เราเชื่อว่าท่านทั้งหลาย
คงได้ทำความรู้จักกับพลังอำ นาจทางจิตวิญญาณ
ซึ่งชาวโลกเรียกกันว่า "พลังจิตใต้สำนึก"
ที่ตัวท่านเองล้วนมีอยู่กัน มากขึ้นบ้างแล้วนะว่า
ท่านจะไปยุ่งเกี่ยวแทรกแซงก ระบวนการไม่ได้
เพราะมันเป็น "พลังอำนาจทางจิตวิญญาณ"
ที่จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน เป็นผู้ใช้มัน
เพื่อคอยสั่นสะเทือนตามจิตส ำนึกของท่าน
ในกระบวนการหมุนธรรมจักรหรื อกรรมจักรเท่านั้น
ถ้าท่านใช้วิธีฉ้อฉลจิตใต้ส ำนึก
เพื่อหมายเอาพลังอำนาจพิเศษ มาใช้ประโยชน์
ด้วยวิธีการที่ผิดธรรมชาติห รือด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง
นั่นเท่ากับว่าตัวท่านเป็นเ หตุให้จิตวิญญาณของท่าน
ไม่สามารถทำสามเหลี่ยมกับพร ะผู้เป็นเจ้า
ผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิ ญญาณของตนเองได้
จิตวิญญาณของท่านและตัวท่าน เอง
จึงเสมือนถูกตัดขาดความสัมพ ันธ์กับพระองค์ไปทันที
เพราะเหตุว่าจิตใต้สำนึกของ ท่าน
มัวแต่สั่นสะเทือนเพื่อตอบส นองในสิ่งที่ท่านต้องการ
อย่างงุ่นง่านงมงายอยู่แต่ใ นระบบโลก
ซึ่งเป็นการให้บำเหน็จรางวั ลแก่ตัวท่านเองโดยแท้
แทนที่จะส่งคลื่นพลังแห่งจิ ตใต้สำนึก
ขึ้นไปกราบพระบาทถวายรายงาน ต่อพระองค์
ณ จุดศูนย์กลางแห่งมหาจักรวาล นอกระบบเอกภพ
ในความดีงามใดๆที่ท่านได้กร ะทำอยู่นั้น
เพื่อพระองค์จะได้ประทานบำเ หน็จอันเหมาะสม
ให้แก่ท่านด้วยพระหัตถ์ของพ ระองค์เอง
จึงนับว่าน่าเสียดายเป็นที่ ยิ่ง
การแทรกแซงกระบวนการทางจิตใ ต้สำนึก
ที่ทำให้มนุษย์ขาดการติดต่อ กับพระบิดาก็คือ
การสั่นสะเทือนจิตสำนึกเพื่ อทำความดีงามใดๆ
แล้วตั้งเป้าหมายว่าต้องการ จะได้รับสิ่งตอบแทน
จากการกระทำความดีงามของท่า นนั้น
เพราะสิ่งตอบแทนความดีที่ท่ านทำแล้วร้องขอนั้น
ส่วนใหญ่จะเป็นความสำเร็จ ความร่ำรวย
ความมีโชคลาภ ความสมหวัง หรือความแคล้วคลาด
โดยที่สิ่งเหล่านี้นั้นมันเ ป็นเรื่องทางโลก
พระเจ้าหรือพระบิดาทรงประทา นให้ท่านไม่ได้
เพราะในแดนสุญตาของพระองค์ "ไม่มี" จะให้ท่าน
พระองค์ทรงมีเพียงความรู้ ความรัก
ความจริงหรือข้อสัจธรรม และหน้าต่างแห่งโอกาส
ที่พร้อมจะประทานให้แก่บุตร ที่ดีทั้งหลาย
ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เองเ ท่านั้น
นอกจากนั้นเพราะท่านทั้งหลา ย
ได้ตัดขาดการติดต่อกับพระบิ ดามายาวนาน
จึงยังผลให้พลังอำนาจทางจิต วิญญาณ
ที่เรียกว่าพลังแห่งจิตใต้ส ำนึกของท่าน
รังแต่จะลดน้อยถอยลงไปทุกที ด้วย
เนื่องจากใช้ไปแล้วมิได้รับ การเติมเต็ม
ท่านจึงมีอาขุขัยของกายสังข ารสั้นลง
ท่านจึงมีระดับสติปัญญาตกต่ ำลง
ท่านจึงมีปัญหาในการรวมจิตห ยาบกับกายหยาบ
