วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การใช้อริยสัจ 4 สำหรับฆราวาส



การใช้อริยสัจ 4 สำหรับฆราวาส:
................................................
1.อริยสัจ 4 คือ สูตร หรือ ข้อกำหนด หรือ แนวทางซึ่งเป็นความจริงอันประเสริฐที่จะใช้จัดการกับสิ่งที่มนุษย์ทั้งหลายเรียกว่า "ความทุกข์" ได้แบบเบ็ดเสร็จ

2.ถ้าเป็นความทุกข์ในมิติแห่งจิตวิญญาณของพวกเธอ ก็เห็นจะเป็นเรื่องของการมีสังสารวัฏ หรือ การเวียนว่ายตายเกิดอันมิรู้สิ้นสุดหลุดพ้นกันได้เมื่อไหร่ ต่อกรณีนี้พระพุทธองค์ได้ทรสอนสั่งพวกเธอเอาไว้นานแล้ว

3.แต่ถ้าเป็นความทุกข์ในมิติโลกทางกายภาพ ก็คือ ทุกข์กาย ทุกข์ใจ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นฆราวาสโดยเลือกจะมีครอบครัว หรือเลือกดำเนินชีวิตในบทบาทของนักสู้เพื่อการรู้แจ้ง มักจะหนีไม่พ้นกับการต้องเผชิญสิ่งที่ตนเรียกว่าทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น

4.สิ่งที่เรียกว่าทุกข์ ก็คือ สิ่งที่เธอรู้สึกว่าทนได้ยาก ทนไม่ไหว ทนไม่ได้ จนอยากเอามันออกไปให้พ้นจากตัวเธอ หรือไม่ก็อยากจะเอาตัวเธอเองออกไปให้พ้นจากสิ่งนั้นอย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วนใหญ่พวกเธอจะใช้คำรวมสั้นๆว่า "ปัญหา" นั่นเอง

หลักการใช้อริยสัจ 4 เพื่อจัดการกับปัญหาในชีวิต:
.......................................................................
1.เมื่อเกิดทุกข์ เธอต้องสำนึกรู้ทันทีว่า เธอได้พบเผชิญกับปัญหาเข้าให้แล้ว หน้าที่ของเธอก็คือ จักต้องเรียนรู้ด้วยการวิเคราะห์ให้ได้ ค้นให้พบว่า "ปัญหานั้น" คือ อะไรกันแน่ ซึ่งหมายถึงการเรียนรู้ว่า "ทุกข์" ของตนคืออะไรตามหลักแห่งอริยสัจนั่นเอง

2.เมื่อค้นพบว่าปัญหาอันเป็นที่มาแห่งทุกข์ของเธอ คือ อะไรแน่แล้ว หน้าที่ของเธอก็จักต้องทำการสืบค้นต่อไปว่า ต้นตอหรือบ่อเกิดแห่งปัญหาที่แท้จริงที่เธอพบนั้นมัน คือ อะไรแน่

นี่ก็หมายถึง การเรียนรู้สาเหตุแห่งปัญหาอันนำมาซึ่งความทุกข์ที่เธอเผชิญอยู่ ที่หลักแห่งอริยสัจ หมายถึง "สมุทัย" คือ การเรียนรู้ถึงสาเหตุแห่งการเกิดทุกข์นั้นนั่นเอง

3.เมื่อค้นพบว่า ตัวต้นต่อบ่อเกิดแห่งปัญหาที่นำมาซึ่งความทุกข์ทั้งหลายของเธอนั้น มันคืออะไรแน่แล้ว เธอก็ต้องเรียนรู้ต่อไปว่าจะแก้ปัญหาตรงสาเหตุแห่งปัญหานั้น ด้วยวิธีการใดได้บ้าง คิดหาวิธีให้ได้หลายๆวิธี แล้วก็ตัดสินใจเลือกเอาวิธีที่ดีที่สุดที่เธอพร้อมและสามารถจะทำได้จริงเพื่อนำมาใช้แก้ไขปัญหานั้นต่อไป

