้เป็นปร ะสบการณ์บ้าง
จงอย่ายอมให้มันผ่านไปโดยไร ้ประโยชน์
ส่วนอารมณ์ที่ไม่ดีนั้น
ให้รีบปล่อยวางมันเสียให้สิ ้น
เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเ ลย
แถมจะทำให้แก่เร็วและอายุสั ้นอีกด้วย
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
29-3-2017
คนขี้ลืม หมายถึง คนที่มีความจำสั้น
จำอะไรๆได้ไม่นาน
พอกาลเวลาผ่านไปแค่หน่อยเดี
หรือหันเหความสนใจไปเรื่องอ
โดยหันไปทำอย่างอื่นแค่แป้ป
ท่านก็ลืมเรื่องเดิมที่ว่าน
ซึ่งระยะเวลาในการจำได้
ในแต่ละคนในแต่ละเรื่องราวเ
ก็ยาวนานไม่เท่ากัน
ในระยะเวลายาวนานเท่ากัน
จำนวนเรื่องราวที่แต่ละคนจะ
มันก็ยังไม่เท่ากันอีกต่างห
ดังนั้น
คนที่ลืมเรื่องนั้นเรื่องนี
ภายในระยะเวลาที่เรียนรู้รั
คนจำพวกนี้ก็เป็นประเภท "ขี้ลืม" เบื้องต้น
ส่วนคนที่เป็นจำพวกความจำสั
คือ จำอะไรได้ไม่นานแล้วก็ลืมนั
คนจำพวกนี้ก็ต้องยกให้เป็นป
"ขี้หลงขี้ลืม" น่าจะได้
เช่น เอาผ้าคะม้าคาดหัวไว้เมื่อค
ผ่านมาแป้ปเดียวก็เที่ยวหาย
ว่าผ้าคะม้าหายไปไหนหว่า...
สงสัยว่าเอาไปวางไว้ที่นั่น
หรือมีใครเอาของท่านไป
นี่ก็คือจำพวกขี้หลงขี้ลืมน
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านท
ทั้งหมดที่กล่าวมาตั้งแต่ต้
มันเป็นลักษณะนิสัยของคนขี้
ซึ่งเป็นโครงสร้างทางจิตวิท
อันเป็นด้านจุดอ่อนของคนขี้
แต่สำหรับบทความนี้
เรากำลังจะกล่าวถึง "จุดแข็ง"
ของคนขี้ลืมกันเป็นการเฉพาะ
ซึ่งจุดแข็งของคนขี้ลืมที่ว
ความ "จำได้-หมายรู้"
ในสิ่งที่ตนสมควรลืม
ในที่นี้เราจะจำแนกคนออกเป็
จำพวกแรก คือ "การจำได้"
กับจำพวกที่สอง คือ "การหมายรู้"
สำหรับการจำได้นั้นเราหมายถ
การจดจำเรื่องราว เหตุการณ์ และบุคคล
ที่เป็น "สิ่งไม่ดีงาม" หรือเป็นสิ่ง "ชั่วร้าย"
หรือสิ่ง "เลวทราม" ที่ไม่ดีในชีวิตตนเอง
โดยท่านจะจำมันได้ทั้งๆที่ไ
เข้าทำนองยิ่งอยากจำจะกลับล
ยิ่งอยากลืมจะกลับจำนั่นล่ะ
สาเหตุที่คนทั้งหลายมีจุดแข
เพราะคนทั่วไปมักอยากจำแต่ส
ส่วนสิ่งที่ไม่ดีก็อยากจะลื
ซึ่งท่านทั้งหลายจะต้องรู้ว
ธรรมชาติของมนุษย์มีหน้าที่
เพื่อพัฒนาจิตและปัญญาของตน
สิ่งที่เป็นความล้มเหลว
สิ่งที่เป็นความผิดพลาดใดๆใ
หรือเรื่องเลวร้ายต่างๆที่ต
คนส่วนใหญ่มักไม่มีใครอยากจ
เพราะระลึกขึ้นมาได้ทีไรเป็
ท่านจักต้องรู้ว่า
การที่ธรรมชาติไม่ยอมให้ท่า