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับจิต วิญญาณตนเอง เป็นต้น
ความเสื่อมทั้งสามประการที่ กล่าวมานี้
มันคือคุณสมบัติด้านลบของมน ุษย์โลกเสรี
ที่ยังผลให้ท่านล้วนสอบตกบท ทดสอบจิตสำนึก
ที่ยังผลให้ท่านนำพาจิตวิญญ าณหลุดพ้นไม่สำเร็จ
เราจึงจะขอกล่าวความจริงต่อ ท่านทั้งหลายว่า
ถ้าท่านทำสิ่งที่ถูกต้องเหม าะสมดีงามเมื่อไหร่
ขอเพียงกำหนดวัตถุประสงค์ใน การกระทำให้ชัด
แล้วคิดค้นหาวิธีการปฏิบัติ
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์น ั้นก็พอแล้ว
โดยมิพักต้องตั้ง "เป้าหมาย" หรอกว่า
ถ้าทำแล้วท่านจะได้อะไร จะได้เท่าไหร่
จะได้บำเหน็จนั้นเมื่อใด เป็นต้น
โดยใช้หลัก PARINYA MODEL
ว่าด้วย 3 เต็มดังนี้ คือ ...............
1.ทำให้ "เต็มที่" หรือเต็มพลังสามารถ
2.ทำให้ "เต็มเวลา" เท่าที่มีให้ท่านทำ
3.ทำอย่าง "เต็มใจ" ที่จะทำ
ด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน กับการกระทำนั้น
จงจำไว้ว่าถ้าท่านต้องการผล ลัพธ์ คือ 2
ท่านก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องไ ปอยากได้ 2
ด้วยการเอาจิตใจไปจดจ่ออยู่ กับ 2 เลย
สิ่งที่ท่านสมควรทำก็คือใช้ สติปัญญาคิดค้น
เพื่อหาคำตอบให้ได้ว่า
ท่านต้องเอาอะไรบวกกับอะไรจ ึงจะได้ 2
แปลว่าท่านจะต้องให้ความสำค ัญกับ "วิธีการ"
ที่จะให้ได้มาซึ่ง "ผลลัพธ์" ที่ต้องการคือ 2 นั้น
มิใช่มุ่งเน้นแต่ "ผลลัพธ์" ที่ต้องการ
โดยไม่ใส่ใจวิธีการที่จะได้ มันมา
ดังเช่นท่านอยากรวยด้วยการเ อาแต่ถามตนเองว่า
"เมื่อไหร่ฉันจะรวยกับเขาซะ ทีนะ"
แทนที่จะถามหาวิธีที่จะทำให ้ท่านรวย
ท่านย่อมไม่มีวันรวยกับเขาไ ด้หรอก
เพราะจิตใต้สำนึกไปหาความรว ยมาให้ไม่ได้
มันไม่รู้จักและไม่เข้าใจว่ าตัวรวยหน้าตาเป็นไง
ใครปรารถนาจะเรียนรู้เรื่อง จิตใต้สำนึกต่อ
ก็ชูมือขึ้นอีกครั้งก็แล้วก ันนะ
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
13-07-2016
คงได้ทำความรู้จักกับพลังอำ
ซึ่งชาวโลกเรียกกันว่า "พลังจิตใต้สำนึก"
ที่ตัวท่านเองล้วนมีอยู่กัน
ท่านจะไปยุ่งเกี่ยวแทรกแซงก
เพราะมันเป็น "พลังอำนาจทางจิตวิญญาณ"
ที่จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
เพื่อคอยสั่นสะเทือนตามจิตส
ในกระบวนการหมุนธรรมจักรหรื
ถ้าท่านใช้วิธีฉ้อฉลจิตใต้ส
เพื่อหมายเอาพลังอำนาจพิเศษ
ด้วยวิธีการที่ผิดธรรมชาติห
นั่นเท่ากับว่าตัวท่านเป็นเ
ไม่สามารถทำสามเหลี่ยมกับพร
ผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิ
จิตวิญญาณของท่านและตัวท่าน
จึงเสมือนถูกตัดขาดความสัมพ
เพราะเหตุว่าจิตใต้สำนึกของ
มัวแต่สั่นสะเทือนเพื่อตอบส
อย่างงุ่นง่านงมงายอยู่แต่ใ
ซึ่งเป็นการให้บำเหน็จรางวั