นี่ก็หมายถึง การเรียนรู้ที่จะค้นหาวิธีการที่เหมาะสมที่สุดและมั่นใจว่านำมาใช้แก้ไขปัญหาอันเป็นที่มาแห่งทุกข์ของเธอได้แน่ๆ ด้วยวิธีการตัดสินใจเลือกที่ฉลาดที่สุด ซึ่งหลักแห่งอริยสัจ หมายถึง "นิโรธ" อันหมายถึง ความดับทุกข์นั้นได้สำเร็จโดยแท้

4.เมื่อเธอจัดการกับปัญหาดังกล่าวที่เผชิญอยู่เป็นผลสำเร็จ นั่นเท่ากับว่า เธอจัดการดับทุกข์ทั้งกายและใจของเธอได้แล้ว หน้าที่ของเธอยังจักต้องเรียนรู้ต่อไปให้สุดทางอีกด้วยว่า....เมื่อเธอมีประสบการณ์แห่งทุกข์นั้นแล้ว เธอจะป้องกันตนเองอย่างไรเพื่อมิให้เกิดทุกข์แบบเดียวกันนี้อีกในวันข้างหน้า....

นี่คือ ปัญหาเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา ใช่หรือไม่ล่ะ?

ถ้าเธอใช้ประสบการณ์นี้เป็นบทเรียน แล้วเตรียมตัวเตรียมใจป้องกันไว้มิให้มันเกิดปัญหาที่จะนำพาความทุกข์มาให้เธออีกในวันข้างหน้าได้นั้น ตามหลักแห่งอริยสัจ 4 ก็หมายถึง "มรรค" นั่นคือ การรู้วิถีทางดำเนินชีวิตที่ชาญฉลาด (Smart) โดยไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดในการดำเนินชีวิตตามแบบเดิมๆอีกตลอดไป

5.ตั้งแต่โตเป็นผู้ใหญ่จนถึงวัยชรา ในแต่ละวันถ้าเธอใช้หลักแห่งอริยสัจ 4 ที่เรากล่าวมาทั้งหมดพอสังเขปนี้ จัดการกับอุปสรรคปัญหาใดๆในชีวิต เธอก็จะสามารถผ่านบททดสอบและได้รับบทเรียนกันอย่างมากมายมหาศาล ขณะที่จิตปัญญาของเธอก็จะทรงพลังอำนาจเหลือคณานับ มิมีงมงาย มิใช่แก่แล้วแก่เลย ตามอายุขัยที่ผ่านมาเป็นแน่แท้....

หมายเหตุ:

สำหรับคำขยายของ "มรรค ที่มีองค์ประกอบ 8 ประการ" นั้น
เป็นคำเฉลยที่พระพุทธองค์ทรงรวบรวมเอาไว้ให้พวกเธอได้ระวังตนกันให้มากๆว่า มันล้วนเป็นที่มาแห่งการเกิดทุกข์กาย ทุกข์ใจ ในชีวิตประจำวันด้วยกันทั้งสิ้น

พระพุทธองค์ ทรงหมายความว่า
ถ้าเธอประพฤติมิชอบใน 8 กรณีนี้
เธอย่อมเกิดทุกข์แน่ๆ ทั้งกายและใจ กล่าวคือ....

1.การเข้าใจผิด
2.การคิดผิด
3.การพูดผิด
4.การทำผิด
5.การยังชีพผิด
6.การเกียจคร้าน
7.การขาดสติ
8.การขาดสมาธิ

รวมแล้วพวกเธอกล่าวขานกันว่า "มรรค 8" นั่นแหละนะ....

พระศาสดาท่านทรงตรัสสอนเอาไว้ดีแล้ว
หากว่าเธอมีธรรมะดีๆแต่ไม่เข้าใจ
หรือว่าเข้าใจไปเสียผิดๆ ก็หาประโยชน์อันใดมิได้ทั้งนั้น

อีโมติคอน heart คราวนี้หยิบฉวยเอา "อริยสัจ 4"
มาใช้ในชีวิตกันอย่างเป็นรูปธรรมได้รึยังล่ะ
ท่านนักเรียนผู้อุทิศตนเป็นฆราวาสแห่งเราทั้งหลาย.....

