พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
พลังอำนาจทางจิตวิญญาณของท่าน
กับเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของท่านนั้น
เปรียบดั่ง "แบ็ตเตอรี่" ที่ติดตั้งเอาไว้ในรถยนต์นั่นล่ะ
รถยนต์จะไม่มีทางสตาร์ทเครื่องยนต์ติดได้เลย
ถ้ารถคันนั้นไม่มีแบตเตอรี่
หรือมีแบตเตอรี่แต่พลังไฟในแบตเตอรี่นั้นไม่มี
เพราะแบตเตอรี่เสื่อม หรือลืมชาร์จไฟ
เปรียบดั่งเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของท่าน
ถ้าพลังอำนาจทางจิตวิญญาณของท่านเสื่อม
เครื่องยนต์แห่งกรรมของท่านก็จะเสื่อมอำนาจ
จะขาดสมรรถนะในการดำเนินชีวิต
ท่านจะไม่ฉลาด ขาดสมรรถนะทางสมอง
ท่านจะขาดสิ่งดีๆที่จะเข้ามาในชีวิต
ท่านจะรักษาสิ่งดีๆในชีวิตเอาไว้ไม่ได้
จนแม้แต่คนที่ท่านรัก สามีภรรยา บุตรบริวาร หุ้นส่วน
ท่านก็จะไม่สามารถเหนี่ยวรั้งพวกเขาเอาไว้ได้
สุขภาพร่างกายของท่านก็จะอ่อนแอขี้โรค
เพราะจิตวิญญาณของท่าน
มีส่วนสำคัญในการจัดการคุณสมบัติด้านดีๆเหล่านี้
เพื่อเกื้อกูลต่อการดำเนินชีวิตที่สมบูรณ์ของท่านนั่นแหละ
พลังอำนาจทางจิตวิญญาณ
คือ สิ่งที่เราเรียกว่า "พลังจิตใต้สำนึก"
เมื่อแรกมาเกิดเป็นมนุษย์พวกท่านทุกคน
ต่างล้วนได้รับพลังอำนาจนี้จากพระบิดาแล้ว
มิเช่นนั้นจิตวิญญาณของท่าน
ก็มิอาจเดินทางข้ามมิติมาสู่การเกิดเป็นมนุษย์
ในระบบโลกเสรีดวงนี้ได้หรอก
เมื่อท่านจบสิ้นอายุขัยในเส้นทางพระนิพพานแล้ว
จิตวิญญาณของท่านก็จำต้องใช้พลังอำนาจส่วนนี้
ดีดตนเองหนีแรงดึงดูดเหนี่ยวรั้งของเอกภพ
หลุดออกไปสู่ภายนอกที่เรียกว่าแดนสุญตาเช่นกัน
ดังนั้น
ท่านจึงต้องรู้รักษาพลังอำนาจทางจิตวิญญาณนี้ไว้
ด้วยการใช้พลังอำนาจจิตใต้สำนึกนี้ให้เป็น
และต้องเรียนรู้ที่จะเพิ่มพลังอำนาจในตนเองนี้ได้ด้วย
ครั้งหน้า.....
เราจะมากล่าวความจริงให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า
การที่ท่านพยายามจะใช้จิตใต้สำนึกด้วยการ "สั่งจิต"
โดยใช้วิธีการที่ผิดธรรมชาติหรือผิดบาป
ซึ่งเราขอเรียกว่า "ฉ้อฉล" ที่นิยมกันอยู่นั้น
ผลร้ายมันจะเกิดขึ้นขณะท่านยังมีชีวิตอยู่อย่างไรบ้าง
เมื่อตายไปในชาตินี้แล้วจิตวิญญาณของท่าน
จะมีชะตากรรมกันเช่นไร
หากท่านสนใจใคร่รู้
เราจะมาสาธยายให้ท่านฟัง...
ใครใคร่รู้โปรดชูมือขึ้นสูงๆไว้
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
25-06-2016