ก็เพราะต้องการให้ท่านใช้
เป็นบทเรียนในอนาคต
เพื่อที่จะไม่ต้องผิดพลาดเช
ธรรมชาติจึงไม่ยอมให้ท่านลื
แม้จะพยายามลืมกันก็ตาม
นี่จึงนับเป็นจุดแข็งของคน "ขี้ลืม"
ที่เป็นจำพวกแรก
จำพวกที่สองซึ่งเป็นจุดแข็ง
นั่นคือ "การหมายรู้"
การหมายรู้ หมายถึง
การจดจำอารมณ์รู้สึกที่ไม่ด
หรืออารมณ์รู้สึกด้านลบของต
ขณะเสียสมดุลเอาไว้แบบฝังใจ
เพราะถูกใครคนหนึ่งกระทำในส
หรือพบเจอสถานการณ์ด้านลบ
ที่ทำให้ตนเองเสียสมดุลทางจ
การจำได้หมายรู้อารมณ์ไม่ดี
ถ้าระลึกถึงมันขึ้นมาเมื่อไ
สภาวะจิตก็จะเกิดอาการเสียส
โดยไม่ต้องมีคนเดิมหรือสถาน
มาเป็นเงื่อนไขด้านลบให้ท่า
ท่านก็จะสามารถระลึกถึงเหตุ
รวมทั้งจะระลึกถึงคนเดิมในอ
ถ้าท่านมีอาการเป็นแบบนี้ใน
แม้ว่าเรื่องราวหรือเหตุการ
มันจะผ่านมาเนิ่นนานนับเป็น
เราจะเรียกอาการทางจิตเช่นน
"อาฆาต"
ดังนั้น
คำว่า "อาฆาต" จึงหมายถึง
การจดจำอารมณ์ไม่ดีของตนไว้
พร้อมกับจดจำคนที่เป็นเงื่อ
ให้ท่านเกิดอารมณ์ไม่ดีนั้น
แต่ถ้าท่านจดจำอารมณ์ไม่ดี
พร้อมคนที่ทำไม่ดีกับท่านได
โดยคอยจ้องจะหาโอกาสแก้แค้น
เราจะเรียกอาการทางจิตเช่นน
"เคียดแค้น"
ยิ่งถ้าท่านจดจำอารมณ์ไม่ดี
พร้อมจำคนที่ทำไม่ดีต่อท่าน
โดยคอยหาโอกาสแก้แค้นเอาคืน
แม้ว่ามันจะข้ามผ่านภพชาติม
เราจะเรียกอาการทางจิตเช่นน
"ผูกพยาบาท"
คนที่มีอาการทางจิตทั้ง 3 แบบนี้
เป็นคนที่มีสภาวะจิตเต็มไปด
ที่เป็นความทุกข์ก็เพราะจิต
จึงยังผลให้กลายเป็นคนวู่วา
มีอารมณ์ก้าวร้าวรุนแรงโมโห
ชอบใช้อารมณ์นำหน้าเหตุผลเส
แต่คนที่มีจิตผูกพยาบาท
จะแย่กว่าคนอีกสองจำพวก
เพราะนอกจากจะทุกข์ใจในชาติ
จิตวิญญาณยังจะต้องแบกทุกข์
ข้ามภพชาติไปอีกต่างหากด้วย
เพื่อมุ่งแก้แค้นเอาคืนให้จ
ใครคบคนที่มีจุดแข็งในแบบคน
ก็ต้องระวังพฤติกรรมหรือสำร
เผลอพลั้งพลาดไปจะเกิดความข
ในหมู่พวกเดียวกันได้ง่ายๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่จะชี้แนะท่า
จงอย่าพยายามลืมเรื่องร้ายๆ
โดยไม่พยายามที่จะศึกษาเรีย
องค์ความรู้ที่ดีและมีประโย
จากสถานการณ์ด้านลบที่ตนเอง
มีอะไรน่าเรียนรู้ไว้เป็นปร
จงอย่ายอมให้มันผ่านไปโดยไร
ส่วนอารมณ์ที่ไม่ดีนั้น
ให้รีบปล่อยวางมันเสียให้สิ
เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเ
แถมจะทำให้แก่เร็วและอายุสั
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
29-3-2017