ป.วิสุทธิปัญญา
ชมรมจิตจักรวาลศึกษาแห่งโลก UCSA
17-07-2014

เส้นทางสู่ความสำเร็จ



เส้นทางสู่ความสำเร็จสำหรับท่านทั้งหลายนั้น
มันขึ้นอยู่กับว่าท่านกล้าที่จะออกเดินก้าวแรกหรือไม่
เมื่อเดินก้าวแรกแล้ว...
ท่านพร้อมที่จะย่างเดินก้าวใหม่ต่อๆไปอีกหรือเปล่า

อุปสรรคขวากหนามที่รออยู่ข้างหน้า
เป็นเครื่องมือช่วยท่านในการสั่นสะเทือนทางปัญญา
มิใช่ตัวปัญหาที่จะนำพาความท้อถอยมาสู่ใจท่านเลย

ลูกท้อ...จึงมีไว้ให้ลิงถือเท่านั้น
จงอย่าชิงถือลูกท้อแทนลิงก็แล้วกัน

บันไดสู่ความสำเร็จนั้นมีหลายขั้น
จงหมั่นเรียนรู้ที่จะก้าวเดินแม้สูงชัน
เพราะรางวัลที่ท่านจะได้รับนั้นเลอค่ายิ่งนัก

เอเมน....สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา
21-05-2015


ทุกข์สุขอยู่ที่ใจใช่ใครอื่น 

ทุกข์ได้แต่ไม่ท้อพอหยัดยืน

พลันยิ้มชื่นจิตว่างถ้าวางเป็น

               ป.วิสุทธิปัญญา



ความเชื่อของท่าน - กับความจริงของเรา



เรากล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายเสมอ

ท่านจะรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั้น
ท่านจะเข้าใจ....
เพราะท่านได้ศึกษาเรียนรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั้น

ท่านจะศรัทธาในความรู้ใหม่ของครู
เพราะท่านเองไม่เคยรู้ในความรู้ใหม่ที่ครูสอนนั้น

แต่...ท่านไม่รู้ในสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นนั้น
ท่านจึงไม่เข้าใจมัน....
เพราะไม่มีประวัติศาสตร์ให้ท่านได้ศึกษาเรียนรู้
ในสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยนั้น

ท่านจึงต้องไม่รีบปฏิเสธความรู้ใหม่ของครูคนไหน
ถ้าความรู้ใหม่ที่ครูกล่าวให้ท่านฟังนั้น
มันเป็นเรื่องราวของอนาคต
มันเป็นเรื่องจริงที่ยังมาไม่ถึง
มันเป็นความจริงที่สามารถจะรอพิสูจน์ได้

อย่าสรุปง่ายๆว่า....
สิ่งใดไม่เคยเกิดขึ้นสิ่งนั้นย่อมไม่เกิดตลอดกาล
ตัวอย่างเช่น....
ถ้าก้นของเด็กน้อยคนหนึ่งไม่เคยเป็นฝีมาก่อนเลย
พ่อแม่ของเด็กคนนี้จะบ่งชี้อย่างมั่นใจได้หรือว่า
เมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาก้นของเด็กคนนี้
จะไม่มีวันเป็นฝีไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน

เราจึงจะกล่าวความจริงไว้ตรงนี้อีกครั้งว่า
อันภัยพิบัติธรรมชาติที่ผิดธรรมชาตินั้น
แม้เคยเกิดขึ้นที่ใดแล้ว มันก็จักเกิดขึ้นซ้ำได้อีก
แม้ที่ใดที่มันไม่เคยเกิดขึ้น
ณ ที่แห่งนั้นมันก็จะเกิดภัยขึ้นมาเป็นครั้งแรกได้เช่นกั

นี่คือ...ความจิงของเรา
ซึ่งมันจะต่างกันกับ "ความเชื่อ" ของท่าน
พันเปอร์เซ็นต์...

ป.วิสุทธิปัญญา
21-05-2015