แทนที่จะส่งคลื่นพลังแห่งจิ
ขึ้นไปกราบพระบาทถวายรายงาน
ณ จุดศูนย์กลางแห่งมหาจักรวาล
ในความดีงามใดๆที่ท่านได้กร
เพื่อพระองค์จะได้ประทานบำเ
ให้แก่ท่านด้วยพระหัตถ์ของพ
จึงนับว่าน่าเสียดายเป็นที่
การแทรกแซงกระบวนการทางจิตใ
ที่ทำให้มนุษย์ขาดการติดต่อ
การสั่นสะเทือนจิตสำนึกเพื่
แล้วตั้งเป้าหมายว่าต้องการ
จากการกระทำความดีงามของท่า
เพราะสิ่งตอบแทนความดีที่ท่
ส่วนใหญ่จะเป็นความสำเร็จ ความร่ำรวย
ความมีโชคลาภ ความสมหวัง หรือความแคล้วคลาด
โดยที่สิ่งเหล่านี้นั้นมันเ
พระเจ้าหรือพระบิดาทรงประทา
เพราะในแดนสุญตาของพระองค์ "ไม่มี" จะให้ท่าน
พระองค์ทรงมีเพียงความรู้ ความรัก
ความจริงหรือข้อสัจธรรม และหน้าต่างแห่งโอกาส
ที่พร้อมจะประทานให้แก่บุตร
ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เองเ
นอกจากนั้นเพราะท่านทั้งหลา
ได้ตัดขาดการติดต่อกับพระบิ
จึงยังผลให้พลังอำนาจทางจิต
ที่เรียกว่าพลังแห่งจิตใต้ส
รังแต่จะลดน้อยถอยลงไปทุกที
เนื่องจากใช้ไปแล้วมิได้รับ
ท่านจึงมีอาขุขัยของกายสังข
ท่านจึงมีระดับสติปัญญาตกต่
ท่านจึงมีปัญหาในการรวมจิตห
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับจิต
ความเสื่อมทั้งสามประการที่
มันคือคุณสมบัติด้านลบของมน
ที่ยังผลให้ท่านล้วนสอบตกบท
ที่ยังผลให้ท่านนำพาจิตวิญญ
เราจึงจะขอกล่าวความจริงต่อ
ถ้าท่านทำสิ่งที่ถูกต้องเหม
ขอเพียงกำหนดวัตถุประสงค์ใน
แล้วคิดค้นหาวิธีการปฏิบัติ
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์น
โดยมิพักต้องตั้ง "เป้าหมาย" หรอกว่า
ถ้าทำแล้วท่านจะได้อะไร จะได้เท่าไหร่
จะได้บำเหน็จนั้นเมื่อใด เป็นต้น
โดยใช้หลัก PARINYA MODEL
ว่าด้วย 3 เต็มดังนี้ คือ ...............
1.ทำให้ "เต็มที่" หรือเต็มพลังสามารถ
2.ทำให้ "เต็มเวลา" เท่าที่มีให้ท่านทำ
3.ทำอย่าง "เต็มใจ" ที่จะทำ
ด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน
จงจำไว้ว่าถ้าท่านต้องการผล
ท่านก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องไ
ด้วยการเอาจิตใจไปจดจ่ออยู่
สิ่งที่ท่านสมควรทำก็คือใช้
เพื่อหาคำตอบให้ได้ว่า
ท่านต้องเอาอะไรบวกกับอะไรจ
แปลว่าท่านจะต้องให้ความสำค
ที่จะให้ได้มาซึ่ง "ผลลัพธ์" ที่ต้องการคือ 2 นั้น
มิใช่มุ่งเน้นแต่ "ผลลัพธ์" ที่ต้องการ
โดยไม่ใส่ใจวิธีการที่จะได้
ดังเช่นท่านอยากรวยด้วยการเ
"เมื่อไหร่ฉันจะรวยกับเขาซะ
แทนที่จะถามหาวิธีที่จะทำให
ท่านย่อมไม่มีวันรวยกับเขาไ
เพราะจิตใต้สำนึกไปหาความรว
มันไม่รู้จักและไม่เข้าใจว่
ใครปรารถนาจะเรียนรู้เรื่อง
ก็ชูมือขึ้นอีกครั้งก็แล้วก
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
13-07-2016